“บิ๊กป้อม” ลั่น ปี 66 หวังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อ มั่นใจทำพปชร.มา 4 ปี ทำได้ เดินไปต่อหากมีคนหนุน ถ้าไม่มี ผมก็เลิก ยัน ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากทางการเมือง
วันที่ 1 ม.ค. 66 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงทิศทางการทำงานของพรรคพลังประชารัฐ และการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งในปี 2566 ว่า พรรคตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลประชาชนคนไทย ก็อยากจะทำอะไรให้กับประชาชนทุกอย่าง ให้อยู่ดีกินดีเพิ่มมากขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นความมุ่งหมายของพรรคพลังประชารัฐในการตั้งพรรคมา 3-4 ปีนี้
เมื่อถามว่า ขณะนี้กระแสความนิยมของหัวหน้าพรรคมีขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในครั้งที่แล้วเราตั้งพรรคมา 2 เดือนก็ได้ ส.ส.ร้อยกว่าคน และคราวนี้ตนอยู่กับพรรคนี้มาตั้ง 4 ปีแล้ว ทำไมมันจะไม่ได้ อย่างไรและเราหวังอย่างยิ่งว่าประชาชนจะให้ความสนใจต่อพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคในการจัดตั้งรัฐบาลเหมือนครั้งที่ผ่านมา และเราก็หวังว่าจะไปร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งใหม่
เมื่อถามว่า ยืนยันว่าจะทำพรรคพลังประชารัฐให้เป็นสถาบันการเมือง ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใช่ๆ ตนตั้งใจว่าจะทำพรรคพลังประชารัฐให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็งต่อไป เพราะ ส.ส.ในพรรคทุกคนให้การสนับสนุนร่วมใจอย่างดี
เมื่อถามว่า เมื่อปี่กลองการเมืองเริ่มขึ้น และท่านเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนยังไม่ขอพูดเรื่องนี้ และพรรคเองยังไม่ได้เสนอชื่อ
เมื่อถามย้ำว่า ในปี 66 การหาเสียงจะมีการปรับลุค สไตล์หาเสียงด้วยการใส่กางเกงยีนส์ เพราะทำให้เกิดกระแสฮือฮา “ป๊อปปูลาร์” และมี “ใจบันดาลแรง” ในช่วงรักษาการนายกรัฐมนตรีตลอด 38 วัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไรพิเศษ ส่วนคำว่า “ใจบันดาลแรง” ตนก็คิดเอง หลังจากสื่อมวลชนถามมีแรงบันดาลใจอย่างไรในการทำงานช่วงนั้น ว่า “ผมใช้ใจบันดาลแรง ไม่ได้ใช้แรงบันดาลใจ เพราะมีแต่ใจเท่านั้น เพราะแรงผมไม่ค่อยมี… ขาเดินไม่ค่อยสะดวก” ก็เท่านั้น
...
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลยุทธ์เลือกตั้งครั้งหน้ามี “ไม้เด็ด” อะไรหรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า “ไม่มีอะไร อย่างคราวที่แล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะมาการเมืองด้วย มาครั้งแรกก็ “ตกกระไดพลอยโจน” เข้ามา 3 ปีเอง อย่างไรก็ตามหากมีคนสนับสนุนผมก็ทำไป ถ้าไม่มีใครสนับสนุนผมก็เลิก ผมไม่ได้ประโยชน์อะไรจากทางการเมือง”
เมื่อถามย้ำว่า ระหว่างเป็นนักการเมืองมา 3 ปี กับเป็นทหารมาทั้งชีวิต ท่านชอบอะไรมากกว่ากัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมบอกเลยว่าผมชอบเป็นทหารมากกว่า ผมไม่ชอบเป็นนักการเมือง”.