ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โต้ ข้อกล่าวหา ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ยัน สมัยตนไม่มีใครมาสั่งได้ กรีดยับ จะมีแค่สมัยในยุคของประธานคนที่พูดเท่านั้นที่มีปัญหา
วันที่ 20 ธ.ค. 65 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ผลสำรวจของนิด้าโพล ออกมาว่าประชาชนต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยุบสภา ว่า เป็นความรู้สึกของประชาชนกลุ่มหนึ่งที่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง แต่คนทั้งประเทศอาจเห็นต่างกัน ส่วนกรณีที่จะมี ส.ส.อีกจำนวนหนึ่งลาออก จะมีผลต่อความชอบธรรมในการพิจารณากฎหมายสำคัญหรือไม่นั้น โดยทั่วไปต้องรอดูตัวเลข ว่าตัวเลขจะลดลงจนไม่สามารถเป็นตัวแทนของประชาชนหรือไม่ โดยตัวเลขในขณะนี้เป็นคนที่ย้ายพรรคซึ่งเชื่อว่าจะไม่มากไปกว่านี้
เมื่อถามถึงร่างกฎหมาย 2 ฉบับที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมที่พรรคเพื่อไทยเสนอจะมีโอกาสที่จะพิจารณาทันในสมัยประชุมนี้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าในประชุมสมัยนี้ไม่ทัน เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเพิ่งมีการเสนอเข้ามาและขณะนี้ยังมาไม่ถึงตนเพราะร่างที่เป็นทางการนั้น ขณะนี้อยู่ในกระบวนการการตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งนี้สมัยประชุมนี้เหลือสัปดาห์หน้าเพียงสัปดาห์เดียว ตนหวังว่า วันที่ 28-29 ธ.ค. หากเป็นไปได้ร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต และร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม หากผ่านก่อนสิ้นปีก็จะดี เพื่อที่กฎหมายอื่นจะสามารถเข้ามาพิจารณาได้ ฉะนั้นเวลาที่เหลืออยู่ก็ต้องมองในแง่ดีว่ายังไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นแม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าจะมีการยุบสภา แต่ตนคิดว่ายังมีเวลา ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บอกว่ารัฐบาลจะยุบสภา ซึ่งหากไม่มีการยุบสภาก็จะมีเวลาอีก 2 เดือน เราสามารถทำอะไรได้เยอะ เวลาเป็นของมีค่าหากทำงานจริงๆ ก็สามารถทำได้เยอะ
...
เมื่อถามว่ามี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยพูดถึงการทำหน้าที่ของประธานสภาว่า ไม่เป็นกลางจะมีการชี้แจงอย่างไร นายชวน กล่าวว่า จริงๆ เคยชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า ปัจจุบันฝ่ายบริหารไม่เคยมายุ่ง หรือมาสั่ง ไม่เหมือนสมัยก่อน สมัยที่พรรคของผู้ที่พูดเรื่องนี้ เป็นรัฐบาล นายกฯ สามารถสั่งให้ทำแม้กระทั่งเรื่องที่ไม่ถูก และเชื่อว่า ประธานทุกคนมีความเป็นกลาง จะมีแค่สมัยในยุคของประธานคนที่พูดเท่านั้นที่มีปัญหา
“ผมต้องขอเรียนว่า ท่านสมาชิกสบายใจได้ในยุคที่ผมอยู่ ไม่มีใครมาสั่งให้ทำอะไรที่ผิดซึ่งผู้ที่พูดเรื่องนี้อยู่ในยุคของประธานที่สามารถสั่งได้ เขาเลยอาจคิดว่าในยุคนี้อาจเหมือนยุคของพวกเขา ขอเรียนว่าไม่มี สภาไม่มีชีวิตไม่มีเสื่อม มีแต่คนที่จะทำให้ภาพพจน์ของสภาเสียหาย ในสมัยที่ผมเป็นประธานสภาใหม่ๆ ผมเตือนให้สมาชิกที่เป็นหนี้ค่าเครื่องบินไปชำระ เพราะบริษัททวงสภามา สภาก็ไม่รับผิดชอบเพราะเป็นหนี้ของคน ที่ไม่ขึ้นเครื่องบินก็ต้องจ่ายเอง หรือเรื่องของการจองตั๋วรถไฟแล้วไม่เดินทาง และไม่ยกเลิกซึ่งมีหลายคนที่ไปจ่าย และเมื่อเราไปดูชื่อก็จะตกใจ เพราะคนที่ไม่จ่ายส่วนมากเป็นคนที่มีฐานะ มีเงินมีฐานะในพรรคการเมือง ไม่ใช่ส.ส.ที่ไม่ค่อยมีฐานะ ซึ่งนี้เป็นภาพพจน์ของนักการเมืองที่จะเป็นลบ จะเสื่อมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของนักการเมือง แต่คนเหล่านี้ก็มองไม่ออกไปโทษนั้นโทษนี้ ไปประเมินกันเองว่า สมัยที่พรรคของตนเป็นรัฐบาล สภาอยู่ในอาณัติของหัวหน้าพรรค และนายกฯ สามารถสั่งได้ แต่ย้ำว่าในสมัยนี้ไม่มี” นายชวน กล่าว.