ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ ตัดสินใจโบกมือลา เพื่อไทย เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ บอกเห็นแนวทางแล้วตอบโจทย์ ยันไม่คิดเผาบ้านเก่า เหตุทุกการตัดสินใจขึ้นอยู่กับอุดมการณ์
วันที่ 19 ธ.ค. 2565 ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขต 7 บางซื่อ-ดุสิต พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ผ่านมาได้รับคำเชิญจากผู้ใหญ่ในพรรคพปชร.และได้ศึกษานโยบายและแนวทางในการทำงานของพรรคซึ่งเห็นว่าตอบโจทย์แนวทางในการทำงานที่เหมือนกันและพร้อมพิสูจน์ว่าเป็นพรรคที่ตั้งใจทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางพรรคมีการพัฒนาการและปรับตัวเองให้เข้าได้กับคนทุกรุ่น เน้นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
“ผมยืนยันว่าไม่เคยคิดจะเผาบ้านเก่า เพราะทุกการตัดสินใจทางการเมืองขึ้นอยู่กับอุดมการณ์ทางความคิดของสมาชิกและพรรคที่มีนโยบายแนวทางในการทำงานที่ตรงกัน ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ ซึ่งในส่วนของการย้ายพรรคก่อนเลือกตั้งใหม่นั้นเป็นเรื่องปกติของนักการเมืองที่ต้องหาบ้านที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ประชาชนก็มีโอกาสได้พิจารณาใหม่ มีสิทธิเลือกผู้แทนที่สามารถทำงานให้กับพวกเขาได้ตรงตามระบอบของประชาธิปไตย” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว
ทั้งนี้แม้ว่าหลายคนมีคำถามว่ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐแล้วจะทำอะไร ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของตนคือจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิม บางซื่อ-ดุสิต เพราะผลการเลือกตั้งในปี 2562 นั้นตนแพ้คะแนนไปเพียงหลักร้อย และตลอดเวลาที่ผ่านมายังได้ลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดยมีเสียงตอบรับที่ดีมาก และผลจากการสำรวจในการทำโพลทุกครั้ง ก็ชนะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตมาโดยตลอด และจากการที่ตนได้เสนอนโยบายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับทางพปชร. ซึ่งเป็นสิ่งที่ถนัด และทำผลงานด้านนี้มาตลอดทั้งชีวิต โดยได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลกมามากมายหลายครั้ง ก็ได้รับการสนับสนุนจากทางพรรค
...
อย่างไรก็ตามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพียงเพื่อจะเน้นย้ำว่า ไม่ใช่เพียงแค่ตนคนเดียวที่จะทำ แต่จะเป็นสมาชิกของพรรคที่จะร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืนและถาวร ซึ่งตนเชื่อว่าหากพรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีกครั้งและได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าจะสามารถทำน้ำให้สะอาด คืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับคนไทยได้อย่างแน่นอน