“วิษณุ” เผย “ดิสทัต” ขอออกเอง ไม่มีใครไล่ การันตี “พีระพันธุ์” นั่งเลขาธิการนายกฯ ได้ เตรียมเสนอเข้า ครม. อังคารหน้า ชี้ ทุกยุคก็ตั้งคนของพรรคทั้งนั้น
วันที่ 16 ธันวาคม 2565 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และคาดว่าจะมีการแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแทนว่า จะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 20 ธันวาคมนี้ เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ ซึ่งนายดิสทัตแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีมานานแล้วว่าประสงค์ขอลาออกไปทำงานอย่างอื่น อีกทั้งจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและต่างประเทศบ่อยครั้ง อาจจะไม่สามารถปฏิบัติภารกิจเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ โดยแจ้งนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้นานแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีขอให้ช่วยงานไปจนถึงหลังประชุมเอเปก 2565 (APEC 2022) และหลังจากนายกรัฐมนตรีเสร็จภารกิจการร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่ประเทศเบลเยียม เพราะเมื่อเดินทางกลับมาจะไม่มีกำหนดการเดินทางไปไหนอีก ก็ถือว่าถึงเวลาที่จะให้ออกได้ ยืนยันว่าเป็นความประสงค์ของนายดิสทัต ไม่มีใครสั่งให้ออก
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าการตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะเกิดความชอบธรรมและเหมาะสมหรือไม่ เพราะอาจถูกมองว่าจะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง นายวิษณุ ตอบว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เพราะพรรคดังกล่าวก็ยังไม่ได้มี ส.ส.สักคน เป็นพรรคที่หัวหน้าพรรคยังไม่ได้มี ส.ส. ส่วนคำถามว่าเป็นพรรคการเมืองที่เตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้า นายวิษณุ ระบุว่า ก็ไม่เป็นไร นายกรัฐมนตรีทุกคนในอดีตไม่ว่าจะเป็น นายชวน หลีกภัย, นายบรรหาร ศิลปอาชา, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ, นายทักษิณ ชินวัตร ต่างก็ตั้งคนของพรรคมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะช่วยงาน ซึ่งหน้าที่ของเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คนละอย่างกับหน้าที่ของรัฐมนตรี จะต้องทำงานหลายอย่าง ดูงบลับให้นายกรัฐมนตรี ประสานกับสภาผู้แทนราษฎร ประสานกับมวลชน และประสานกับงานต่างประเทศ ถือเป็นภารกิจธรรมดาที่นายกรัฐมนตรีต้องเลือกคนที่คิดว่าสามารถที่จะทำงานได้ ซึ่งนายพีระพันธุ์ เป็นนักกฎหมาย ก็มีคุณสมบัติที่ไม่ต่างไปจากนายดิสทัต จึงจะมาช่วยงานนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายได้
...
เมื่อถามต่อไปว่าคนเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองแต่มาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ดูแลงบลับได้ จะถูกตั้งคำถามหรือไม่ นายวิษณุ เผยว่า ก็เป็นหัวหน้าพรรคที่ไม่มี ส.ส.แม้แต่คนเดียว จะไปห่วงอะไร และเขาก็ไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน เพราะถ้าตั้งฝ่ายค้านมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นั่นจึงถือว่าประหลาด แต่นี่ไม่ได้ประหลาดอะไร ขณะที่คำถามว่าจะกลายเป็นจุดอ่อนทำให้ถูกโจมตีทางการเมืองได้หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าจะโจมตีก็ตีกันได้ทุกจุดอยู่แล้ว คิดว่าไม่ได้เป็นปัญหา ไม่มีประเด็นที่จะให้โจมตี เพราะเป็นธรรมดา เนื่องจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นข้าราชการการเมือง ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน และต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองด้วย
แสดงว่านายพีระพันธุ์ ต้องระมัดระวังในการทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ เพราะมีหมวกอีกใบหนึ่งเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง นายวิษณุ บอกว่า หมวกหัวหน้าพรรคไม่มีอะไรต้องระวัง แต่ถ้านายพีระพันธุ์ลงสมัครรับเลือกตั้งตรงนั้นก็มีบทบาทที่ต้องระมัดระวัง เพราะการที่ผู้สมัครจะทำอะไรกติกายังควบคุมน้อย แต่เป็นข้าราชการการเมืองอยู่ด้วยจะมีกฎกติกามากเป็น 2 เท่า เมื่อถามต่อไปว่าหากมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองจะไปช่วยหาเสียงได้หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า อย่าว่าแต่ช่วยหาเสียงเลย รัฐมนตรีก็ยังไปช่วยหาเสียงได้ คือเวลานอกราชการ และไม่ใช้ทรัพย์สินราชการ ซึ่งกรณีนี้ก็เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงที่ใกล้เลือกตั้งการดึงให้ นายพีระพันธุ์ มาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะเป็นการหาเสียงทางอ้อมหรือไม่นั้น นายวิษณุ ปฏิเสธว่าไม่รู้เพราะไม่ได้เป็นคนตั้ง ขณะที่นายกรัฐมนตรีต้องระวังเรื่องนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคงคิดดีแล้ว เพียงแต่อย่าทำผิดอย่างที่ได้บอกไป อย่าใช้เวลาราชการ อย่าใช้ทรัพย์สินหรือทรัพยากรของทางราชการเท่านั้น ผู้สื่อข่าวยังถามย้ำต่อไปว่า แต่เมื่อเอ่ยชื่อนายพีระพันธุ์ คนก็มักจะนึกถึงพรรครวมไทยสร้างชาติทันที โดย นายวิษณุ ให้คำตอบว่า ไม่แปลกประหลาด อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทุกคน ยกเว้น ประยุทธ์ 1 ประยุทธ์ 2 ก็มีพรรคการเมืองอยู่ข้างหลังทั้งนั้น ไปย้อนดูอดีตได้ หลายคน หลายพรรค เป็นแบบนี้ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เมื่อถามทิ้งท้ายว่าแต่ที่ผ่านมาไม่ได้แต่งตั้งกันในช่วงใกล้เลือกตั้ง รองนายกรัฐมนตรี เผยว่า ก็ไม่แปลก ตั้งวันไหนก็ได้ เมื่อตำแหน่งว่างลงจะให้ทำอย่างไร จึงต้องตั้งใครสักคน ถ้าไม่ตั้งนายพีระพันธุ์ ก็ต้องตั้งใครสักคนอยู่ดี.