“สาธิต” เผย กรณีรถฉุกเฉินโรงพยาบาลกู่แก้วนำส่งผู้ป่วย ชนกับรถเก๋งที่สี่แยก จ.อุดรธานี ใครทำผิดก็ต้องรับผิด หน่วยงานต้นสังกัดต้องรับผิดชอบด้วย ชี้ ในทางกฎหมายไม่มีข้อยกเว้นฝ่าไฟแดง
วันที่ 11 ธันวาคม 2565 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีรถตู้ฉุกเฉินโรงพยาบาลกู่แก้ว ชนกับรถยนต์ขณะนำส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี บริเวณสี่แยกไฟแดงถนนศรีสุข ตัดกับถนนนเรศวร ติด สภ.เมืองอุดรธานี และรถตู้ฉุกเฉินเสียหลักไปชนกับรถยนต์ที่สวนทางมาเสียหาย ว่า ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องรับผิด และหน่วยงานต้นสังกัดก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะในขณะปฏิบัติหน้าที่เขาต้องรับผิดในทางละเมิด ทั้งคนขับ องค์กร หรือเจ้าของรถ โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น
“แม้จะอ้างว่าต้องรีบไปส่งผู้ป่วย แต่ก็ไม่มีกฎหมายเขียนยกเว้นเอาไว้เป็นการเฉพาะว่าจะต้องไม่ติดไฟแดง บางครั้งในสถานการณ์ที่ต้องไปส่งผู้ป่วย ซึ่งทุกคนเห็นใจและหลีกทางให้ แต่ในทางกฎหมายจริงๆ แล้วไม่มีข้อยกเว้น”

...
ทางด้าน นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า ต้องดูที่เจตนาและข้อกฎหมายถูกผิด รวมถึงเหตุผลความจำเป็น คนขับมีหน้าที่ขับให้ปลอดภัย ต่อให้เป็นรถที่ได้รับการยกเว้น แต่คงไม่ยกเว้นถึงขั้นฝ่าไฟแดงได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ รถแอมบูแลนซ์ต้องใช้ความเร็วเพราะเป็นรถฉุกเฉิน มีระเบียบรองรับในเรื่องของการส่งตัวตามระบบแพทย์ฉุกเฉิน แม้จะเป็นรถที่ได้รับการคุ้มครอง แต่ต้องดูด้วยว่าผู้ป่วยอยู่ในขั้นไหนของการต้องรีบเร่งส่งตัว ซึ่งพนักงานขับรถแอมบูแลนซ์ผ่านการอบรมแค่ครั้งเดียว ไม่มีการอบรมเป็นระยะเหมือนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่กว่าจะได้รับใบอนุญาตในการขับรถ.