“รวมไทยสร้างชาติ” ยัน “สุเทพ” ไม่เคยมีเอี่ยวกับพรรคทั้งทางตรง-อ้อม เชื่อ เกมการเมือง โยง “สุเทพ-เอกนัฏ” หวังทุบเรตติ้ง “นายกฯตู่-พรรค” สกัดชิงเก้าอี้ ส.ส.ภาคใต้ เหตุ “อดีตลุงกำนัน” ติดลบทางการเมือง ยัน “เลขาฯ ขิง” ตัวหลักดูดคนเข้าพรรค
วันที่ 5 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นเลขาธิการพรรค โดยคาดหมายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้ยังสงวนท่าทีทางการเมือง จะเข้ามามีบทบาทในพรรครวมไทยสร้างชาติในระยะต่อไป เช่นเดียวกับ ส.ส.และนักการเมืองชื่อดังจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่แจ้งความจำนงจะมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติในการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกหลายราย

รายงานข่าวแจ้งว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้วางพื้นที่เป้าหมายในภาคใต้ ที่มีการวางตัวผู้ที่สมัคร ส.ส.ไว้เกือบครบทั้ง 58 เขตแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่มีความเข้มแข็งในพื้นที่ และอีกจำนวนหนึ่งเป็น ส.ส.ปัจจุบันจากพรรคต่างๆ ที่จะย้ายมาร่วมงาน ประกอบกับกระแสความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังได้เสียงตอบรับจากคนใต้อย่างกว้างขวาง จึงเชื่อว่า จะเป็นปัจจัยที่จะสร้างโอกาสให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติประสบความสำเร็จในพื้นที่ภาคใต้
...

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากกระแสความนิยม ของ พล.อ.ประยุทธ์ และฐานเสียงของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นที่จับตามองอย่างมาก เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ เองก็ตั้งเป้าที่จะแย่งชิงเก้าอี้ ส.ส.ภาคใต้ ให้ได้มากที่สุดเช่นกัน ซึ่งนอกเหนือจากความเคลื่อนไหวของบางพรรคการเมือง ที่เริ่มแจกจ่ายปัจจัยและทรัพยากรเพื่อทำพื้นที่แล้ว ยังพบว่า มีความพยายามบิดเบือนข้อมูลเพื่อหวังดิสเครดิตพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะกระแสข่าวที่ระบุว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. และแกนนำพรรครวมพลังในปัจจุบัน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งไม่ตรงตามข้อเท็จจริง เนื่องจากนายสุเทพไม่เคยมีส่วนร่วมใดๆ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ก็มีความพยายามจะเชื่อมโยงกับ นายเอกนัฏ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีศักดิ์เป็นลูกบุญธรรมของนายสุเทพ

ทั้งนี้ นายเอกนัฏ เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ในทางการเมืองได้แยกทางกับนายสุเทพ ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 แล้ว เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และโดยส่วนตัวก็กลับไปเป็นสมาชิกพรรค และลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมากับนายสุเทพพูดคุยกันในฐานะครอบครัว แต่เรื่องการเมืองแยกกันชัดเจน ซึ่งในครอบครัวเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน
แหล่งข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า กระแสข่าวที่ว่า นายสุเทพ เป็นผู้มีส่วนสำคัญอยู่เบื้องหลังในการขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ และจะตามมาด้วยการนำพรรครวมพลังมาควบรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาตินั้นไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย ซึ่งในพรรครวมไทยสร้างชาติก็เชื่อว่า ความเชื่อมโยง นายสุเทพ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะต้องการทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสื่อมเสีย เนื่องจากต้นทุนและความน่าเชื่อถือในทางการเมืองของนายสุเทพ แทบจะหมดสิ้นไปแล้ว หลังเคยประกาศเลิกเล่นการเมือง แต่ก็กลับคำลงมาร่วมผลักดันพรรครวมพลังประชาชาติไทย ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นพรรครวมพลังในปัจจุบัน
“เรื่องการควบรวมพรรคกันก็ไม่เคยมีใครในพรรคพูดถึง ไม่ได้อยู่ในแนวทางที่จะขับเคลื่อนแต่อย่างใด เรื่องนี้ผู้บริหารพรรคหลายคน รวมทั้งคุณเอกนัฏเองก็เคยออกมาชี้แจงแล้ว" แหล่งข่าว ระบุ

ว่า แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าใจถึงเงื่อนไขเป็นอย่างดีว่า หากนายสุเทพ เข้ามาเกี่ยวข้องกับพรรคเสียงตอบรับที่มีต่อพรรคจะเป็นอย่างไร ดังนั้น ตั้งแต่ช่วงก่อตั้งพรรคเป็นต้นมา นายสุเทพ ถือว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่เช่นนั้น แกนนำบางจังหวัดทางภาคใต้ ที่อยู่คนละขั้วกับนายสุเทพ คงไม่ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคอย่างแน่นอน และตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นายสุเทพ ก็เลือกเก็บตัวเนื่องจากเข้าใจถึงข้อจำกัดของตัวเอง อีกทั้งบรรดาคนใกล้ชิดต่างก็ไม่เห็นด้วยหากนายสุเทพจะเคลื่อนไหวหรือเข้ามามีบทบาทใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ
"บางพรรคพยายามผูกโยงคุณเอกนัฏ กับท่านสุเทพ ว่ากันไปถึงว่า ท่านสุเทพช่วยดีลคนมาร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หลายคนนั้นดีลตรงกับคุณเอกนัฏเอง เนื่องจากมีความคุ้นเคย และไว้ใจในการทำงานกันมาก่อน พูดได้เลยว่า ที่หลายคนตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะตัวคุณเอกนัฏ ไม่เกี่ยวกับท่านสุเทพแต่อย่างใด" แหล่งข่าวระบุ.