พท.มอง “บิ๊กตู่” ยื้อสุดฤทธิ์ดึงเวลารอ รทสช. ต้อน ส.ส.เข้าคอก “สุทิน” ฟันธงนายกฯลากเรือแป๊ะจนใกล้ครบวาระ 4 ปี ค่อยกดปุ่มยุบสภา 15 มี.ค.66 ทันกรอบเวลา ส.ส.ย้ายพรรคเข้าสังกัดใหม่ 30 วัน ตีปีกสูตรบัตร 2 ใบหาร 100 ทางสะดวกแลนด์สไลด์โกย 18 ล้านเสียง ดีดลูกคิดเคลิ้มยึด 220-230 ส.ส.เขต บวก 45-50 ส.ส.บัญชีรายชื่อ เสียงทะลุเกินครึ่งสภาฯ ตั้งเงื่อนไขได้ที่ 1 จับขั้ว ปชต.ตั้งรัฐบาลก่อน ตั้งแต่จูบปาก พปชร.ต้องฟังเสียงเอฟซี “นพดล” โต้ไอโอโยง พท.พัน “ตู้ห่าว” ขู่ฟ้องรักษาชื่อเสียงพรรค โดดป้อง “อุ๊งอิ๊ง” ไม่เกี่ยวขายบ้านให้นายทุนจีนสีเทา “พิธา” ลุยขอนแก่น ปลุก ปชช.เลือกเอาลากตั้งหรือเลือกตั้ง “ราเมศ” ฉุน “อนุทิน” กล่าวหาคน ปชป.จัดฉากโจ๋พี้กัญชาริมหาดพัทยา โวยไม่มีใครปัญญาอ่อนไปทำ ท้า 7 วันหาหลักฐานมายันไม่ได้ คนพูดต้องรับผิดชอบ
จากกรณีนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ ในฐานะรอง ผอ.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะยื้อเวลายุบสภาช่วงเดือน มี.ค.เพื่อรอให้พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ดูด ส.ส.เข้าพรรคก่อน ล่าสุดพรรคเพื่อไทยประเมินสถานการณ์ไม่ต่างกันนัก คาดว่านายกฯจะยุบสภาก่อนครบวาระเพียง 5-10 วันหรือประมาณวันที่ 15 มี.ค.66
...
“ชลน่าน” ชี้ “บิ๊กตู่” ยื้อสุดฤทธิ์ก่อนยุบสภา
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุจะยุบสภาวันที่ 3 มี.ค.66 ว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้การยุบสภามีโอกาสเป็นไปได้สูง แต่จะยุบเมื่อใดคงดูโอกาสเหมาะสม พยายามดึงไปให้ยาวที่สุด สิ่งที่นายวีระกรพูดน่าจะใกล้เคียง ส่วนการจับมือพรรคใดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ต้องดูว่าประชาชนมอบอำนาจให้ใคร ผลการเลือกตั้งจะบ่งชี้พอสมควร รวมถึงดูทิศทางการทำงาน นโยบายสอดรับกันหรือไม่ จะพูดคุยหลังเลือกตั้งต้องดูประชาชนเป็นหลัก
6 ธ.ค.ยังไม่ได้เปิดแคนดิเดตนายกฯ
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 65 วันที่ 6 ธ.ค.ไม่มีไฮไลต์พิเศษ นอกจากการโชว์วิสัยทัศน์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เลือกคณะกรรมการบริหารแทนตำแหน่งที่ว่าง 9-10 ตำแหน่ง การคิกออฟแคมเปญเลือกตั้งพรรค ยังไม่เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯของพรรค ส่วนนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรค พท. จะทบทวนเส้นทางการเมืองหลังพรรคจะส่งนายศักดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โจทก์เก่านายจิรายุ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี คงต้องทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคว่าการหาตัวผู้สมัครทำในนามระบบพรรค หากมีอะไรเป็นข้อขัดแย้งส่วนบุคคลต้องพยายามหาจุดร่วมกันให้ได้ เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่าน่าจะพูดคุยกันได้ ไม่เสียหายอะไร การที่นายจิรายุจะแสดงจุดยืนในมุมทำหน้าที่มาเป็นเรื่องธรรมดาพรรคต้องรับฟัง หวังว่าจะเป็นจุดไกล่เกลี่ย แสวงจุดร่วม ทำให้ข้อขัดแย้งหายไปได้
5–10 วันก่อนครบวาระค่อยยุบลงสนาม
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์เพจ Room 44 ถึงเงื่อนเวลาการยุบสภา ว่ารัฐบาลจะครบวาระ 4 ปีในวันที่ 23 มี.ค.66 เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม จะอยู่เกือบครบวาระจะยุบสภาก่อนครบวาระ 5-10 วัน หรือประมาณวันที่ 15 มี.ค.66 เป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะถือว่ายังทันเวลาการย้ายพรรคที่ต้องเป็นสมาชิกพรรคใหม่ 30 วัน ก่อนการเลือกตั้ง ส่วนที่คาดการณ์วันที่ 24 ธ.ค. จะมี ส.ส.ลาออกจากตำแหน่งเป็นจำนวนมาก เพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภา ช่วงเวลาดังกล่าวคงเริ่มมี ส.ส.ทยอยลาออกบ้าง แต่คงไม่มากนัก ช่วงที่ ส.ส.ลาออกลอตใหญ่น่าจะอยู่ในเดือน ก.พ.66 อาจมี ส.ส.ลาออกถึง 30-50 คน เพื่อย้ายพรรคไปอยู่สังกัดใหม่ถึง ส.ส.จะลาออกจำนวนมาก น่าจะมี ส.ส.เกินครึ่งหนึ่งของสภา หรือ 250 คน ยังพอถูๆไถๆ ทำงานต่อไปได้
โอ่ยึด ส.ส.เกินครึ่ง–ปาร์ตี้ลิสต์ 50 ที่นั่ง
นายสุทินกล่าวอีกว่า ส่วนกติกาเลือกตั้งบัตร 2 ใบ หาร 100 จะทำให้พรรคมี ส.ส.ทิ้งห่างพรรคอันดับ 2 จำนวนมาก หากดูกติกาบัตร 2 ใบ และผลสำรวจโพลต่างๆ แม้ออกมาเป็นบวกกับพรรคพท.แต่ยังไม่กล้าพูดจะทิ้งขาดลอย ขอให้ติดตามสถานการณ์อีกสักระยะ ถ้าคู่แข่งยังติดปัญหาขัดแย้ง จัดกระบวนทัพไม่ได้ เชื่อว่าพรรค พท.จะชนะห่างพอสมควร แต่ถ้าคู่แข่งกลับมาตั้งลำได้ต้องไม่ประมาท ส.ส.บัญชีรายชื่อมั่นใจจะได้ 50 คน จากเดิมพรรค พท.เคยทำคะแนนสูงสุด 18 ล้านเสียง แต่การเลือกตั้งปี 62 ได้มา 8 ล้านเสียง ส่ง ส.ส.250 เขต แต่ครั้งนี้จะส่งครบ 400 เขต บวกกับกระแสความนิยมพรรคขณะนี้น่าจะได้ถึง 18 ล้านเสียง เอามาหาร 100 คิด ส.ส.บัญชีรายชื่อน่าจะอยู่ที่ 45-50 เสียง บวกกับ ส.ส.เขตที่น่าจะได้ 220-230 คน รวมกันแล้วพรรค พท.จะได้ ส.ส.ทะลุ 250 เสียง เกินครึ่งของสภาแน่ เห็นโอกาสประตูแลนด์สไลด์เปิดกว้าง
ได้ที่ 1 จับมือขั้ว ปชต.ตั้งรัฐบาลก่อน
เมื่อถามว่า ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะแยกตัวออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โอกาสที่พรรค พท.จะจับมือกับพรรค พปชร.โดยไม่มี พล.อ.ประยุทธ์เกี่ยวข้องหลังเลือกตั้ง จะมีโอกาสเปิดกว้างขึ้นหรือไม่ นายสุทินตอบว่า วันนี้ยังไม่จำเป็นต้องไปจับมือใครไว้ก่อน หลังเลือกตั้งค่อยมองการจับขั้วตั้งรัฐบาล ต้องดูตัวเลขที่นั่ง ส.ส.ประกอบด้วย แกนนำพรรคจะมาคุยกันเรื่องจัดตั้งรัฐบาล ถ้าพรรคได้คะแนนมากจริงๆ เล็งตั้งรัฐบาลกับฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันก่อนเป็นอันดับแรก แต่ถ้าคะแนนไม่ได้มากอย่างที่หวัง ต้องมีพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมตั้งรัฐบาลด้วยหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์ตอนนั้น สิ่งสำคัญต้องฟังเสียงประชาชนอยากให้อยู่หรือไม่อยากให้อยู่กับใคร
ถ้าจะจูบปาก พปชร.ต้องฟังเอฟซีสั่ง
เมื่อถามว่า ถ้าเสียงประชาชนไม่อยากให้จับมือกับพรรค พปชร. แต่ตอนนั้นเสียงพรรค พท.ไม่พอ ต้องจับมือ พปชร.จัดตั้งรัฐบาลจะทำอย่างไร นายสุทินตอบว่า ต้องฟังเสียงประชาชนว่า เราจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ถ้าประชาชนบอกไม่จำเป็นต้องฟังเสียงประชาชนว่าไม่ต้องเป็นรัฐบาล แต่ถ้าประชาชนบอกว่าจำเป็นต้องเป็นรัฐบาล ต้องดูว่ารับเงื่อนไขอะไรได้บ้าง พรรคการเมืองจะไปตัดสินใจอะไร นอกเหนือจากกองเชียร์ตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่มีกองเชียร์มาก เติบโตมาได้ด้วยกองเชียร์ต้องฟังเอฟซี เมื่อถามว่า ถ้ากองเชียร์บอกไม่ต้องเป็นรัฐบาล แม้พรรค พท.จะได้ ส.ส.มาเป็นที่ 1 อาจไม่เป็นรัฐบาลหรือไม่ นายสุทินตอบว่า ใช่ ถ้าเป็นที่ 1 แต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วไปฝืนจุดยืน ไม่ฟังเสียงสมาชิกพรรค พรรค พท.คงไม่ทำ
“ประเดิมชัย” แบะท่าทิ้งเพื่อไทย
นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า ยังไม่ทราบการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด จะยุบสภาหรือรัฐบาลอยู่ครบวาระ ปัจจุบันตนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่วนอนาคตไม่สามารถตอบได้ อยู่ในช่วงการตัดสินใจจะยังร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยต่อไปหรือไม่ แต่ยืนยันจะขอทำงานรับใช้แก้ไขปัญหาให้ชาว กทม.ต่อไป ไม่ปิดกั้นโอกาสทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ทุกพรรค เพื่อชาวกรุงเทพฯ หากสิ่งที่ทำเป็นประโยชน์กับประชาชนส่วนรวม ยินดีจะร่วมงานด้วย หากพรรคใดต้องการชวนไปร่วมงานยินดีพูดคุยแลกเปลี่ยน กรุงเทพฯ มีปัญหาที่สะสมมายาวนาน ประชาชนเดือดร้อนอย่างมาก การแก้ปัญหาต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ต้องหาทางออก แก้ไข และลงมือทำ คนที่รับผิดชอบต้องคิดแล้วปฏิบัติ
“นพดล” โต้ พท.ไม่รู้จัก “ตู้ห่าว”
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย แถลงชี้แจงการบิดเบือนใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย กรณีนายตู้ห่าวว่า ตามที่มีข่าวปรากฏที่นายตู้ห่าว กระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย มีข้อมูลมีกลุ่มทุนต่างชาติกว้านซื้อบ้านในบางโครงการ และโยงเรื่องใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยนั้น พรรคขอใช้สิทธิชี้แจงดังต่อไปนี้ 1.กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนคดีอยู่ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย พรรคไม่ขัดขวางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2.พรรคเพื่อไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว และนายตู้ห่าวไม่เคยบริจาคเงินให้พรรคเพื่อไทย ข้อกล่าวหาที่มีต่อผู้ต้องหาเกี่ยวกับการทำธุรกิจช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาลเกือบ 8 ปีแล้ว หากจะกระทำผิดกฎหมายช่วงนี้ เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมาย รัฐบาลสามารถตรวจสอบว่ามีการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายทำนองเดียวกันนี้มากน้อยเพียงใด ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด อย่าเบี่ยงเบนประเด็น
ป้อง “อุ๊งอิ๊ง” ไม่เกี่ยวขายบ้านทุนจีน
นายนพดลกล่าวว่า 3.กรณีพยายามโยงว่าชาวต่างชาติกว้านซื้อบ้านในโครงการบริษัทเอสซี แอสเสท และพาดพิง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้ถือหุ้นบริษัทในบางสื่อนั้นเห็นว่าการพาดพิงและกระจายข่าวต่างๆ มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองอย่างชัดเจน ขอเรียนว่า น.ส.แพทองธาร ไม่รู้จักนายตู้ห่าวและเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท ไม่ได้เกี่ยวกับการขายบ้านให้บุคคลใดๆ บริษัทเอสซี แอสเสท ได้แถลงไปแล้วว่าบริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล ยึดหลักไม่ทำผิดกฎหมาย บ้านทุกหลังขายให้คนไทยและนิติบุคคลไทยเท่านั้น การชำระค่าบ้านผู้ซื้อต้องชำระเงินผ่านธนาคาร ขอตั้งข้อสังเกตว่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดของบุคคลกลุ่มนี้ มีบ้าน รถยนต์และทรัพย์สินที่ซื้อจากหลายโครงการ หลายบริษัทกระจายไป ไม่ใช่ซื้อจากบริษัทเอสซี แอสเสท อย่างเดียว
โวยไอโอใส่ร้ายไม่ยุติเจอฟ้อง
นายนพดลกล่าวอีกว่า 4.ช่วงเวลานี้ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ประชาชนคาดหวังจะเห็นพรรคต่างๆนำเสนอนโยบายแก้ปัญหาประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ พรรค พท.ขอเชิญชวนให้ช่วยกันนำเสนอนโยบายและหาทางออกให้ประเทศ โปรดยุติการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือไอโอบิดเบือนใส่ร้ายฝ่ายอื่นด้วยความเท็จ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร หากยังไม่ยุติการให้ร้ายพรรคพท.ขอสงวนสิทธิปกป้องชื่อเสียงพรรค เรื่องที่เกิดขึ้นได้คุยกับ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้กังวลอะไร เพราะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
เอสซีแอสเสทแจงขายบ้านถูกต้อง
วันเดียวกัน บริษัท เอสซี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทวีตข้อความชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีข่าวเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทาระบุว่า ตามที่มีการเสนอข่าวของสื่อมวลชนเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทากว้านซื้อบ้านในโครงการบริษัทนั้น ขอเรียนข้อเท็จจริงว่าบริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี ยึดหลักไม่กระทำผิดกฎหมาย บ้านทุกหลังในทุกโครงการขายให้เฉพาะคนไทยและนิติบุคคลไทยเท่านั้น ในการซื้อขายบ้านพร้อมที่ดิน บริษัทกำหนดให้ผู้ซื้อต้องชำระเงินผ่านธนาคารเท่านั้น และผู้ถือหุ้นบริษัทไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องใดๆกับการซื้อขายบ้านของบริษัทในทุกกรณี จึงเรียนมาเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
“พิธา” ปลุก ปชช.จิ้มลากตั้งกับเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ลานสนามฟุตซอลบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้จัดเวทีปราศรัยนโยบายพรรค พร้อมเปิดตัวนายวีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พรรค ก.ก. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรค และนายอภิชาติ ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมงาน และพบปะกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง
นายพิธาขึ้นเวทีกล่าวตอนหนึ่งถึงชุดนโยบายสวัสดิการไทยก้าวหน้า ที่พรรคเสนอเพิ่มมาตรการต่างๆ เช่น เงินผู้สูงวัยเป็น 3,000 บาทต่อเดือน เป็นอัตราเดียวแบบถ้วนหน้า การปลดล็อกท้องถิ่น กระจายอำนาจให้แต่ละท้องถิ่น ช่วยให้คนหนุ่มสาวมีงานทำที่ดีในท้องถิ่น ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานในเมืองใหญ่ หรือ กทม.อย่างเดียว เป็นต้น นี่คือการต่อสู้ว่าเราจะเอาอำนาจเลือกตั้งหรืออำนาจลากตั้ง อำนาจเลือกตั้งทำไม่ดีด่ามันได้เอามันออกได้ เลือกตั้งใหม่ได้ทุก 4 ปี แต่สำหรับอำนาจลากตั้ง น้ำประปาที่บ้านท่าน ฟุตปาทตามบ้าน การบริหารจัดการของบ้านท่าน ทำไมต้องให้คนอื่นมาตัดสินใจแทน กลายเป็นว่าคนทำไม่รู้ คนรู้ไม่ได้ทำ
จ่อเชือดล้างบางงูเห่าขอนแก่น
ขณะที่นายวีรนันท์ ฮวดศรี กล่าวบนเวทีว่า ประวัติตนเอง เป็นทนายความสิทธิมนุษยชน ช่วยเหลือประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกทางการเมือง แต่ทั้งหมดนี้คือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วันนี้ตนจึงตัดสินใจมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เพื่อจะเข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แก้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ให้พี่น้องได้ลืมตาอ้าปากได้เสียที
ด้านนายอภิชาติกล่าวว่า พรรคก้าวไกลหมายมั่น ปั้นมือส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นทั้ง 11 เขตมีเป้าหมายจะปักธงส้มทั้งจังหวัด รักษาพื้นที่เขตเดิมและรุกเพิ่มเขตใหม่ ที่สำคัญที่สุดคือการเชือดงูเห่า ล้างฟาร์มงูเห่าให้หมดสิ้นไปจากขอนแก่นให้จงได้
“ธนกร” มั่นใจหนุน “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯอีก
นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ทำงานใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมมาตลอด เห็นชัดเจนว่านายกฯทำงานหนักทุกวัน คิดหานโยบายเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนแทบจะตลอดเวลาที่ท่านมีเวลาว่าง แม้บางฝ่ายจะพยายามเล่นการเมืองแบบดิสเครดิต แต่นายกฯไม่ใส่ใจ เพราะเอาเวลาไปคิดนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนดีกว่า ยิ่งวันนี้ผลงานนายกฯที่หว่านไว้ระยะยาวเริ่มผลิดอกออกผล และการเลือกตั้งสมัยหน้า หาก พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจไปต่อ เชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุนให้กลับมาเป็นนายกฯอีกสมัยแน่นอน ส่วนตนจะลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาความเดือดร้อนจากปากประชาชนให้มากขึ้น นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
ปชป.โต้ไม่ปัญญาอ่อนจัดฉากโจ๋พี้กัญชา
วันเดียวกัน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป.กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวหา นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ว่าจัดฉากให้คนมาถ่ายรูปเด็กกำลังพี้กัญชาที่ริมชายหาดพัทยา เพื่อต้องการให้มีประเด็นทางการเมืองว่า คงไม่มีใครปัญญาอ่อนไปจัดฉาก ซื้อบ้องกัญชามาให้เด็กพี้กัน เพื่อเอามาเป็นประเด็นห้ำหั่นกันในทางการเมือง นักการเมืองที่ดีที่มีจิตสำนึก ไม่มีใครทำแน่นอน แค่คิดก็แย่มากแล้ว กรณีเด็กพี้กัญชาเริ่มต้นมาจากการนำเสนอข่าวมาจากสื่อมวลชน นพ.บัญญัติ ในฐานะ ส.ส.ที่ได้ติดตามเรื่องนี้ ได้นำมาแถลงข่าวเพื่อหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ พรรค ภท.ต้องหาหลักฐาน มาว่า นพ.บัญญัติจัดฉากอย่างไร ทำด้วยวิธีการไหน ให้เวลา 7 วัน ถ้า 7 วันหาหลักฐานไม่ได้ คนพูดต้องแสดงความรับผิดชอบเรื่องนี้ การกล่าวหาเช่นนี้ในทางการเมืองเสียหายมาก การกล่าวหา นพ.บัญญัติชัดเจนว่าเพื่อเป็นข้ออ้างข้อแก้ตัวให้กับนโยบายกัญชาเสรี ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมส่วนรวมที่ปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ
เหน็บนักการเมืองดีต้องคิดถึงส่วนรวม
นายราเมศกล่าวอีกว่า การอ้างว่าถ้าอยากให้ปัญหาหมดไป พรรค ปชป.ต้องผ่านร่างกฎหมายกัญชา คำพูดนี้ย้อนแย้งอยู่ในตัวทั้งสิ้น นาทีที่ผ่านมาบอกจัดฉาก นาทีต่อมารับว่ามีปัญหา ถ้าอยากแก้กลับโยนมาที่พรรค ปชป.ทั้งที่มีหลายฝ่ายท้วงติงเพราะเป็นห่วงสังคม ที่พรรค ปชป.ท้วงติงให้ร่างกฎหมายออกมารอบคอบรัดกุม ถึงพยายามบอกว่ากฎหมายที่ร่างยังไม่ได้มีการควบคุมการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน ยังไม่มีมาตราไหนที่จะมาควบคุมให้รอบคอบ ถ้าปล่อยให้ผ่านมาบังคับใช้ เยาวชนคนไทยจะเป็นอย่างไรในอนาคตนี่คือความห่วงใย จึงอยากให้นักการเมืองทุกคนตระหนักเรื่องนี้ การยอมรับปรับแก้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่ใช่เรื่องน่าละอาย หากปล่อยให้ร่างกฎหมายผ่าน วันข้างหน้าเดินไปตรงไหนเห็นแต่เด็กและเยาวชนสูบกัญชา มีผลกระทบต่อการเรียนต่อสังคม คนที่ออกกฎหมายจะละอายใจมาก ยกเว้นนักการเมืองที่ไร้จิตสำนึก จะหาข้ออ้างไปเรื่อย ถึงย้ำว่ากัญชาเสรี นักการเมืองอย่านิ่งดูดายสังคมกันเลย การแข่งขันทางการเมืองพรรค ปชป.กับพรรค ภท.ต้องต่อสู้กันอยู่แล้ว ภท.ไม่ควรมาท้าทาย แต่หลักการต่อสู้ต้องอยู่ภายใต้ครรลองของระบอบประชาธิปไตย สู้ด้วยหลักสุจริต สู้ด้วยนโยบายที่ดี เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง
“นิพนธ์” รับปากช่วยกลุ่มต้มยำกุ้งไทย
ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ปชป. เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับประธานชมรม Ukhuwah Mr.Johari Bin Ahmad และกลุ่มเครือข่ายร้านอาหารต้มยำกุ้งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า การมาทำงานในประเทศมาเลเซียของกลุ่มคนไทยปัจจุบันมีปัญหาหลายด้านที่ต้องการให้รัฐบาลไทยได้เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขเร่งด่วน ส่งผลกระทบต่อการทำงานและใช้ชีวิตของคนไทยในมาเลเซีย ตัวแทนกลุ่มฯได้ร้องขอให้ช่วยเหลือ อาทิ การแจ้งเกิด-แจ้งตายที่ปัจจุบันมีรายละเอียดและขั้นตอนการทํางานที่ยุ่งยากและหลายขั้นตอน การอำนวยความสะดวกออกหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต ให้ต่ออายุ/ทำใหม่ได้ที่สถานทูตไทย การออกใบอนุญาตให้เข้ามาทํางานในประเทศมาเลเซีย (Work Permit) กำหนดประเภทแรงงาน/ราคาค่าจ้าง การส่งเสริมจัดกิจกรรมกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ของคนไทยในมาเลเซีย จัดหาครูผู้สอนและสื่อการเรียนการสอนภาษาไทยให้เด็กที่ครอบครัวพามาพักอาศัยหรือที่แม่คนไทยคลอดในมาเลเซีย ที่ต้องเร่งแก้ไข บางอย่างดำเนินการได้ทันที เช่น กิจกรรมกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ ถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้คนไทยในต่างแดนได้รู้จักกันมากขึ้น ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ ส่วนเรื่องพาสปอร์ตและใบอนุญาตการทำงานต้องประสานกับกระทรวงต่างประเทศและทางการมาเลเซียต่อไป จะรับไปดำเนินการต่อ รวมทั้งประเด็นอื่นๆตามที่กลุ่มคนไทยในมาเลเซียร้องขอมา กลุ่มคนเหล่านี้ได้ทำรายได้เข้าประเทศ หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจของจังหวัดชายแดนใต้ของไทยเราส่วนหนึ่งด้วย
ภท.ฉะไม่รักษาสัจจะหาเศษหาเลย
นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวตอบโต้นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป.ปมข้อพิพาทเรื่องกัญชาว่า เรื่องการจัดฉากทุกคนมีสิทธิสันนิษฐานได้ทั้งนั้น เพราะภาพที่ออกมาเหมาะเจาะเหลือเกิน ทำงานการเมืองจะโลกสวยไม่ได้ ยิ่งเมื่ออยู่ฝ่ายตรงข้ามเป็นบางพรรค ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะบางพรรคไม่ได้รักษาสัจจะ ตอนร่วมรัฐบาลพูดอย่าง ตอนใกล้เลือกตั้งทำอีกอย่าง คว่ำร่างกันดื้อๆเลยแล้วมาโจมตีว่ามีช่องโหว่ปล่อยให้เกิดการใช้อย่างเสรีเพื่อการนันทนาการ ทั้งที่ร่างกฎหมายนี้ไม่สนับสนุนเรื่องนั้นเลย แล้วเป็นพรรค ปชป.ที่ฉกฉวยโอกาสตรงนั้นมาหาเศษหาเลยทางการเมือง ขอถามว่า ละอายใจหรือไม่ที่เล่นการเมืองเอาเด็กและเยาวชนเป็นเดิมพัน เพื่อหาช่องโจมตีพรรคการเมืองอื่นรายวัน ออกมาขวางไม่มองเลยว่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น
“ครูแก้ว” ยันถือครอง 200 ไร่ถูก ก.ม.
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ประสานพรรคภูมิใจไทย จ.นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 และ ส.ส.นครพนม พรรค ภท.แถลงกรณีข่าวคณะกรรมาธิการจริยธรรมสภาฯ เตรียมเสนอวาระเข้าสภาพิจารณาเอาผิด จากเรื่องร้องเรียนครอบครองที่ดินป่าดงพะทาย ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยมิชอบด้วยกฎหมายว่าเป็นเรื่องเก่า ได้เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการจริยธรรมฯไปแล้วว่าได้ครอบครองมาตั้งแต่ปี 31 ถึง 32 ทำการเกษตรประมาณ 200 ไร่ ขณะนั้นยังเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนบ้านท่าหนามแก้ว ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน และตนมาเป็น ส.ส.ปี 44 นั่นย่อมแสดงว่าตนไม่ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ ความเป็น ส.ส.เพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน ประกอบกับที่ดินบริเวณดังกล่าวไม่ปรากฏว่ามีการกำหนดให้เป็นเขตป่าไม้ถาวรหรือที่ป่าสงวนแห่งชาติ ดังนั้นเมื่อมีคำสั่งให้ผู้ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินเดิมออกแล้ว เข้าครอบครองทำประโยชน์ได้และขอออกเอกสารสิทธิเพื่อออกโฉนดได้ด้วย โดยไม่ผิดกฎหมาย
ยันพร้อมน้อมรับผลตัดสิน
นายศุภชัยกล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวในสมัยตนเป็น รมช.เกษตรฯ ในปี 53 เคยถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อีกทางหนึ่งส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา แต่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ได้มีการตัดสินอะไรออกมา ย่อมสันนิษฐานได้ว่าไม่มีความผิดอะไรขอร้องให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เร่งให้ กมธ.จริยธรรมให้เร่งตรวจสอบให้สิ้นสุดกระแสความในสภาชุดนี้ แม้จะมีคนบอกว่าให้อยู่เฉยๆอีกไม่กี่เดือนจะสิ้นสุดสภาและ กมธ.จริยธรรมจะสิ้นสุดไป แต่สุดท้ายแล้วผลการตรวจสอบออกมาเป็นอย่างไร ตนพร้อมน้อมรับ
ภท.รุกคืบจ้องเขมือบนครพนม
ช่วงเย็น ที่สนามกีฬาโรงเรียนนครพนมวิทยาคม เขตเทศบาลเมืองนครพนม จ.นครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข พร้อมนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมและเลขาธิการพรรค ภท. พร้อมคณะลงพื้นที่พร้อมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ เปิดตัวทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม ทั้ง 4 เขต นำโดยนายศุภชัย โพธิ์สุหรือครูแก้ว ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรค ภท. รองประธานสภาฯ คนที่ 2 โดยนายศุภชัย จะย้ายจากเขต 1 อ.ศรีสงคราม ไปลงสมัครเขต 2 อ.เมืองนครพนม ชนกับนายมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรค พท. และรองเลขาธิการพรรค พท. แชมป์เก่าที่ชนะเลือกตั้งมาทุกสมัย เพื่อหวังจะสกัดแลนด์สไลด์ล้มแชมป์เก่า กวาดที่นั่ง ส.ส.นครพนมทั้ง 4 เขต โดยเขต 1 วางตัวนางพูนสุข โพธิ์สุ ภรรยานายศุภชัย ที่เป็นอดีตข้าราชการครูและอดีตรองนายก อบจ.นครพนม ลงสมัครแทน เขต 3 อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร นพ.อลงกต มณีกาศ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อแผ่นดิน เขต 4 อ.นาแก อ.วังยาง อ.ปลาปาก นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.พรรค พท.ที่ย้ายไปสังกัดพรรค พปชร.ย้ายกลับมาสังกัดพรรค ภท.
“อนุทิน” อาสาจับคู่ขัดแย้งคืนดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทินได้รับการต้อนรับจากประชาชนที่เข้าร่วมงานเนืองแน่น รุมล้อมคล้องมาลัย ผูกผ้าขาวม้าคาดเอวให้ตลอดทางเดิน มีป้ายเชียร์ข้อความว่า “อนุทินต้องเป็นนายกฯ” และ “อนุทินนายกฯคนต่อไป” จากนั้นนายอนุทิน กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ผูกพันกับชาวนครพนม มือของประชาชนคือสิ่งที่คุ้มกะลาหัวตนและพรรคภท. ครูแก้วดูแลพี่น้องคนเดียวไม่ไหวต้องแถมอีก 3 ถ้ารวมเป็นปึกแผ่น จ.นครพนมจะมีรัฐมนตรี ถ้าเลือก ภท.จะได้เปลี่ยนจากรองประธานสภาฯเป็นรัฐมนตรีทุกคนอย่าปันใจ ขอให้อีสานเหนือเลือกภท.ให้หมด อีสานใต้ไม่ต้องห่วงเป็นหน้าที่นายศักดิ์สยาม พรรค ภท.พูดไม่เก่งแต่ทำงานเก่ง พูดแล้วทำ ประเทศ ไทยไม่ใช่สนามรบ สนามมวยหรือทุ่งสงคราม พรรคไม่เคยเชื่อว่าความเกลียดชังจะทำให้ประเทศเจริญ เราจึงดำรงตนเสมอมาว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับอะไรทั้งสิ้นที่ก่อให้เกิดความรุนแรง ความเกลียดชัง แตกความสามัคคี เราต้องเทิดทูนสถาบัน รักและสามัคคีกัน ถ้าเลือกเรามากๆจะไม่เป็นแค่กรรมการห้ามมวย แต่จะจับให้เขามาดีกันให้ได้ ขอให้เชื่อว่าเราทำได้