เลือกตั้งก่อน 5 ก.พ.2566 อยู่ในช่วงของปีขาล ธาตุน้ำ ดวงสมพงศ์กับบ้านเมือง ได้ดูแลประเทศให้อยู่ในกรอบที่ดี แม้เปลี่ยน พ.ศ.ก็ยังถืออยู่ในปีขาล พอถึงวันที่ 5 ก.พ.2566 ก็เข้าสู่ปีกระต่าย

เป็นคำแนะนำตามโหราศาสตร์จีนในการดูดวงบ้านเมือง-ดวงบุคคลที่ “ซินแสรัฐบาลลุงตู่” นายภานุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เคยบอกผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง

แม้ตามไทม์ไลน์เส้นทางการเมืองของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกจากพรรคพลังประชารัฐ ถูกจับตามองกำลังเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

“ซินแสรัฐบาลลุงตู่” เคยย้ำหลายครั้ง ชี้ให้เห็น “ลุงตู่” เป็นนายกฯ 2 สมัย ไม่รวมสมัยเป็นนายกฯรัฐบาล คสช.

คราวนี้ย้ำหัวหมุดอีกว่า “ลุงตู่” ต้องดูแลบ้านเมืองต่ออีก แต่ไม่ได้พูดว่า 8 ปี แสดงว่าอาจอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ 2 สมัยอาจมีเรื่องของการยุบสภาก่อน เพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งใหม่

...

“ลุงตู่” เป็นนายกฯอีกสมัยหรืออาจหลายสมัย

“หลังเลือกตั้ง ลุงตู่ต้องดูแลบ้านเมืองช่วงระยะหนึ่ง ในอนาคตไม่รู้เหมือน ปธน.จีน สี จิ้นผิงหรือเปล่า พูดได้แค่นี้ ซึ่งต้องดูดวงเมืองและดวงคน ณ เวลานั้น

ผมเคยคุยกับท่านนายกฯ สิ่งที่บอกล่วงหน้าแบบตรงๆ ก็กลายเป็นปัญหา บางอย่างบอกได้ระดับหนึ่ง ซึ่งต้องดูว่าการพยากรณ์กระทบต่อส่วนรวมหรือไม่

ถ้ารู้อะไรบางอย่างล่วงหน้ายาวเกินไป ทำให้มันเป๋ เพราะอีกฝั่งหนึ่งพยายามบีบ โจมตี ตัดแข้งตัดขา

แต่ไม่ต้องห่วง บ้านเมืองยังก้าวไปได้ด้วยดี ใครคิดไม่ดี ทำไม่ดี ที่สุดย่อมแพ้ภัยตัวเอง

มั่นใจประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัย มีสถาบันกษัตริย์ราชวงศ์จักรี ต้องดูแลประเทศไทยไปอีกยาวนาน”

นายกฯตัดสินใจยุบสภาหรืออยู่ครบวาระไปสู่สมรภูมิเลือกตั้ง นายภานุวัฒน์ บอกว่า ซินแสเป็นผู้บอกแนวทางล่วงหน้า ไม่ได้เป็นผู้กำหนด

ชะตา การกระทำขึ้นอยู่กับตัวบุคคล

ฉะนั้น อยู่ที่ผู้ใหญ่เลือกเดินซ้ายหรือขวา

ซึ่งการตัดสินใจต้องดูองค์ประกอบของกฎหมาย (กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ที่รอมีผลบังคับใช้ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ)

ต้องดูความพร้อมของคณะบุคคลทางการเมืองนำมาประมวล ขอย้ำเราให้แนวทางเดินไปแล้ว ทำอย่างนั้นอะไรจะเกิดขึ้น ทำด้านนี้อะไรจะเกิดขึ้น แต่ท่านไม่ได้มานั่งฟังเราทุกเรื่อง

วันนี้ทำไมพรรครวมไทยสร้างชาติดวงสมพงศ์กับ “ลุงตู่” นายภานุวัฒน์ บอกว่า “ผมว่าท่านคงไม่เข้าสู่พรรคใดพรรคหนึ่ง!! อันนี้พูดส่วนตัว”

เพราะไม่ได้คุยเรื่องเหล่านี้กับท่านเลย นานๆคุยกันที ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าท่านเป็นคนทำงาน มีหลักการ หลักเกณฑ์ เพียงผมบอกบางเรื่องราวล่วงหน้านิดหนึ่งเป็นแค่องค์ประกอบเท่านั้นเอง

ฉะนั้น การเกิดขึ้นของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เหมือนการเกิดขึ้นของพรรคการเมืองทุกยุคสมัยก่อนมีการเลือกตั้ง ซึ่งรวมคนในทุกพรรคทุกฝ่าย รวมถึงในพรรคพลังประชารัฐเข้ามา

ถ้าไปอยู่พรรคใดพรรคหนึ่งอาจถูกผูกมัด ท่านคงวางตัวเหมือนที่ผ่านมา เปิดประตูให้บางพรรคหนุน

เพราะถ้าเข้าไป คนในพรรคนั้นทำเสีย ท่านย่อมเสียคนไปด้วย ที่ผ่านมาถึงเห็นมีการขับบางคนออกจากพรรคหรือรัฐบาล เพราะเป็นผลพวงจากการกระทำของบุคคลนั้น

พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งอยู่ซอยอารีย์ 5 ฮวงจุ้ยสอดประสานกับตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ถึงขั้นได้ร่วมเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง นายภานุวัฒน์ บอกว่าได้อยู่แล้ว...ได้อยู่แล้ว!!

ผมเคยเป็นที่ปรึกษาให้หลายพรรค ดีหรือไม่อยู่ที่ทำการพรรคด้วย ถ้าไม่ดีย่อมมีปัญหาภายหลัง เหมือนบางพรรคที่หัวหน้าถึงขั้นลาออก

เช่นเดียวกับเรื่องของรัฐบาล อย่าไปกังวล “ลุงตู่” ก้าวเดินต่อไปได้แน่นอน ต้องดูแลบ้านเมืองอีกระยะหนึ่ง เพราะโหงวเฮ้งยังดี ยังสวย มั่นคง

ไม่ต้องห่วงประเทศไทยมีพระสยามเทวาธิราชปกป้อง ใครทำไม่ดี ผลสุดท้ายต้องมีสิ่งไม่ดีโผล่มาให้ทุกคนได้เห็น และถูกกำจัดออกไปจากวงจรอำนาจ

ดูสถานการณ์การเมือง “ลุงตู่” แทบปิดประตูกลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ เพราะพรรคเพื่อไทยกระแสดีมาก นายภานุวัฒน์ บอกว่า พรรคเพื่อไทยต้องโฟกัสดวงอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เป็นหลัก

การชูคนนั้นคนนี้เป็นแคนดิเดตนายกฯ แค่เปลี่ยนหน้าชน เพื่อเรียกกระแส โยนหินถามทาง ไม่มีอะไรแน่นอน

เพื่อไทยชูแลนด์สไลด์แล้วล้มลง?

“เพราะรู้กันดีว่าใครเป็นแกนนำตัวจริง ดูตามหลักโหงวเฮ้งแกนนำตัวจริงที่อยู่ในประเทศ แก้มสูง มีอำนาจ และดีแล้วที่ท่านทักษิณปีฉลูอยู่ต่างประเทศ ถือเป็นการแก้เคล็ดส่วนหนึ่ง

ไม่เช่นนั้นท่านทักษิณอาจมีปัญหาไปก่อนวัยอันควร เพราะตาลอย ดวงยังอยู่ในเคราะห์ ยิ่งปีกระต่ายไม่เกื้อหนุนสมพงศ์ ทุกอย่างยังไม่ได้ดั่งใจ

พอดูช่วงคางบนใบหน้าก็ไม่โดดเด่นมากนัก ดูตามโหงวเฮ้งแล้วท่านจะกลับมาเมืองไทยนั้น ยังต้องรอออกไปอีก!! และตามดวงเมืองก็ไม่ได้กลับ เพราะไม่ยอมเข้ามารับคำพิพากษาในประเทศไทย”

ต่างกับกลุ่ม 3 ป.ที่แยกย้ายกันเดินทางการเมือง ดวงเมืองตั้งแต่เดือน ธ.ค.65 จะเป็นอย่างไร นายภานุวัฒน์ บอกว่า ตามกลเกมการเมืองต้องมีการเปลี่ยนแปลง

สุดท้าย 3 ป. ต้องรวมตัวกัน

แยกกันมีปัญหาแน่ เพราะ 3 คนครบเครื่องบู๊บุ๋นเหมือนใน 3 ก๊ก นับเป็น 3 เสาหลักค้ำซ้าย ขวาไม่ให้ล้มครืน อาจมีการโจมตี ตีให้แตกคอ ขอให้เชื่อมั่นว่าผู้หลักผู้ใหญ่ไม่เอาเรื่องจุ๊กจิ๊กส่วนตัว หรือคนรอบข้างมาทำให้แตกคอ

เห็นได้ชัดเจน 3 ท่านมีบุคลิกไม่เหมือนกัน “ลุงตู่” ปีมะเมีย โผงผาง ตรงไปตรงมา ฉะฉาน ใจดี ใจอ่อน ไม่ย่อมให้ใครมาบีบ ใครบีบให้อยู่ในกรอบดิ้นทันที

“ลุงป๊อก” ปีฉลู เป็นคนขรึม ไม่พูดมากเหมือนวัว...งอๆ แล้วก็เงียบ “ลุงป้อม” เหมือนน่ากลัว แต่คนธาตุน้ำปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ใส่แก้วเป็นรูปแก้ว ใส่ขวดเป็นรูปขวด ประสานประนีประนอมทุกฝ่าย เป็นกันชน ดึงคนเข้ามาร่วม ทันเกม ไม่รู้ๆ แต่รู้ทุกเรื่อง จำแม่น เก่ง ละเอียด

การเมืองหลังเลือกตั้งปี 66 เป็นอย่างไร นายภานุวัฒน์ บอกว่า ปีกระต่ายเป็นปีแห่งใจดี โอนอ่อนผ่อนตาม ในช่วงแรกๆไปได้ วิกฤติเศรษฐกิจคลี่คลาย

ม็อบเยาวชนก็เหมือนกันที่ออกมาเคลื่อนไหวตอนแรก เคยบอกผู้หลักผู้ใหญ่ให้ประคับประคองให้ดี อย่าให้มือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ทุกอย่างก็จะคลี่คลาย

แม้มีการเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดีย แต่ทุกอย่างก็คลี่คลาย ผมถึงกล้าพูดว่าใครทำไม่ดีกับบ้านเมือง ย่อมพ่ายแพ้ภัยตัวเอง อย่าไปตามกระแส อย่าให้เยาวชนตกเป็นแพะรับบาป ทำให้ลูกหลานเสียอนาคต

ห่วงที่สุด...วิตกกังวลมาก!! ปี 2567

เข้าสู่การพลิกผันชะตาบ้านเมืองขนาดใหญ่ และตรงกับการเปลี่ยนฮวงจุ้ยใหญ่ทั่วโลกด้วย ทำเลการค้าที่รุ่งเรืองกลายเป็นเงียบ อันไหนเงียบเปลี่ยนเป็นรุ่งเรือง

กลัวมีความวุ่นวายหนัก ถึงขั้นเสียเลือดเนื้อ ระวังอาวุธ ระเบิด ปืนไฟ สร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง

ฉะนั้น ปี 2566 ทางการเมืองต้องวางพื้นฐานให้ดี รองรับการพลิกผันในปี 2567 ให้สถานการณ์เบาที่สุด

โดยเฉพาะนักการเมืองทุกคนต้องก้าวไปด้วยกัน

เพื่อดูแลผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน.

ทีมการเมือง