“ประยุทธ์” พูดเป็นนัยใกล้เลือกตั้งไม่อยากทิ้งภาระให้ใคร เฉไฉกั๊กตอบทิศทางการเมืองหลังกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัด รธน. “ชลน่าน” แขวะ “บิ๊กตู่” ปรับ ครม.โกยกำไรคนเดียว ส่งลิ่วล้อเฝ้างบฯกลาง 5 แสนล้าน พท.จ่อเปิดพิมพ์เขียวเปลี่ยนประเทศ “อุ๊งอิ๊ง” โชว์วิสัยทัศน์ประชุมใหญ่ 6 ธ.ค. อวดภาพโฉมใหม่ประเทศไทยใน 4 ปีข้างหน้า “สมคิด” นำทัพเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส ชู “กูเซ็ง” นำทีมปักธงบ้านใหญ่นราธิวาสเมืองหลวง สอท. “อุตตม” รับควบรวมพรรคยังไม่ยุติ 100 เปอร์เซ็นต์ ลั่นไม่คิดจูบปาก รทสช. “สภาฯวังเวง” ล่มตามเคย พปชร.อ้าง ส.ส.ติดงาน-ป่วยโควิด “นายกฯ” นำ 3 รมต.ใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ “สุนทร” การันตีกลุ่มปากน้ำยังเหนียวแน่นอยู่ พปชร.
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี รวม 3 ตำแหน่ง แทนตำแหน่งที่ว่างถูกจับตาเป็นเพียงการปรับ ครม.ที่ พล.อ.ประยุทธ์จะได้ประโยชน์มากที่สุด เพื่อเชื่อมโยงไปถึงการวางแผนทิศทางการเมืองที่จะอยู่ยาวไปจนครบวาระ
...
“บิ๊กตู่” ระบุไม่อยากทิ้งภาระไว้ให้ใคร
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ปีนี้ มีผู้ได้รับรางวัล 44 หน่วยงาน และ 7 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 103 รางวัล โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ต่างชาติชื่นชมประเทศไทยมีศักยภาพมีการบริหารการเงินการคลังที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพรองรับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีกว่าหลายประเทศ หน้าที่ตนไม่ได้ต้องการทำเพื่อการเมือง แต่ต้องการทำเพื่อประเทศ ถ้าไม่ทำวันนี้จะทำเมื่อไหร่ไม่รู้เหมือนกัน ต้องทำให้ดีขึ้นทุกวัน วันหน้าจะมีการเลือกตั้งต่างๆ ไม่อยากทิ้งภาระให้ใครในโอกาสหน้าทั้งสิ้น ไม่อยากให้ทุกอย่างกลับมาอยู่ที่เดิม
เฉไฉแทงกั๊กทิศทางการเมือง
จากนั้นเวลา 10.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ทิศทางทางการเมืองของนายกฯจะเป็นอย่างไร เพราะ ส.ส.รอสัญญาณจากนายกฯเพื่อจะไปร่วมงานการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “เหรอ” เมื่อถามอีกว่ารอปัจจัยอะไรถึงยังตอบไม่ได้ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็พิจารณาอยู่ไง” เมื่อถามว่าจะใช้เวลาพิจารณาอีกนานหรือไม่ ก่อนปีใหม่ไหม นายกฯกล่าวว่า จะรีบไปไหนเล่า เมื่อถามว่าประชาชนรออยู่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เหรอ”
ลงมือผัดข้าวผัดปลากุเลาโชว์
ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานอุตสาหกรรมแฟร์ “ซื้อของไทย ใช้ของดี สร้างอาชีพ เสริมธุรกิจที่ดีพร้อม ภายใต้โครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม” โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า เราอยู่ในเกณฑ์ที่ต่างประเทศยอมรับว่าเราทำได้ดีกว่าหลายประเทศ ทั้งโควิด การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เป็นสิ่งที่ประเทศไทยคิดว่าน่าจะบริหารได้ดีไปเรื่อยๆ ขอให้ทุกคนช่วยกันทำเรากำลังก้าวต่อไปข้างหน้า เวลาที่เหลืออยู่ไม่ได้ มากมายนัก ในการเร่งพัฒนาให้ทันต่อการเติบโตของลูกหลานและคนในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งระหว่างเปิดงาน พล.อ.ประยุทธ์แซวนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ว่า เพิ่งได้ยินรัฐมนตรีพูดเยอะที่สุด มัวแต่ทำไม่ได้พูด จากนั้นนายกฯเดินเยี่ยมชมงาน ชิมหมูย่างซอสหม่าล่า โชว์ฝีมือผัดข้าวผัดปลากุเลาตากใบพร้อมกับเชฟชุมพล แจ้งไพร มี “ป้าอ้วน” เจ้าของร้านปลากุเลาเค็มตากใบชื่อดังต้อนรับ พร้อมมอบปลากุเลาเค็มตากใบให้นายกฯที่ออกปากถามทันทีว่า ปลากุเลาที่มีเรื่องใช่ไหม ก่อนลงมือผัดข้าวผัดปลากุเลาโชว์ ถามป้าอ้วนเป็นอย่างไรบ้างตั้งแต่มีเรื่อง ป้าอ้วนยิ้มแย้มตอบว่า ตั้งแต่มีข่าวขายดีมาก ก่อนที่นายกฯขอสูตรข้าวผัดปลากุเลาจากเชฟชุมพลกลับไปทำที่บ้าน เชพชุมพลรับปากจะส่งเป็นคลิปวิดีโอไปให้
ใจเย็นยังมีเวลาคิดอนาคตอีกเยอะ
หลังพิธีเปิด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทักทายสื่อมวลชนที่รอสัมภาษณ์ว่า “ว่าอย่างไรกันจ๊ะ” สื่อมวลชนตอบกลับว่า ถามก็ไม่ตอบไม่ถามดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า “ไม่ต้องถามหรอกจ้ะ ถึงเวลาก็มาเอง ตอนนี้ต้องใช้เวลาที่มีอยู่ทำงานให้ดี สานต่อสิ่งต่างๆเหล่านี้ พร้อมจะทำอะไรต่ออะไรก็ได้ที่เข้ามาในทางการเมือง ให้ใช้คำว่าทำการเมือง ไม่ใช่เล่นการเมือง การเมืองไม่ใช่ของเล่น ได้พูดกับท่านรัฐมนตรีไปหมดแล้ว” เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีจะทำการเมืองต่อใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยังอยู่ในขั้นของการตัดสินใจอยู่ พิจารณาอยู่นะจ๊ะ อย่ากังวลนะ เมื่อถามว่าต้องรออีกนานหรือไม่ในการตัดสินใจ นายกฯกล่าวว่า อะไรที่จะพูดก็ต้องรอหน่อย เมื่อถามว่าก่อนปีใหม่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใจเย็นๆนะ ยังมีเวลาอีกเยอะแยะ
นายกฯนำ 3 รมต.ใหม่ถวายสัตย์
เมื่อเวลา 17.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม นำนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช. มหาดไทย ที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต นายธนกรให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนเข้าเฝ้าฯว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ถือเป็นมงคลชีวิตที่สุดของชีวิต ขอบคุณนายกฯที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่ จะตั้งใจทำงานซื่อสัตย์สุจริตอย่างเต็มที่ ดำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก
“สุนทร” ยันกลุ่มปากน้ำยังอยู่ พปชร.
นายสุนทรกล่าวว่า ช่วงเวลาไม่มากจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ไม่กดดันเพราะเคยทํางานท้องถิ่น กรอบการทํางานคล้ายกัน เน้นพัฒนาท้องถิ่นประชาชนกินดีอยู่ดี ขอบคุณนายกฯที่ไว้วางใจและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่เมตตา และนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ประธานกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า เราทํางานเป็นทีม กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ยังเป็น ส.ส.ในนามพรรค พปชร.เรื่องอนาคตต้องพูดคุยปรึกษาหารือกัน
“นริศ” ติดโควิดชวดเข้าเฝ้าฯ
ต่อมาช่วงหัวค่ำนายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า ยังไม่ได้เข้าเฝ้าฯ หลังได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เนื่องจากติดโควิด จึงต้องรักษาตัวให้หายเสียก่อน จากนั้นค่อยดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ก่อนที่จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลช่วงบ่ายวันที่ 1 ธ.ค.ได้ตรวจ ATK หลายหน แต่ไม่พบว่าติดโควิด จึงได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลตามปกติที่ได้รับนัดหมาย แต่ก่อนเข้าไปยังพระราชวัง ทางสำนักงานพระราชวังได้ตรวจทุกคนแบบ RT-PCR จึงพบว่าติดโควิด
แขวะปรับ ครม. “บิ๊กตู่” ฟันกำไรคนเดียว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับ ครม.ล่าสุดว่า ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เพราะมีเสียงเรียกร้องจากพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาตลอด รมช.เกษตรฯ และ รมต.ประจำสำนักนายกฯ หลายคนเห็นแล้วคงประหลาดใจ มีข้อสังเกตปรับ ครม.เสมือนแบ่งกันคนละครึ่ง อ้างว่าเป็นการปรับในโควตา พปชร. แต่ผลออกมานายกฯได้กำไรสุดๆ ไม่ได้คนละครึ่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯปรับมาเพื่อมาทำงานใกล้ชิดนายกฯ รมช.เกษตรฯปรับมาเหมือนต่างตอบแทนกลุ่มปากน้ำ เป็นคนในเครือข่ายเดียวกัน ไม่ได้ตอบโจทย์ประชาชน ไม่ได้ตอบสนองความเดือดร้อนของประชาชน รมต.ประจำสำนักนายกฯเป็นตำแหน่งสำคัญ นายกฯมีงบฯกลางเหลือประมาณ 5 แสนล้านบาท และคนที่จะมาขับเคลื่อนตรงนี้ต้องอาศัยคนที่ไว้ใจ และเป็นไปตามความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่แปลกที่เลือกคนคนนี้เข้ามา
จับตา 24 ธ.ค. ส.ส.ออกสภาเดินไม่ได้
เมื่อถามว่าเป็นเหมือนรางวัลล่อใจ ดึง ส.ส.พปชร.เพื่อไปอยู่พรรคใหม่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็คิดได้ ใครทำงานเป็นที่ถูกใจได้รับบำเหน็จรางวัลได้รับโอกาสเป็นเทคนิคทางการเมือง ส่วน รมช.เกษตรฯเหมือนมัดใจกลุ่มปากน้ำ และให้ความมั่นใจว่าอยู่กับนายกฯแล้วจะได้รับการสนับสนุนเต็มที่ เมื่อถามว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์หวังอยู่ยาวหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า จะปรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์อยากอยู่ยาวอยู่แล้ว แต่มีเงื่อนไขที่ต้องระวัง คือการย้ายหรือลาออกของ ส.ส.เพราะหลังจากวันที่ 24 ธ.ค.จะมีการเปลี่ยนแปลงตรงนี้เยอะมาก หาก ส.ส.ลาออกเป็นกลุ่มเป็นก้อน สภาฯ ทำงานไม่ได้อาจจะเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์สนใจยุบสภา
“อุ๊งอิ๊ง” โชว์วิสัยทัศน์ประชุมใหญ่ 6 ธ.ค.
เมื่อเวลา 10.15 น. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค พท. ร่วมแถลงข่าวประกาศเปิดการรณรงค์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในวันที่ 6 ธ.ค. พรรคจะจัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ภายใต้ชื่องาน “คิดใหญ่ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) และกรรมการสรรหาแทนตำแหน่งที่ว่างลง นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมที่สำคัญคือการเปิดรณรงค์การเลือกตั้ง ประกาศคิกออฟแคมเปญการเลือกตั้งปี 2566 ของพรรค เราเชื่อว่าในปี 2566 จะมีการเลือกตั้งแน่นอน เพราะกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง เพิ่งผ่านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อยู่ระหว่างการทูลเกล้าฯ มั่นใจว่าเราจะปักธงลงทุกพื้นที่ใน 77 จังหวัด โดยวันที่ 6 ธ.ค. จะมีการแสดงวิสัยทัศน์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยในงานจะแสดงภาพให้เห็นชัดเจน
ฉายภาพใหม่เปลี่ยน ปท. 4 ปีข้างหน้า
“มั่นใจว่าแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินจะเกิดขึ้น เมื่อเกิดแลนด์สไลด์ขึ้นเราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่และมองไป 4 ปีข้างหน้าคือในปี 2570 จะเกิดภาพใหม่ในประเทศไทยภายใต้ความหวัง ความต้องการและผลสัมฤทธิ์ของผลการเลือกตั้งที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้ภายใน 4 ปี เรามาร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศไทยกัน ยืนยันจะยังไม่มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯของพรรค”
“มดเล็ก” ลูก “สุชาติ” สวมเสื้อ พท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภาคเหนือและภาคกลาง ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ในวันที่ 2 ธ.ค.มีรายชื่อนายศักดิ์ชาย ตันเจริญ หรือ “มดเล็ก” บุตรชายนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรค พปชร.และรองประธานสภาฯ โดยนายสุชาติจะแถลงเปิดตัวด้วยตัวเอง และมีนายคชาภา ตันเจริญ หรือ “มดดำ” พี่ชาย มาให้กำลังใจ ทำให้เป็นที่แน่ชัดและเป็นไปได้สูงแล้วว่า นายสุชาติจะหวนกลับมาร่วมงานกับพรรคพท.เพราะเคยเป็น ส.ส.สมัยพรรคไทยรักไทย ใกล้ชิดสนิทสนมมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
ก้าวไกลโวกวาด ส.ส.มากกว่า 30 เขต
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ใช้บัตร 2 ใบและสูตรหาร 100 ว่าพรรคพร้อมมาตลอด เพราะเราเข้าใจว่า การเติบโตเป็นพรรคการเมืองหลักได้ต้องมี ส.ส.เขตเป็นหลัก หลังจากทำงานการเมืองมา 3 ปี พิสูจน์แล้วว่าเรายืนเคียงข้างประชาชนชัดเจน ทำพื้นที่อย่างต่อเนื่องมีพัฒนาการลงพื้นที่มากขึ้น มีโอกาสชนะ ส.ส.เขตมากกว่าเดิม คาดว่าจะชนะเลือกตั้งระดับเขตในเขตเดิม 30 เขต และเขตที่ได้คะแนนที่ 2 และ 3 รวมอีก 80 เขต ที่เราต้องสู้ช่วงชิงให้ได้ ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่ที่ประชาชนจะให้คะแนนความไว้วางใจ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนรวมของพรรคจากทั่วประเทศ 6.3 ล้านคะแนน จากการสำรวจความนิยมของพรรคครั้งนี้ เชื่อว่าจะได้มากกว่าเดิมแน่นอน แม้สูตรหาร 100 ทำให้พรรค การเมืองใหญ่ได้เปรียบ พรรคขนาดกลางอย่างพรรค ก.ก.สู้ไปตามสภาพ หากประชาชนให้ความไว้วางใจอาจเป็นพรรคขนาดใหญ่ได้ในอนาคต
“สายัณห์”ขอ“ลุงตู่”คุม ลต.ใต้-กทม.
นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ที่มีชื่อไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มาดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ และ กทม. เอง เนื่องจากกระแสความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้ง 2 พื้นที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง ถ้านายกฯมาดูแลเองจะได้สื่อสารและรับฟังเสียงสะท้อน ส.ส.เขตได้โดยตรง ช่วยให้พรรคที่นายกฯไปต่อทางการเมืองชนะเลือกตั้งทั้ง 2 พื้นที่ได้ ตนจะลงเลือกตั้งพรรคใด ต้องรอ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศชัดเจนว่าจะอยู่กับพรรคไหน หากไปร่วมงานกับพรรค รทสช. จะไปร่วมด้วยลงเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 7 เหมือนเดิม พรรค พปชร. พรรค รทสช. และพรรคประชาธิปัตย์คงสู้กันหนัก ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) คงไปสู้ในเขตที่มีฐานเสียงเข้มแข็ง เช่น จ.พัทลุง พื้นที่จังหวัดฝั่งอันดามัน
ลุ้นผลเลือกตั้งส่ง 2 ลุงกลับบ้าน
วันเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)โพสต์เฟซบุ๊ก “ผลการเลือกตั้ง หลังหารร้อย” ระบุว่า 1.จะเหลือพรรค การเมืองไม่เกิน 10 พรรค 2.พรรคอันดับ 1 อาจมี ส.ส.ถึงร้อยละ 40-55 3.พรรคอันดับ 2 จะมี ส.ส.น้อยกว่าพรรคแรกกว่าครึ่ง 4.พรรคอันดับ 1 เลือกจับมือกับทุกพรรคที่เหลือ ยกเว้นบางพรรคที่ประชาชนผู้สนับสนุนไม่ประสงค์จะให้จับมือด้วย 5.ด้วยกติกาที่ให้ ส.ว.มาร่วมเลือกนายกฯอาจเห็นการจัดตั้งรัฐบาลเกิน 375 เสียง เอา ส.ว.ออกจากสมการจัดตั้งรัฐบาลแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 6.หากพรรคลุง 2 พรรค รวมกันได้ต่ำกว่า 125 เสียง จะส่งลุงกลับบ้านที่สมบูรณ์แบบ
“สมคิด” นำปักธงบ้านใหญ่ 3 จชต.
เมื่อเวลา 10.40 น. ที่โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดกิจกรรมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส โดยมีแกนนำพรรค นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ขึ้นเวทีเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 3 เขตประกอบด้วยนายวัชระ ยาวอหะซัน เขต 1 นายสารี สะมะแอ เขต 2 และนายอามีน โต๊ะนากายอ เขต 4 โดยมีสมาชิกพรรคและสมาชิกสภาจังหวัด 21 เขต จาก 30 เขต นำโดยนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส มาร่วมกิจกรรม
จากนั้นนายสนธิรัตน์กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตัวแทนที่แข็งแรงที่สุดของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ถือเป็นบ้านใหญ่ที่ทรงพลังคือนายกูเซ็ง ตัดสินใจจับมือกับพวกเรา บ้านเมืองเดินมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ เราถือเป็นหน้าที่ต้องรวบรวมคนดี คนเก่งเข้ามาร่วมสร้างบ้านเมือง ศึกใหญ่ครั้งนี้ไม่ใช่ศึกการเมืองอย่างที่เขาเล่นกันอยู่ แต่เป็นศึกปากท้องของพี่น้องทั้งประเทศ เราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ไม่ใช่การเล่นละครทางการเมืองไม่ใช่แค่รักษาดุลอำนาจทางการเมือง เราอยากเห็นนราธิวาสเป็นเมืองหลวงพรรค สอท.และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะทำให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่พิเศษด้านพลังงาน ถ้าเป็นรัฐบาลจะติดโซลาร์เซลล์ทุกหลังคาบ้าน
หมดเวลาลองผิดถูกเลือกผู้นำที่ชัวร์
นายอุตตมขึ้นเวทีปราศรัยว่า พรรคจะทำงานให้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ เรามีทีมงานที่เข้มแข็งที่สุดจากการสนับสนุนของนายกูเซ็งมาร่วมอุดมการณ์ เราไม่ใช่พรรคการเมืองแบบเดิม เมื่อบ้านเมืองเป็นแบบนี้เราต้องช่วยกัน ถ้าปากท้องไม่ดี อย่าคิดไปทำอย่างอื่น ไม่มีเวลาที่จะเสียไปอีกแล้ว พรรคนำเสนอนโยบายเพื่อพี่น้อง มีผู้นำที่พร้อม ปีหน้าจะเลือกใคร ขอให้เลือกคนมาทำงาน ตัดสินใจให้ดี เลือกใครเป็นผู้นำ หมดเวลาแล้วที่จะลองผิดลองถูก เอาชัวร์ไว้ก่อน
“อุตตม” ไม่รู้ “นิพิฏฐ์” อยู่หรือไป
จากนั้นนายอุตตมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานภาคใต้ เตรียมย้ายไปเสริมทีมภาคใต้พรรคพลังประชารัฐว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ยังร่วมประชุมกับนายนิพิฏฐ์ตามปกติ ไม่มีท่าทีที่ผิดปกติอะไร ไม่รู้ข่าวลือมาจากไหน ไม่ทราบว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ หลังมีข่าวไม่ได้พูดคุยและนายนิพิฏฐ์ไม่ได้ติดต่อมาพูดคุย ยืนยันภายในพรรคไม่มีปัญหาหรือความขัดแย้งใดๆ กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ พร้อมเดินหน้าต่อเนื่อง เมื่อถามว่า สูตรคำนวณ ส.ส.แบบนี้พรรคเล็กอยู่ยาก จะหาทางรวมกับพรรคอื่นหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ต้องไปดูแต่ละพรรคจะมีแนวทางอย่างไร เดินหน้าต่อไปให้ได้ พรรคเราอยู่บนหลักการที่ว่าหากเราเลือกเส้นทางนั้น ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าเราจะทำงานให้ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น พรรค สอท.แนวคิดควบรวมพรรคมันมีอยู่แล้วในทางการเมือง เป็นเรื่องธรรมดา ยอมรับว่ามีพูดจากันระหว่างพรรค แต่ยังไม่มีข้อยุติ 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อถามว่าเหลือไม่กี่เดือนจะยุบสภา การตัดสินใจควบรวมควรจะเร็วหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ถ้าจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องเร็ว ประชาชนหรือสังคมจะได้มีข้อมูล ขึ้นอยู่ว่าคุยเงื่อนไขกันลงตัวหรือไม่ เมื่อถามว่าจะควบรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติได้หรือไม่ นายอุตตมตอบว่า จนถึงขณะนี้ไม่มีแนวความคิดนั้นอยู่เลย ไม่เคยพูดจากัน
“สุรนันทน์” โพสต์รับใช้หมาดีกว่า
เมื่อเวลา 08.30 น. นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ประธาน กทม. โพสต์ข้อความพร้อมภาพ “ตี๋น้อย” สุนัขที่เลี้ยงไว้ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่า “The boss... and I #ตี๋น้อย เป็นคนรับใช้หมาดีกว่าทำงานให้นักการเมืองห่วยๆ”
“วลัยพร” รายงานตัวทำหน้าที่ ส.ส.
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องรับรองพิเศษ 206 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นางวลัยพร รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมารายงานตัวต่อกลุ่มงานทะเบียนประวัติและสถิติ สำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หลังได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระประชุมนายชวนแจ้งการเลื่อนนางวลัยพรขึ้นเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.แทนนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมให้นางวลัยพรกล่าวปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ มีจำนวน ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 474 คน
สภาฯ อลเวง ส.ส.ขาดประชุมอื้อ
ต่อมาเวลา 11.00 น. เข้าสู่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ที่เกิดเหตุสมาชิกอยู่ไม่ครบองค์ประชุม ต้องปิดประชุมสภา เนื่องจาก ส.ส.ฝ่ายค้านไม่พอใจที่จะให้โหวตลงมติมาตรา 9/1 ใหม่ เมื่อเริ่มการประชุมครั้งนี้ ส่อแววเกิดเหตุองค์ประชุมไม่ครบเหมือนเดิมทันที เมื่อนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ฝ่ายค้านจะอยู่ในห้องประชุม แต่ไม่ขอร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมโหวตมาตรา 9/1 เพราะไม่เห็นด้วยที่จะให้ลงมติใหม่มาตราดังกล่าว ขัดต่อข้อบังคับการประชุมสภาฯ ทำให้เกิดปัญหาขลุกขลักทันที ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอยู่ในห้องประชุมบางตา แม้นายชวนจะพยายามกดออดเรียก ส.ส.ให้เข้าห้องประชุม ขอความร่วมมือ ส.ส.ฝ่ายค้านที่อยู่ในห้องประชุมให้ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม แต่ไม่เป็นผล เสียเวลารอนานกว่า 30 นาที ยังไม่มีทีท่าจะมีสมาชิกครบองค์ประชุม
ไปไม่รอดองค์ประชุมล่มตามเคย
จากนั้นเวลา 11.30 น. นายชวนแจ้งว่า ยังขาดองค์ประชุมอยู่ 17 คน แต่นายชวนยังให้รอต่อไป กระทั่งเวลา 11.40 น. นายชวนแจ้งอีกครั้งว่า จากการสอบถามผู้ควบคุมเสียงฝ่ายรัฐบาลทราบว่าคงใช้เวลาอีกนานเพื่อตาม ส.ส. มาให้ครบองค์ประชุม ขณะนี้มีผู้มากดบัตรแสดงตนเพียง 221 คน ขาดอีกกว่า 10 คน เมื่อองค์ประชุมไม่ครบขอสั่งปิดประชุมทำให้ร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่เข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ เป็นรอบที่ 4 แล้ว แต่ยังคงยืดเยื้อไม่ผ่านการพิจารณา
ฝ่ายค้านโยนรัฐบาลรับผิดชอบเต็มๆ
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงกรณีที่ประชุมสภาฯ ล่มว่า เหตุที่สภาล่มเพราะฝ่ายค้านคัดค้านมาตลอดว่า การลงมติใดที่ลงคะแนนไปแล้วไม่สามารถกลับมาลงมติใหม่ได้ แต่การประชุมสภาฯ ในวันที่ 1 ธ.ค. ที่ประชุมยังยืนยันจะโหวตมาตรา 9/1 ที่เกิดปัญหาในการประชุมสภาฯ สัปดาห์ที่แล้ว ฝ่ายค้านจึงไม่ร่วมสังฆกรรม ไม่เป็นองค์ประชุม ให้เป็นหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลหาองค์ประชุมเอง บรรยากาศสภาฯแบบนี้ไม่เป็นผลดีแน่ รัฐบาลต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ส.ส. รัฐบาลหายไปไหน ทำไมองค์ประชุมไม่ครบ เพราะฝ่ายค้านบอกตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จะไม่เป็นองค์ประชุมให้อย่างอแงลงมติแพ้ขอโหวตใหม่ไม่ได้
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ฝ่ายค้านร่วมมือเรื่องการประชุม แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องหลักการ ที่ขอให้ลงมติใหม่ในเรื่องที่ลงมติไปแล้ว ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจดำเนินการได้ ฝ่ายค้านจึงไม่สามารถร่วมดำเนินการประชุมด้วยได้ เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล หากไม่รับผิดชอบองค์ประชุมได้ เสมือนว่าไม่รับผิดชอบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่เกมการเมือง แต่เป็นความชอบธรรมทางกฎหมาย
พปชร.อ้าง ส.ส.ติดภารกิจติดโควิด
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล แถลงว่า สาเหตุที่รัฐบาลที่ไม่มาร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมจนสภาล่มในวันที่ 1 ธ.ค. เพราะ ส.ส.พรรค พปชร. ส่วนหนึ่งแจ้งตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าติดภารกิจและมี ส.ส.อีก 6 คน ติดโควิด ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นก็เชื่อว่ามีคนติดภารกิจและติดโควิดเช่นกัน ต้องขอโทษประชาชนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับความผิดพลาด หลังจากนี้จะพยายามทำหน้าที่ ส.ส.พิจารณากฎหมายให้มากที่สุด
กกต.แจงสิทธิคนลงประชามติ
วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวประกาศ กกต.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อ ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ 2565 ตามมาตรา 9 (5) แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ 2564 ต้องมีผู้มีสิทธิเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 50,000 คน และมีคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้าชื่อ มีดังนี้ 1.มีสัญชาติไทย ผู้แปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี 2.มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีในวันออกเสียง 3.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตออกเสียงไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันออกเสียง และต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังนี้ 1.เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช 2.อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ เลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ 3.ต้องคุมขังอยู่โดยหมายศาลหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย 4.วิกลจริตจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
“เจ้าสัวธนินท์” ชี้สเปกผู้นำคนกล้า
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี เปิดเผยว่า คุณสมบัติของผู้นำที่มองหาคือต้องเป็นคนกล้า กล้าทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน ที่ผ่านมาเราจะเห็นผู้นำที่กลัว ไม่กล้าทำเพราะจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ “ผมมองว่าหากผู้นำมั่นใจว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือส่วนใคร ควรเดินหน้าทำโดยกล้าหาญ และต้องเข้าใจว่าเราจะบังคับให้ทุกคนมองเหมือนกันไม่ได้ ฉะนั้นหากเราทำสัก 10 เรื่อง ถูกสัก 7-8 เรื่องถือว่ารับได้ โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้นำต้องไม่กลัว”
ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม “สุชาติ”
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีทำร้ายร่างกายนายวรรณา รอดพิทักษ์ รองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบพฤติกรรมนายสุชาติเข้าข่ายการทำผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ที่ไปตบหัวนายวรรณาระหว่างร่วมงานศพ วัดทุ่งส่อหงษา จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 26 พ.ย.65 จนถูกแจ้งความเอาผิด นายสุชาติรับสารภาพ ยอมจ่ายค่าปรับ 10,000 บาท ถึงจะเป็นคดีลหุโทษตามกฎหมาย แต่โทษทางจริยธรรมไม่อาจยอมความกันได้
รอลงอาญา “ไมค์” ละเลงป้ายค่ายทหาร
ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีดำ อ.2384/64 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มราษฎร นายธนชัย เอื้อฤาชา และนายฉัตรมงคล วัลลีย์ เป็นจำเลย 1-3 ร่วมกันบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ กรณีเมื่อวันที่ 28 ก.ย.63 พวกจำเลย ประมาณ 30 คน เป็นแกนนำทางการเมืองได้จัดชุมนุมทำกิจกรรม “ตามหานาย” บริเวณทางเข้าประตูกองพันทหารม้าที่ 4 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ม.พัน.4 พล.1 รอ.) ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต เพื่อเรียกร้องทวงถามความคืบหน้ากับผู้บังคับบัญชา ที่บังคับให้ผู้ชุมนุมลบภาพถ่ายหน้าหน่วยและร่วมกันปีนรั้ว ใช้สติกเกอร์แปะติดที่ป้ายกองพัน บิดทิศทางกล้องวงจรปิด สาดสี ปากระป๋องสีเข้าไปภายในกองพัน ใช้ไข่ปาป้ายชื่อกองพันจนเปรอะเปื้อน สร้างความเสียหายเป็นเงิน 45,000 บาท ศาลพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จำคุก 12 เดือน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี