"กองบิน 5" อ่าวมะนาว เปิดฐานบินต้อนรับ "บิ๊กตุ๊ด" พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. ที่ถือฤกษ์ดีนำคณะสื่อ และบิ๊ก ทอ. มุ่งสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมพิธีฉลองเครื่องบิน "พีซเมกเกอร์" Peacemaker AU23A ครบ 50 ปี ณ ฝูงบิน 501 ซึ่งถือเป็นหน่วยบินเก่าแก่ของทัพฟ้าไทย ที่ผ่านประวัติศาสตร์สงครามโลก และสงครามหลายสมรภูมิมาอย่างโชกโชน

เครื่องบิน พีซเมกเกอร์ AU23A ได้เข้าประจำการกองทัพอากาศไทย หลังมิตรประเทศ กองทัพสหรัฐฯ ได้มอบให้ ทอ.ไทย หลังสงครามเวียดนาม จำนวน 33 เครื่อง จนมาถึงปัจจุบัน เครื่องบินที่มอบให้ยังสามารถใช้บินในภารกิจต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

ซึ่งเครื่องบินดังกล่าวถือเป็นฝูงเดียวในโลก ที่ยังประจำการในฐานทัพอากาศไทย นับตั้งแต่ 14 พ.ย. 2515 ด้วยความช่วยเหลือจากทหารสหรัฐฯ

แม้ว่าปัจจุบัน เครื่องบินพีซเมกเกอร์ จาก 33 เครื่อง จะเหลือในปฏิบัติการบินได้เพียง 12 เครื่อง ด้วยเหตุที่อะไหล่ในการซ่อมบำรุง คงเลิกสายการผลิตแล้ว และการซ่อมที่ผ่านมาก็กินตัวไปเรื่อยๆ จนทำให้เหลือจำนวนใช้งานได้เพียงเท่านี้ แต่ ทอ.ยังยืนยันเครื่องบินทุกลำของฝูงบิน 501 ได้รับการดูแล และยังคงมีประสิทธิภาพที่ดี

...

นอกจากนี้ "กองทัพอากาศ" ได้ทำการปรับปรุง Modify แล้ว 8 เครื่อง เหลือออีก 4 เครื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อยึดอายุการใช้งานไปอีก 15 ปี เพื่อทดแทนการซื้อใหม่ เนื่องจากด้วยงบประมาณของกองทัพที่มีอยู่อย่างจำกัด และคาดว่า 4 เครื่องที่เหลือการ Modify จะแล้วเสร็จภายใน กันยายน 2566 นี้


"เครื่องบินพีซเมกเกอร์ ถือเป็นเครื่องบินที่กองทัพอากาศใช้งานในภารกิจต่างๆ มาอย่างคุ้มค่า ทั้งในอดีตใช้ในการปราบปรามคอมมิวนิสต์ การรักษาความมั่นคง ป้องกันอธิปไตย ขจัดภัยคุกคาม ผ่านการบินมาโชกโชน ไม่ว่ายุทธการทองผาภูมิ การปราบที่ดอยยาว ดอยผาหม่น ผาเมืองเผด็จศึก ฯลฯ กระทั่งปัจจุบันยังสามารถขึ้นบินให้การสนับสนุนภารกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับ กองกำลัง ฉก.9 กองทัพภาคที่ 4 กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า"

พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. ระบุด้วยว่า แม้ เครื่องบินพีซเมกเกอร์ จะเป็นเครื่องบินเก่า จนสามารถเรียก "คุณปู่" แห่งการบินได้ แต่ยังได้รับการปรับปรุงโครงสร้าง ปรับปรุงระบบภายในอย่างต่อเนื่อง แม่แต่หน้าจอแบบเข็ม หรือระบบแอนาล็อก ถูกเปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิทัล เพื่อให้มีความทันสมัยเพิ่มความมั่นใจ ความปลอดภัย ในการบินของนักบินมากยิ่งขึ้น

กระทั่งได้รับภารกิจขึ้นบินที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น การลาดตระเวนทางอากาศ ปฏิบัติการฝนหลวง การกระจายเสียงแจ้งข่าวยังประชาชน การลำเลียงทางอากาศ การบินควบคุมไฟป่า หรือใช้ในการสำรวจเส้นทาง รางรถไฟ พัฒนาประเทศต่างๆ รวมทั้งเข้าร่วมการฝึกร่วมกับกองทัพมิตรประเทศในการฝึกผสมต่างๆ อีกมากมาย

โดย "กองทัพอากาศ" ได้ทำการประเมิน วางแผนการใช้เครื่องบินพีซเมกเกอร์ ทุกๆ 5 ปี อย่างน้อย 15 ปี ที่สามารถใช้งานต่อไปได้

จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า กองทัพอากาศ ได้นำทรัพยากรที่มีอยู่มาปรับปรุงเพื่อยืดอายุการใช้งาน เพื่อแทนการจัดซื้อใหม่ เช่นเดียวกับ เครื่องบิน C-47 Dakota หรือ BT-67 ซึ่งโครงสร้างเครื่อง จะไม่มีผลกระทบกับแรง G ที่มาก จึงสามารถยืดอายุการใช้งานได้ ขณะที่เครื่องบินขับไล่ F-5 หรือ F16 ที่หากโครงสร้างครบอายุการใช้งานแล้ว ต้องปลดประจำการอย่างเดียว 

ที่สำคัญ กองทัพอากาศไทย ถือเป็นหน่วยเดียวที่ยังใช้งานเครื่องบินนี้ได้อยู่อย่างคุ้มค่า หรือเรียกว่า ฝูงเดียวในโลกทางทหารที่เหลืออยู่ จึงนับเป็นความภูมิใจของกองทัพไทย ที่ยังใช้เครื่องบินพีซเมกเกอร์ ในภารกิจทางทหาร พัฒนา และการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ น.ท.ชิดพล อุไรพงษ์ ผบ.ฝูง 501 กองบิน 5 ในฐานะผู้นำนักบิน และเติบโตมากับเครื่องบินแบบ "พีซเมกเกอร์" ย้ำว่า ตั้งแต่เรียนจบ ก็ได้เข้าประจำการที่กองบิน 5 ถือเป็นความภาคภูมิใจในเกียรติประวัติ ที่เครื่องบินรุ่นนี้ได้ผ่านมาหลายสมรภูมิรบ ในยุคผู้ก่อความไม่สงบ จนปัจจุบันยังคงใช้บินลาดตระเวน กระจายเสียงเพื่อให้ประชาชนรับทราบในสถานการณ์ต่างๆ เช่น น้ำท่วม โควิด-19 รวมถึงการทำฝนหลวงด้วย โดยเครื่องบินพีซเมกเกอร์ ถูกทยอยปรับปรุงขีดความสามารถ เพื่อยืดอายุการใช้งานไปได้อย่างน้อยอีก 15 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจแล้ว

อย่างไรก็ตาม "ผบ.ทอ." ยืนยันด้วยว่า "กองทัพอากาศ" ยังมีแผนจัดหาเครื่องบินใหม่ที่ต้องเดินหน้า โดยเฉพาะการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 เพื่อทดแทนเครื่องบิน F-16 ที่ต้องทยอยปลดประจำการในอีกไม่นานนี้ ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีปรับปรุงยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน แบบเครื่องบินทางธุรการทั่วไป

ซึ่งคาดว่าภายในเดือน ม.ค. - ก.ค. 2566 ทอ.จะรู้คำตอบจากสภาครองเกสของสหรัฐฯ ว่าในที่สุดแล้วจะมีการอนุมัติขายเครื่องบินรบ F-35 จำนวน 2 เครื่อง ในวงเงินกว่า 7,000 ล้านบาทให้ไทยหรือไม่ เพราะ F-35 ถือเป็นเครื่องบินที่ดีที่สุดในโลก และเป็นเครื่องบินที่มีแต้มต่อมาก 1 เครื่อง สามารถแทนเครื่องบินขับไล่ได้ 3 เครื่อง

รวมถึงปี 2566 กองทัพอากาศ มีเครื่องบินใหม่อีกหลายแบบ ที่จะทยอยประจำการตามแผนจัดหาเดิม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบินลาดตระเวนทางอากาศ แบบไดมอนด์ติดตั้งกล้องพิเศษ ใช้สำรวจ-วิเคราะห์พื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ตรงจุด เครื่องบินฝึกแบบ T-6C สำหรับศิษย์การบิน และมีโครงการจัดหาเครื่องบิน AT-6 ทดแทนเครื่องบิน L-39 ของกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่

ซึ่งทั้งหมดคือแผน กองทัพอากาศ ที่จะต้องหาเครื่องบินทดแทนเครื่องที่กำลังจะปลดประจำการ จาก 5 ฝูง เหลือ 2 ฝูงในปี 2575 ที่ได้วางแผนดําเนินการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี จํานวน 1 ฝูงบิน เพื่อมาทดแทน 3 ฝูงบินที่ได้วางแผนทยอยปลดประจําการ

เพื่อให้นับจากนี้ "กองทัพอากาศ" ยังคงดํารงขีดความสามารถในการปฏิบัติการ "บินรบ" ในอากาศ และ "การโจมตี" ทางอากาศต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยอีก 40 ปีนั่นเอง