พรรคเพื่อไทย ลั่น ไม่ขอโหวตหนุนร่าง พ.ร.บ.กัญชา ชี้ เปิดช่องสันทนาการ ประชาชนปลูกเสพเองได้ มอง ไร้ความจำเป็นแก้กฎหมายหรือปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติด

วันที่ 23 พ.ย. 2565 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในงานเสวนา “กัญชาเสรี บาปใหญ่รัฐบาลประยุทธ์?” ที่พรรคเพื่อไทย ว่า การที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้กัญชาออกจากบัญชียาเสพติดโดยยังไม่มีกฎหมายการใช้มารองรับ เป็นการเปิดช่องให้ใช้กัญชาในทางที่ผิด การสนับสนุนกัญชาเสรีของพรรคที่สนับสนุนแนวคิดนี้ดูเหมือนจะเป็นไปเพื่อใช้ในทางการแพทย์ แต่มีช่องโหว่ให้ใช้เพื่อการสันทนาการด้วย ซึ่งปัญหาที่ถกเถียงในขณะนี้คือ หากใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเดียวแล้วร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... จะผ่านจากสภาผู้แทนราษฎรแน่ แต่นี่เปิดช่องเพื่อสันทนาการ พรรคเพื่อไทยจึงไม่สามารถผ่านกฎหมายนี้ได้ เพราะมีข้อสังเกตดังนี้

1. รัฐบาลไม่ห้ามเสพกัญชา แม้จะมีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ถ้าใช้เพื่อสันทนาการพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะไม่ยกมือสนับสนุนให้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ผ่านสภาฯ แน่นอน

...

2. แม้จะห้ามจำหน่ายกัญชาให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หมายความว่าซื้อมาเสพมีความผิด แต่ปลูกเองเสพเองไม่ผิด เพราะอนุญาตปลูกในครัวเรือนไม่เกิน 15 ต้น ตามมาตรา 18 ในร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ทั้งยังห้ามขาย เท่ากับว่าประชาชนไม่ต้องไปซื้อแต่ปลูกเสพเองได้ง่าย

3. ส่งเสริมให้ปลูกในครัวเรือน จากที่เคยหาเสียงว่าปลูกเพื่อจำหน่าย แต่ในชั้นกฎหมายห้ามขาย จึงต้องปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน นำไปประกอบอาหาร หรือทำยา อย่าลืมว่าในกัญชามีทั้งสารดีอย่าง CBD และสารร้าย THC ซึ่งประชาชนไม่สามารถไปแยกเองได้

ทางด้าน นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า ไม่มีความจำเป็นต้องไปแก้กฎหมายหรือปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เพราะแต่เดิมใน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. 2562 สามารถนำกัญชามาใช้ศึกษาวิจัยทางการแพทย์ได้อยู่แล้ว อีกทั้งราชวิทยาลัย แพทยสมาคม และแพทยสภา มีความเห็นตรงกันว่าการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ไม่ขัดข้อง แต่ไม่เห็นด้วยที่จะนำกัญชามาเสพเพื่อสันทนาการ จึงตั้งเงื่อนไขการใช้กัญชาทางการแพทย์ไว้ 5 ข้อ คือ

1. การใช้กัญชาทางการแพทย์ จะต้องมีหลักฐาน งานวิจัย ลงตีพิมพ์วารสารทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือในระดับโลกรับรอง

2. ผลิตภัณฑ์กัญชา ต้องเป็นการผลิตที่มีคุณภาพ ปลูกภายใต้การควบคุมมาตรฐาน การควบคุมของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้สารสำคัญจำเป็นใช้ในทางการแพทย์

3. มีการควบคุมการรักษา ไม่ว่าจะรักษาด้วยการแพทย์สมัยใหม่หรือการแพทย์แผนโบราณ จะต้องผ่านการอบรมเรียนรู้ก่อนนำไปรักษา

4. ผู้ป่วยที่จะรับการรักษา ต้องมีการคัดกรองผู้ป่วย จำเป็นต้องใช้การรักษาด้วยกัญชาอย่างไร รวมถึงประเมินผลตั้งแต่ก่อนรักษาจนถึงหลังรักษา

5. รัฐต้องกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาดูแลควบคุมได้ง่าย

แต่ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่กำลังพิจารณา กลุ่มแพทย์เห็นว่าไม่สอดคล้องกับเงื่อนไข 5 ข้อ หากปล่อยกฎหมายนี้ให้ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

ขณะที่ น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามว่า การส่งเสริมให้มีการปลูกกัญชาจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างไร จะเก็บภาษีได้มากขึ้นจริงหรือไม่ อย่างในแคนาดาหรือในสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้เปิดเสรีกัญชาทั้งประเทศ แต่เลือกเป็นรัฐแล้วแต่ความพร้อมและเก็บภาษีในอัตราสูงมาก แต่ประเทศไทยกลับไม่เห็นมีการกำหนดการเก็บภาษีสำหรับการปลูกและจำหน่าย

“ไม่มีประเทศไหนในโลกที่สนับสนุนให้ประชาชนปลูกกัญชา มีแต่ประเทศไทยประเทศเดียวที่เห็นรัฐมนตรีของเราไปโปรโมต สนับสนุนให้คนเสพกัญชาโจ่งแจ้ง การซื้อขายบุหรี่ยังปิดกั้นแผงจำหน่าย การซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังจำกัดเวลาซื้อ แต่กัญชาคนซื้อมองเห็นเป็นชิ้นเป็นอัน”