ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ให้ประกันตัวผู้ชุมนุมต้าน APEC แล้ว 23 ราย ขณะที่อีก 2 รายยังสอบปากคำไม่เสร็จคาดต้องรอเช้า โดยมีฝูงชุมนุมจำนวนหนึ่งปักหลักให้กำลังใจที่หน้าสถานี
เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา จนถึงช่วงกลางดึก ผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 จำนวนหนึ่ง รวมกลุ่มทำกิจกรรมร้องเพลง บรรเลงดนตรี เพื่อส่งกำลังใจให้ผู้ชุมนุมที่ถูกคุมตัวอยู่ภายในห้องคุมขัง สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งมีผู้ถูกคุมตัวอยู่ จำนวน 25 คน หลังถูกจับขณะเผชิญหน้ากับตำรวจควบคุมฝูงชน ตอนเคลื่อนขบวนจากลานคนเมือง เพื่อไปยังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ขณะเดียวกันด้านใน สน.ทุ่งสองห้อง มีกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง ตั้งแนวรับพร้อมโล่กำบัง เพื่อเฝ้าระวังและดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ โดยปิดประตูทางเข้า สน. เอาไว้ และอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นและมีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น
โดยหลังคุมตัวสอบสวนนานหลายชั่วโมง ผู้ชุมนุมทั้ง 25 คน ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว 23 คน เนื่องจากทำการสอบปากคำเสร็จสิ้น ดำเนินการทางเอกสารเรียบร้อยแล้ว ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ในวงเงินประกันคนละ 20,000 บาท และทยอยปล่อยตัวออกมาเมื่อช่วงเที่ยงคืน ภายใต้เงื่อนไข ห้ามเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองใดๆ ระหว่างได้ประกันตัว และห้ามประกาศเชิญชวนบุคคลอื่นเข้าร่วมมั่วสุมหรือกระทำการใดๆ ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
...
ในเวลาต่อมา ผู้ชุมนุมที่ปักหลักให้กำลังใจก็ทยอยแยกย้ายกลับ ส่วนอีกผู้ถูกจับกุมที่เหลืออีก 2 คน การสอบปากคำและเอกสารพยานหลักฐาน ยังไม่เรียบร้อย แต่คาดว่าจะได้รับการประกันตัวและปล่อยตัวได้ในช่วงเช้าวันเสาร์นี้
นอกจากนั้น ยังมีผู้ที่ถูกควบคุมตัวอีก 1 คน แต่ยังอยู่ระหว่างการเข้ารับการผ่าตัดดวงตา-ศัลยกรรมจมูก ที่ รพ.ตำรวจ หลังได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์เผชิญหน้ากับตำรวจควบคุมฝูงชน ระหว่างเคลื่อนขบวนออกจากลานคนเมือง โดยจะเข้าพบพนักงานสอบสวนภายหลังการรักษาเรียบร้อย
ส่วนความผิดตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา มีข้อหาหลัก ในความผิดอาญามาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 216 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไป ผู้ใดไม่เลิก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนความผิดในข้อหาอื่นๆ อาจจะแตกต่างกันไปตามพฤติการณ์รายบุคคล อาทิ ความผิดฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน และความผิด ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ พ.ร.บ. ความสะอาดฯ เป็นต้น