"ทักษิณ" บอก คนไม่ชอบ สงสารผมเถอะ อยากกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน ปลื้ม "อิ๊งค์" อุ้มท้องหลานคนที่ 7 บินเยี่ยมดูไบ เหน็บ "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" เกาเหลา 2 ชามคุยกัน ไม่มีเส้น แยกไปเปิดคนละร้าน สุดท้ายจับมือข้างหนึ่ง ถือมีดข้างหนึ่งอยู่ดี
เฟซบุ๊ก CARE • แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สด เมื่อวาน (8 พ.ย.) การพูดคุยกับ โทนี วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ ทำนโยบายสาธารณะไม่เป็น หรือเห็นแก่เงินของใคร
โดยช่วงหนึ่ง นายทักษิณ กล่าวว่า ช่วง 14 วันที่ผ่านมา อุ๊งอิ๊ง หรือ แพทองธาร ชินวัตร เดินทางมาเยี่ยม แต่ไม่ได้พาหลานสาว น้องธิธาร มาคนเดียว พาหลานอีกคนซึ่งอยู่ในท้องมาด้วย
“ผมกำลังจะมีหลานคนที่ 7 เป็นเพศชาย ซึ่งมีกำหนดคลอดช่วงเดือนพฤษภาคมปีหน้า แล้วคราวนี้คนที่ไม่ชอบหน้าผม จะไม่สงสารผมหรือ อยากกลับไปเลี้ยงหลานแล้ว ไม่เห็นใจผมบ้างหรือ” นายทักษิณ กล่าว
ขณะที่อีกช่วงหนึ่ง นายทักษิณ ได้พูดถึงความเคลื่อนไหวของการเมืองไทย ว่า การเมืองบ้านเรา จากที่สังเกตดูจนต้องตั้งคำถามว่า วันนี้ชาติเราพังไปแล้วหรือ ถึงจะสร้างกันแหลกเลย ทั้งรวมไทยสร้างชาติ ไทยสร้างไทย สร้างอนาคตไทย สรุปแล้วประเทศเราไม่มีแล้วหรือ ถึงต้องสร้างกันใหม่ ส่วนตัวคิดว่ามีอยู่ และสร้างกันมานานแล้วตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่เสีย ดังนั้น จึงต้องซ่อม ไม่ใช่สร้าง เพราะทหารปฏิวัติมาแล้วถึง 2 ครั้ง ประเทศเจ๊ง ประเทศยังอยู่ แต่ต้องซ่อม
นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ดู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี คุยกัน ในเมื่อเกาเหลา 2 ชามคุยกัน อย่างไรก็ไม่มีเส้น ดังนั้น เกาเหลา 2 ชามนี้ จึงไปเปิดร้านคนละร้าน โดยคนหนึ่งยึดร้านเก่าไว้ ส่วนอีกคนเปิดสาขาใหม่ แล้ววันนี้เจ้าของร้านใหม่มาเจอกับหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งเห็นภาพอย่างชัดเจน
...
“สรุปก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และถ้าเดาไม่ผิด นายสุชาติ ชมกลิ่น จะไปเป็นเลขาฯ ส่วน พล.อ.ประวิตร ซึ่งรักษาพรรคเดิมไว้ ตอนนี้เริ่มเรียกคนกลับมาก็สนุกดี แต่จะบอกให้อย่าง ประชาชนเจ็บมานาน ฉะนั้น เที่ยวนี้ ประชาชนกำลังจะสอน เรื่องมันนี่ โพลิติก คือ ท่านมานั่งทำประเทศฉิบหาย เฮงซวย แดกเงินกันฉิบหาย และนำมาซื้อเสียง สุดท้ายประชาชนจะเอาเงิน แต่ไม่เลือกคอยดู นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นคราวหน้า” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวว่า ขณะนี้ บางพรรคจะซื้อ ส.ส. ให้เข้าร่วมพรรค หัวละ 80 ล้านบาทส่วนตัวมองว่า เหมาะมากสำหรับผู้ที่กำลังจะรีไทร์การเมือง แต่ซื้อไปก็เจ๊ง แพ้ ดังนั้น เลือกตั้งครั้งต่อไป สนุก เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนจะกำหนดโชคชะตาของตัวเอง แม้สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จะหันมาร่วมมือกับ พล.อ.ประวิตร แต่จะเป็นการจับมือข้างหนึ่ง แล้วถือมีดข้างหนึ่งอยู่ดี
“ในฐานะคนที่ผ่านการเมืองมาเยอะ วิเคราะห์ตามกติกาที่ระบุว่า ถ้าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ได้ 25 เสียง ชื่อนั้นตกกระป๋อง ไม่มีความหมาย ผมดูแล้ว พรรคที่จะได้ 25 เสียงขึ้นไปนั้น มีอยู่ 5 พรรค ไม่มากกว่านั้น ดังนั้น ถ้าผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ มี 2 ทางเลือก คือ จะเอาเท่ หรือไม่เท่ ซึ่งถ้าเอาเท่ คือ อยู่ครบเทอม เหลืออีก 2 ปี อย่าคิดอะไร พักผ่อน เท่ๆ ล้างมือ จบ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ คอยดูวันที่ 23 ธันวาคมนี้ จะมี ส.ส. มีรัฐมนตรี ลาออกเพื่อย้ายพรรคให้ทัน ไม่งั้นจะตกขบวน นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จะประกาศยุบสภา
ส่วนแบบไม่เท่ คือ ไม่ต้องเข้าพรรคไหนไปตกลงกับพรรคภูมิใจไทย และให้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคู่กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล แบ่งกันคนละ 2 ปี เพราะถ้าไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่แน่ใจ เพราะเป็นพรรคใหม่ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาของนายวราวุธ ศิลปอาชา เงินมี ชื่อพรรคเก่า แต่ไม่ได้ 25 เสียง ส่วนพรรคประชาชาติ อยู่มาแล้ว 1 สมัย ฐานเสียงภาคใต้ก็มี แต่ทำให้ได้ 25 เสียงยาก อันนี้ไม่ได้พูดเพราะรักใคร ชอบใคร เกลียดใคร หรือดูถูกใคร คิดซะว่าเป็นนักวิจารณ์การเมืองคนหนึ่งก็แล้วกัน ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย” นายทักษิณ กล่าว