รองโฆษกรัฐบาล ยืนยันการช่วยเหลือ “เงินทำศพผู้สูงอายุ” รัฐบาลช่วยรายละ 3,000 บาท ไม่ใช่ 30,000 บาท ตามที่มีการแชร์ผ่านสื่อโซเชียล ย้ำผู้สูงอายุที่ได้รับการช่วยเหลือต้องมีฐานะยากจนตามหลักเกณฑ์

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เนื้อหาเกี่ยวกับประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 เรื่อง การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือในการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณีที่มีฐานะยากจน “เงินทำศพผู้สูงอายุ” รายละ 30,000 บาท นั้น ไม่เป็นความจริง

นางสาวรัชดา ชี้แจงว่า การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี หรือเงินทำศพผู้สูงอายุ รัฐบาลโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะช่วยเหลือเงินในการจัดการศพผู้สูงอายุ รายละ 3,000 บาท ตามประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจะต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้

ผู้เสียชีวิตอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีสัญชาติไทย เป็นผู้สูงอายุที่มี “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือผู้สูงอายุซึ่งอยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใดๆ ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินการจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคม วัด มัสยิด โบสถ์

สำหรับการยื่นคำขอ “เงินทำศพผู้สูงอายุ” ครอบครัวผู้เสียชีวิต หรือญาติผู้รับผิดชอบจัดการศพ จะต้องยื่นคำขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตร พร้อมกับเอกสารสำคัญ เช่น ใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุหรือหนังสือรับรอง บัตรประจำตัวประชาชน สมุดบัญชี หรือเลขที่บัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำขอ (เพื่อโอนเงิน) กรณีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่สำนักงานเขต ส่วนจังหวัดอื่นๆ ให้ยื่นคำขอในท้องที่ เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น

...