สภาฯ สมัยสุดท้ายเหลืออีก 16 สัปดาห์ เริ่มมาก็ส่อเดือด “ชวน” ปะทะ “อมรัตน์” หารือประเด็นมาตรา 112 ขณะร่าง ก.ม.กัญชา ของพรรคภูมิใจไทย อาจเข้าสภาฯไม่ทันสัปดาห์หน้า

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 2 พ.ย.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง เป็นวันแรก มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯทำหน้าที่ประธานการประชุม นายชวน แจ้งว่าการประชุมสภาฯเป็นสมัยสุดท้ายมีเวลาประชุม 120 วัน มีเวลารวม 16 สัปดาห์ ผลการหารือของกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย ตนรับทราบในคำแนะนำที่ไม่อยากให้เพิ่มการประชุมในวันศุกร์ ดังนั้นการประชุมในวันพุธ และวันพฤหัสบดีจะขอเพิ่มเวลาการประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากนั้นบรรยากาศการประชุมเกิดการประท้วง ตั้งแต่ช่วงหารือก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ ระหว่างประธานสภาฯ กับ ส.ส.พรรคก้าวไกล เมื่อนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอหารือประธานสภาฯ ผ่านไปยังผู้บริหารศาลอาญา โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ด้วย หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ประกาศว่า จะดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม โดยใช้กฎหมายทุกมาตรา ขณะนี้ คดีความมาตรา 112 กำลังอยู่ในชั้นสืบพยานในศาลจำนวนมาก ซึ่งเนื้อหาในการพูดของนางอมรัตน์ หมิ่นเหม่ว่า อาจมีบางส่วนกระทบกับศาล และสถาบันเบื้องสูง

...

ทำให้นายชวน กล่าวเตือนว่า ขอเตือนด้วยความหวังดี อย่าไปไกล เราปรึกษาหารือเพื่อประโยชน์ของประชาชน อย่าไปไกลถึงเรื่องสถาบัน นางอมรัตน์ พยายามอธิบายว่า เรื่องนี้คือเรื่องที่มีประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด เป็นเรื่องที่ท่านประธานไม่กล้าพูด นายชวน จึงเตือนอีกว่า ตนขอเตือนด้วยความปรารถนาดี ก็ไม่ได้ชื่นชมที่กล้าพูดหรอกครับ เตือนด้วยความหวังดีกับเราทุกคนว่า เราอยู่ในข้อบังคับกฎหมาย พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพาดพิงถึงสถาบัน แม้กระทั่งสถาบันศาล ข้อเท็จจริงนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งก็ว่าไป ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ ขอร้องไม่ให้พูดถึงสถาบันครับ นางอมรัตน์ ไม่ยอมจึงสวนว่า ถ้าคนที่เป็นตัวแทนประชาชนไม่กล้าพูด แล้วจะให้ใครพูด ถ้าสภาฯแห่งนี้ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ให้ ด้านนายชวนจึงตัดบท ไม่ให้พูดต่อ แล้วเรียกชื่อ ส.ส.ผู้ขอหารือคิวต่อไป

อย่างไรก็ตาม นางอมรัตน์ ไม่ยอม พยายามจะอภิปรายต่อ ทำให้นายชวน ต้องปิดไมโครโฟนหลายครั้ง นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จึงลุกขึ้นประท้วงว่า ประธานต้องทำตัวเป็นกลาง เพราะเรื่องนี้นางอมรัตน์ ยังพูดไม่จบ และความรับผิดชอบเป็นของอมรัตน์ เอง ในส่วนกรณีนี้ นางอมรัตน์ ไม่ได้ผิดข้อบังคับใดๆ เลย ขอให้นางอมรัตน์พูดให้จบ

ขณะที่ นายชวน ชี้แจงว่า เพราะความเป็นกลางถึงต้องเตือนกัน ไม่ได้เตือนเพราะว่า ไม่เป็นกลาง ตนต้องดูแลสภาฯ เราต้องประคับประคอง สถาบันอื่นเป็นอย่างไรก็ตาม สถาบันสภาฯต้องเป็นหลักเสมอ หลักคือต้องอยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ กติกา กฎหมาย ตนสั่งอย่างไร ประธานมีอำนาจในการใช้ดุลพินิจตามที่เห็นสมควร กรณีนางอมรัตน์ ถือว่าจบแล้ว แต่นางอมรัตน์ พยายามประท้วงอีก โดยขอพูดอีก 20 วินาทีโดยไม่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ สุดท้ายนายชวนตัดบท ว่า เกินเวลาแล้ว สั่งแล้วก็จบแล้ว ยินดีรับฟัง แต่ว่าจบแล้ว อย่าให้เสียเวลาเลยครับ สภาฯมีค่าสำหรับทุกคน

ต่อมา เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาฯ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ในฐานะวิปรัฐบาล เสนอให้สภาฯ เลื่อนร่าง พ.ร.บ.การแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. ... ที่ ครม.เป็นผู้เสนอ ขึ้นมาพิจารณา เป็นเรื่องด่วน ในวันที่ 9 พ.ย. ก่อนหน้าเรื่องที่ กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งที่ประชุมเห็นตามที่เสนอ ส่งผลทำให้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. .... ซึ่ง กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ของ พรรคภูมิใจไทย  อาจจะไม่สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ ได้ทันสัปดาห์หน้า