“อาจารย์อู๋ จุฑาพร” คณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย จี้ “บิ๊กตู่” ศึกษาปัญหาให้ดีก่อนส่งคนโต้มั่ว เตือน จะล้มเหลวทางเศรษฐกิจซ้ำซ้อน ชี้ เศรษฐกิจไทยเสื่อมถอย เพราะผู้นำคิดได้แค่แจกเงิน แนะ ศึกษาแนวทางต่างประเทศในการฟื้นเศรษฐกิจ
วันที่ 21 ต.ค. นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางรัก และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจได้แนะนำพลเอกประยุทธ์ว่า โครงการคนละครึ่ง ไม่ควรดำเนินการแล้วในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ควรจะนำเงินไปแก้ไขปัญหาหนี้และปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยมากกว่าจะนำมาแจกเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของพลเอกประยุทธ์ตลอด 8 ปี สะท้อนชัดเจนจากเสียงหัวเราะปนความเอือมระอาของประชาชน เป็นตัวตลกในเวที เดี่ยว 13 ของโน้ต อุดม
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่มาตลอดหลายปี ก่อนวิกฤตการณ์โควิด จนหลังวิกฤติมา 2 ปีแล้ว เศรษฐกิจไทยก็ยังไม่ฟื้นจากที่ตกลงมา ขณะที่ประเทศอื่นๆ ฟื้นตัวไปไกลแล้ว ตลอดเวลาที่มีการแจกเงินในรูปแบบต่างๆ ทั้งบัตรคนจน และโครงการคนละครึ่ง ไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นหรือดีขึ้นมาเลย ตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เป็นเครื่องพิสูจน์ความล้มเหลวได้เป็นอย่างดี ยิ่งแจกเงินเศรษฐกิจไทยยิ่งเสื่อมถอย หนี้สาธารณะยิ่งพุ่ง แต่ประเทศไม่ได้พัฒนา เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ไม่ได้แก้ที่โครงสร้างของปัญหา แต่เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ จริงอยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจแย่สุดๆ การช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ แต่ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าพลเอกประยุทธ์จะคิดได้แค่การแจกเงินเท่านั้น ในความเป็นจริง ไม่มีประเทศไหนในโลกพัฒนาได้จากการแจกเงิน รัฐบาลที่ดีจะต้องคิดแนวทางการฟื้นเศรษฐกิจ เช่น การเร่งแก้ไขหนี้ต่างๆ การสร้างงาน การสร้างรายได้ และการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ ตามที่องค์การการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แนะนำ ซึ่งจะต้องทำในหลายๆด้านพร้อมๆ กัน และเป็นแนวทางเดียวกันกับที่คณะทำงานพรรคเพื่อไทยเสนอแนวคิดแบบนี้มาตลอด
...
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลเพิ่งจะเริ่มมาคิดแก้หนี้ ทั้งที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจี้ให้เร่งแก้ปัญหาเรื่องหนี้นี้มานานแล้ว ก็เป็นสิ่งดีและควรต้องเร่งทำให้สำเร็จโดยเร็วก่อนที่ดอกเบี้ยจะขึ้นมากกว่านี้ ตามสภาวการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ ที่ต้องการจะหยุดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งหากดอกเบี้ยขึ้นสูงแล้ว การแก้ไขหนี้จะยิ่งทำได้ยากขึ้นมาก และอาจจะเป็นเพียงคำพูดหรือเป็นแค่วาทกรรมเท่านั้น ซึ่งหากพลเอกประยุทธ์ได้ฟังคำแนะนำของคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยที่เสนอให้แก้ไขปัญหาหนี้มาตลอดตั้งแต่ดอกเบี้ยยังต่ำมาก ป่านนี้การแก้ไขปัญหาหนี้น่าจะทำไปได้มากแล้ว และเศรษฐกิจไทยก็น่าจะต้องฟื้นกว่านี้แล้ว
"การที่จะบริหารเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ พลเอกประยุทธ์ จะต้องศึกษาแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ จะมาคิดเองเออเองไม่ได้ และคิดว่าแจกเงินคือความสำเร็จเหมือนการแจกบัตรคนจน 20 กว่าล้านใบ คือ ความสำเร็จของรัฐบาล นั่นไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง แต่น่าจะเป็นความล้มเหลวมากกว่า สุดท้ายหนี้สาธารณะของประเทศจะพุ่งสูง แต่ประเทศกลับถอยหลัง คนตกงานมากขึ้น และประชาชนจนลง ประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม ลูกหลานไทย ต้องเผชิญตราบาปต้องใช้หนี้ไปอีกนานแสนนาน เพียงเพราะมีผู้นำไร้ความสามารถ" นางสาวจุฑาพร กล่าว...