"ดร.เอ้" สุชัชวีร์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ปชป. เตือน กทม.รีบคิดป้องกันน้ำทะเลหนุนก่อน 10 ปี ข้างหน้าสายเกิน ในเสวนา "ถอดบทเรียนน้ำท่วมซ้ำซาก" ชี้ต้องยกเครื่อง ปฏิรูปทั้งระบบ
วันที่ 16 ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทีมยุทธศาสตร์ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ จัดกิจกรรมซีรีส์เสวนา ถอดบทเรียนปัญหาคนกรุงฯ ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “ถอดบทเรียนปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก” มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. เป็นประธานเปิดงาน และมี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.ปชป. และอดีตนายกสภาวิศวกร เข้าร่วมเสวนา
...
นายสุชัชวีร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า สถานการณ์น้ำท่วมจากน้ำฝนที่เกิดขึ้นใน กทม.ปี 65 หนักหนาสาหัสกว่าสถานการณ์ในปี 54 การแก้ปัญหาด้วยวิธีคิดเดิม ไม่ช่วยให้แก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ต้องยกเครื่อง และปฏิรูปทั้งระบบของ กทม.และปริมณฑล วันนี้ กทม.กำลังใช้หลอดยาคูลท์ดูดน้ำออกจากกะละมัง ถ้าคิดทำแบบเดิม ยังไงก็จม ปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่แค่ปัญหาของ กทม. จึงสนับสนุนการทำแก้มลิงใต้ดิน เพื่อกักเก็บน้ำรอระบายไว้ใต้ดิน และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการน้ำ กรุงเทพฯ ไม่ได้เจอแค่น้ำฝน ยังมีน้ำเหนือกับน้ำทะเลหนุน ที่ต้องรีบหาทางป้องกัน หากไม่รีบเริ่มดำเนินการจะไม่สามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงที การแก้ไขระยะสั้นเร่งด่วน จะต้องเปลี่ยนเครื่องสูบน้ำดีเซล เป็นเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าอัตโนมัติ ระยะกลาง ต้องสร้างบ่อพักน้ำใต้ดิน เพื่อนำน้ำฝนไปพักไว้ใต้ดิน ลดปริมาณน้ำรอระบายบนท้องถนน และระยะยาวต้องทำโครงการป้องกันน้ำทะเลหนุน เพราะหากกรุงเทพฯ ยังไม่คิดเรื่องการป้องกันน้ำทะเลหนุนจากปากแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่วันนี้ อีก 10 ปี วันนั้นมันสายเกินไป