ก.ดิจิทัลฯ รวบรวมข้อมูลส่งตำรวจแล้ว หลังพบ 2 เพจเฟซบุ๊กส่อหลอกลวงอ้างบริจาคเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู หากตรวจสอบพบผิดดำเนินตามกฎหมายเด็ดขาด รัฐบาลแนะประชาชนตรวจสอบให้มั่นใจก่อนโอนเงิน

วันที่ 11 ตุลาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ดำเนินการตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้เฝ้าระวัง ตรวจสอบ ไม่ให้มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือช่องทางอื่นๆ ในการหลอกลวงประชาชนที่ต้องการบริจาคกรณีต่างๆ
 
ทั้งนี้ ดีอีเอสพบมีผู้โพสต์ทางโซเชียลมีเดียเชิญชวนร่วมบริจาคแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จำนวน 13 เพจ โดยพบเป็นเพจต้องสงสัยว่ามีการหลอกลวงประชาชน 2 เพจ ซึ่งต่อมาได้มีการลบโพสต์ออกไป แต่เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ หากพบว่าเป็นการเจตนาหลอกลวงประชาชนจริงจะมีการดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
 
น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเวลาที่ผู้สูญเสียต่างยังอยู่ในความโศกเศร้า มีพี่น้องชาวไทยจำนวนมากที่ประสงค์จะร่วมส่งกำลังใจในรูปแบบเงินบริจาค รัฐบาลขอเน้นย้ำให้ประชาชนที่ต้องการบริจาคเงิน ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคแก่ครอบครัวผู้เสียหายจากเหตุการณ์ที่ จ.หนองบัวลำภู หรือบริจาคแก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ขอให้ตรวจสอบโดยละเอียดก่อนบริจาค ให้แน่ใจว่าผู้เปิดรับบริจาคแต่ละช่องทางนั้นเป็นหน่วยงานหรือบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ และมั่นใจว่าเงินบริจาคจะส่งไปยังครอบครัวผู้ประสบเหตุ
 
นอกจากนี้ รัฐบาลขอเตือนผู้ที่คิดฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชนว่า ช่วงเวลานี้คนไทยควรช่วยเหลือให้กำลังใจ อย่าซ้ำเติมครอบครัวผู้สูญเสีย หรือผู้ประสบภัยต่างๆ ด้วยการหาประโยชน์กับช่วงเวลาที่ยากลำบาก กระทรวงดีอีเอสมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการกระทำผิดผ่านช่องทางต่างๆ อย่างเข้มงวด ทั้งเฟซบุ๊ก (Facebook), ยูทูบ (YouTube), อินสตาแกรม (Instagram) พร้อมกับประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการตามกฎหมายอย่างใกล้ชิด
 
อย่างไรก็ตาม หากพบการฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเป็นการหลอกลวงประชาชน จะมีความผิดทั้งในส่วนของการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) มีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และยังเข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย.

...