หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่กังวลฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายรัฐบาลตาม ม.152 ลั่น ปชป. เตรียมรุกเดินสายทั่วประเทศ วันเสาร์ขึ้นเหนือ ออนทัวร์นครสวรรค์ ลั่นพร้อมเลือกตั้ง มั่นใจกระแสพรรคยังดีอยู่
วันที่ 6 ต.ค. 2565 เมื่อเวลา 10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวโน้มการยุบสภาภายหลังการประชุม เอเปก ว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ในเรื่องยุบสภาจนถึงวันนี้ ถ้ามีความเห็นใดๆ ในทางที่จะนำไปสู่การยุบสภา ตนก็คิดว่าอย่างน้อยท่านนายกฯ ก็คงได้มีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล
สำหรับเรื่องการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ที่คาดว่าฝ่ายค้านจะยื่นในการเปิดสมัยประชุมถัดไปนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถึงเวลาก็คงจะได้มีการดำเนินการในสภาต่อไป
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สนามเลือกตั้งว่า พรรคได้เตรียมตัวมานานพอสมควรแล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะเดินเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ซึ่งก็ได้เตรียมพร้อมทั้งในแง่ตัวบุคคล ผู้สมัคร โดยจะเห็นว่าก่อนหน้านี้ขณะที่พรรคอื่นยังไม่ขยับ แต่ประชาธิปัตย์ก็ทยอยเดินหน้าเปิดตัวในหลายพื้นที่ หลายจังหวัดมาก่อนหน้านี้แล้ว และขณะนี้ก็ยังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีคนรุ่นใหม่ หน้าใหม่ๆ เข้ามาร่วมงานกับพรรคจำนวนมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งในอนาคตก็จะได้ทยอยเปิดตัวและแจ้งให้ทราบต่อไป ส่วนในเรื่องนโยบายขณะนี้ได้มีการดำเนินการไปเกือบ 8-90% เหลือแต่รอรับความฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
“ถ้าถามว่าพร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งหรือไม่นั้น คำตอบสุดท้ายก็คือประชาธิปัตย์พร้อม” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
...
ส่วนเรื่องกระแสตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากการลงพื้นที่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าเสียงตอบรับจากประชาชนยังดีอยู่ และจะดีขึ้นกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา ในทุกภาค ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยในวันเสาร์ที่ 8 ต.ค. นี้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็จะนำ “จุรินทร์ ออนทัวร์ นครสวรรค์” ไปเปิดตัวผู้สมัคร และจะทยอยเปิดตัวในพื้นที่อื่นๆ ด้วยเป็นลำดับ นอกจากนี้ก็ยังมีกำหนดการเดินทางไปพบปะพี่น้องประชาชนทุกภาคทั่วประเทศ สำหรับปักษ์ใต้ ก็ได้วางกำหนดล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะไปออนทัวร์กี่จังหวัด ซึ่งจะไปจนครบ รวมทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครด้วย
นอกจากนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาความชัดเจน เป็นรูปธรรมได้ปรากฏแล้ว จากการที่เราเข้าร่วมรัฐบาลมาตลอด 3 ปีครึ่ง ผลงานประชาธิปัตย์ก็เหมือนที่ตนได้เคยกล่าวว่า มันเกินตัว เพราะเรามี ส.ส. เพียง 52 คน แต่ผลงานของพรรค ก็เชื่อว่าหากประเมินตามจำนวนเสียงก็เกิน 52 เสียงแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าไปดูแลราคาพืชผลการเกษตร สำหรับผลไม้ก็มีราคาดีมาก รวมถึงพืชเกษตร 5 ชนิด ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม ข้าวโพด ก็มีราคาที่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทุกตัว แม้อาจจะหย่อนลงบ้างตามสถานการณ์โลก ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ และผลผลิตโลกรวมกันด้วย ก็มีผลกระทบต่อราคาพืชเกษตรในประเทศ และกระทบทั่วโลก แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี
“ขณะนี้มันสำปะหลัง 3 บาทกว่า ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์นะ ราคาดีขนาดนี้ ข้าวโพดก็ยัง 12 แม้เหลือ 10 ก็ยังเยอะอยู่ เมื่อก่อนนี้ราคาเพียง 6-7 บาท ปาล์มน้ำมันอดีต กก.ละ 2-3 บาท เดี๋ยวนี้ก็ยังไป 6-10 บาท แม้ปรับลดลงบ้างก็ยัง 5-6 บาทอยู่ ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ข้าว ก็ยังเฉียดหมื่นอยู่ นี่คือภาพรวม แต่ถ้าราคาตกลงมาเมื่อไหร่ตามสถานการณ์โลก ก็ยังมีประกันรายได้เกษตรกร ที่ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของประชาธิปัตย์ ที่ผลักดันเป็นนโยบายรัฐบาลในขณะนี้ อันนี้ก็เป็น ดีเอ็นเอ ของเรา ในการขับเคลื่อนประกันรายได้ต่อไป เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรและขยายกลุ่มไปยังอีกหลายวงในการสร้างหลักประกันเรื่องรายได้ให้คนไทยต่อไป”
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงเรื่องการส่งออกว่า ยังเป็นพระเอกตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี สำคัญ ก็ยังถือว่าดีมาก ประสบความสำเร็จมาก โดยได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งปีที่ผ่านมาทำรายได้เข้าประเทศสูงถึง 8.5 ล้านล้านบาท สำหรับปีนี้ก็ตั้งเป้าไว้ว่าจะไปให้ถึง 9 ล้านล้านบาท ขณะนี้เพียง 7-8 เดือน การส่งออกก็ขยายตัวไป 11% ถือว่าเยอะมากขณะที่หลายประเทศยังเจอวิกฤติโควิด และตัวเลขการส่งออกก็ยังไม่ดี แต่ของเรานั้นไปได้ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้ก็จะเป็นผลงานสำคัญ และจะเป็นนโยบายสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเดินหน้าต่อไปในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
“เราไม่เน้นความฝัน แต่เน้นโลกปฏิบัติที่ทำได้จริง และทำได้ไว ทำได้จริง แล้วเราก็ทำให้เห็นอยู่ การค้าชายแดนก็เป็นอีกตัวที่ทำเงินให้ประเทศด้วย” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว