“นายกฯ ตู่” แอคทีฟ ประชุมแก้ปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศ ย้ำทุกหน่วยงานร่วมมือกัน ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ลงพื้นที่ขอนแก่น-อุบลฯ พรุ่งนี้สั่งห้ามมีป้ายต้อนรับ ลั่น ไม่ทิ้งใคร เพราะเราคือคนไทยด้วยกัน

วันที่ 3 ต.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัย และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม โดย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวรายงานสถานการณ์เบื้องต้นว่ามีพื้นที่ใดบ้างที่ได้รับผลกระทบ พร้อมแจ้งว่าการประชุมครั้งนี้มีผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับผลกระทบรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.)

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณ รมว.มหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเห็นว่าได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2565 เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ มีการสรุปสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทราบว่าสถานการณ์ยังมีผลกระทบอยู่มาก และถือว่ามากพอสมควรในขณะนี้ ทุกคนได้ทำอย่างเต็มที่แล้วทั้งกลุ่มพยากรณ์ กลุ่มการบริหารจัดการน้ำทั้งหมด ภายใต้การบูรณาการของศูนย์บรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ โดยมี รมว.มหาดไทย เป็นประธาน ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนทั่วประเทศทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกหน้าที่ ทุกอาชีพ ทราบกันดีอยู่แล้วในความเดือดร้อน และรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนเองห่วงทั้งประเทศ ไม่ได้ห่วงเฉพาะภาคอีสานอย่างเดียว

พร้อมกันนี้ ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปตรวจเยี่ยมในพื้นที่ที่ประสบภัยอีกครั้ง ถือเป็นการทำงานร่วมกันในนามของรัฐบาล ฉะนั้นวันนี้จะเป็นการรับทราบถึงสถานการณ์ต่างๆ ในระยะเวลาต่อไปด้วย รวมถึงการบริหารจัดการ การคาดการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อที่รัฐบาลจะได้เตรียมแผนและเตรียมความพร้อมเรื่องการดูแลเยียวยา และการสนับสนุนเรื่องที่ยังเป็นปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้ทุกหน่วยงานได้ทำงานอย่างสบายใจ พร้อมกับให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย

...

ภายหลังการรายงานข้อมูลและสรุปสถานการณ์ต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ สอบถามในที่ประชุมว่ามีหน่วยงานใดประสบปัญหาอะไรบ้าง พร้อมกล่าวขอบคุณ กรมอุตุนิยมวิทยา ที่ชี้แจงถึงสถานการณ์พายุโนรูเข้าประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ มีฝนตก เราอยากบอกกับประชาชนทุกคนว่า รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ในการดูแล ซึ่งสถานการณ์ในต่างประเทศก็ไม่ได้ดีกว่าเรามากนัก ส่วนปัญหาของบ้านเรามีความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่เขตเมือง ถนน และระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ต้องรับการแก้ไขปัญหาและป้องกันไปพร้อมๆ กัน และจากที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าจะมีพายุโซนร้อนเข้ามาอีก อาจทำให้มีฝนตกเพิ่ม และส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมมากขึ้น จึงขอฝากให้ทุกจังหวัดเข้าไปดูแล วันนี้ทุกภาคส่วน ทั้งส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น พลเรือน ตำรวจ ทหาร จะต้องร่วมกันเตรียมการรับมือ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ขอบคุณการรายงานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันขอให้ทุกหน่วยงานนำข้อมูลมาบูรณาการกัน และเตรียมการล่วงหน้ารับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งมาตรการหลัก มาตรการเสริม และการระบายน้ำ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้อาจมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนเข้ามา ซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ไล่ลงไปภาคใต้ของไทย แต่ความเสียหายต่างๆ ครั้งนี้รู้สึกน้อยกว่าที่เคยเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่การเกษตร แม้สำหรับเกษตรกรอาจเป็นข่าวดี แต่เราต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของตลาดข้าว ขณะนี้เรามีโอกาสมากที่จะส่งข้าวออกได้มากกว่าปีที่ผ่านมา เพราะหลายประเทศเก็บสำรองข้าวไว้เยอะ ซึ่งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต้องให้เกิดน้อยที่สุด เพื่อให้มีปริมาณข้าวสำหรับการบริโภคในประเทศ และการส่งออกได้มากขึ้น รวมถึงเราอาจเป็นผู้นำการส่งออกในปีนี้ก็ได้

“นี่ถือเป็นโอกาสของเกษตรกรชาวไร่ชาวนาของเรา ข้อมูลทั้งหมดที่สรุปมาอยากให้เป็นชุดเดียวกัน มาตรการที่แต่ละหน่วยงานรับไปจะต้องวางแผนงานให้ดี ต้องมีสมมติฐาน 1-2-3 ถ้าเกิดแบบนี้หรือแบบนั้นเราจะต้องทำอย่างไร ซึ่งเรามีพื้นฐานอยู่แล้ว เพื่อให้รัฐบาลได้เตรียมความพร้อม ฝากข้อมูลและการทำงานของทุกหน่วยงาน รัฐบาลจะได้เตรียมสนับสนุนและส่งเสริมช่วยเหลือเยียวยาอะไรก็แล้วแต่ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังต้องคิดกันต่อ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจตรงนี้”

สำหรับกระทรวงกลาโหมช่วงที่ตนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ก็ให้ช่วยเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการทำงานของศูนย์บรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระ ตนพยายามอย่างเต็มที่ และถือเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังผู้ว่าฯ ขอนแก่น และผู้ว่าฯ อุบลราชธานี รายงานสถานการณ์ในพื้นที่เสร็จสิ้นแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทันทีว่า พรุ่งนี้ (4 ต.ค.) จะลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.อุบลราชธานี เพื่อไปเยี่ยมและให้กำลังใจ ไม่ต้องมีป้าย ไม่ต้องเอาคนมาถือป้าย ไม่เอา เข้าใจใช่ไหม เพราะจะไปทำงานและไม่สร้างภาระให้กับใครทั้งสิ้น ไม่ต้องเรื่องมากกับตน เพราะสมบูรณ์แข็งแรง ดูแลตัวเองได้ ขอให้ไปดูแลประชาชนที่เดือดร้อนดีกว่า ตนเองไม่เป็นภาระกับใคร

ในเวลาต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการรับฟังรายงานจาก น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า ในส่วนของ กทม. ก็ติดตามสถานการณ์มาตลอด ขณะเดียวกัน มีความเป็นห่วงเรื่องปริมาณน้ำ ทั้งปริมาณน้ำสะสมและเรื่องน้ำที่จะต้องระบายออก เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน หากมีอะไรก็ขอให้แต่ละหน่วยงานประสานงานกัน อย่าขัดแย้งกัน ต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งหมด จะดีก็ดีด้วยกัน ไม่ดีก็ไม่ดีด้วยกัน

ส่วนช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวมอบนโยบายว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาประชุมร่วมกัน ทุกคนทำตามแนวทางปฏิบัติที่ดีอยู่แล้วอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการคาดการณ์ในระยะต่อไป ช่วงที่ผ่านมา เราเจอปัญหาฝนตกหนักเกินปริมาณที่เคยเจอมาก่อนในบางพื้นที่ แน่นอนต้องเกิดปัญหากับประชาชนโดยรวม วันนี้มาเพื่อรับฟังและรับทราบแนวทางการแก้ปัญหา และพร้อมที่จะนำไปสู่รัฐบาลเพื่อรับงบประมาณช่วยเหลือเยียวยาต่อไป มาให้กำลังใจและมอบความห่วงใย ขอบคุณข้าราชการทุกคนที่ทำงานอย่างเสียสละในฐานะผู้ที่อยู่หน้างาน

“สิ่งที่ผมพูดวันนี้คือการเตรียมการและแผนงานไว้ล่วงหน้า พร้อมกับการแก้ปัญหาที่มีในปัจจุบันไปพร้อมๆ กัน ปัญหาวันนี้ที่มีอยู่คือการดูแลว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และสถานการณ์คาดการณ์ หลักการคือการพร่องน้ำ ระบายน้ำ กักเก็บน้ำในพื้นที่ และที่สำคัญต้องไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก ถ้าไม่จำเป็นเราไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอยู่แล้ว ซึ่งในสมัยก่อนลุ่มเจ้าพระยาถือเป็นบทเรียนของเรา สิ่งสำคัญคือการเน้นการระบายน้ำในตะวันตกและตะวันออกให้เกิดความสมดุล ตั้งแต่ภาคเหนือตอนบน ตอนกลาง ตอนล่าง มีแม่น้ำลำคลองเยอะ ตอนนี้ล้นตลิ่งเกือบทุกคลอง และในอนาคตอาจจะต้องมีการวางแผนเพิ่มเติม”

พร้อมกันนี้ ขอเน้นย้ำเรื่องการดูแลเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ทำนบกั้นน้ำ ซึ่งทุกคนยืนยันว่ายังปลอดภัยใช่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเคยมีปัญหารูรั่วนิดเดียวแล้วแก้ไขไม่ทัน เกิดพังทลาย ดังนั้นตรงนี้ต้องเตรียมด้วย ในส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทยต้องเข้าไปดูแลให้เกิดความแข็งแรงตามแผนการป้องกัน ส่วนการสร้างอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อน ประชาชนในพื้นที่ต้องร่วมมือกันด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้เขียนร่างนโยบายที่จะสั่งการมาแล้ว ทั้งเรื่องพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อแจ้งเตือนประชาชน ซึ่งทุกหน่วยงานต้องเตรียมความพร้อมตามแผนงาน เรื่องการก่อสร้างถนนต่างๆ ต้องมีจุดระบายน้ำ รวมถึงเส้นทางจราจรต่างๆ ต้องเฝ้าระวัง และมีการปักแนวให้เห็นว่าถนนอยู่จุดไหนเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเวลาที่มีน้ำท่วมขังถนน อีกทั้งต้องรีบสำรวจเพื่อเร่งเยียวยา ซึ่งแต่ละพื้นที่มีระยะเวลาผลกระทบไม่เท่ากัน แต่รัฐบาลจะเร่งเยียวยาและพร้อมสนับสนุนงบประมาณไว้ให้ ถ้าทำเร็ว ก็ได้ช่วยเหลือเร็ว ถ้ารัฐบาลจะช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมก็จะพิจารณาต่อไป

ทางด้านกรณีพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังก็ขอให้ช่วยกัน เราต้องทำงานไปด้วยกัน รัฐ ประชาชน ธุรกิจ เอกชน จิตอาสาทั้งหมด นั่นคือคนไทยด้วยกัน จะต้องช่วยกัน ข้าราชการจะเป็นหลัก ขณะที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน อาสาสมัครฝ่ายพลเรือน จิตอาสา ซึ่งตนเองจำได้ว่าสมัยก่อนเมื่อปี 2554 เคยมีการขอความร่วมมือจากสมาคมรถบรรทุกต่างๆ ให้มาช่วยเหลือในการขนคนเดินทาง เขาก็ให้ความร่วมมือ รวมถึงมูลนิธิต่างๆ ตรงนี้ต้องประสานกัน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ส่วนปกครองท้องถิ่นที่ใกล้ชิดประชาชน จะต้องสร้างความเข้าใจเรื่องแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ซึ่งในส่วนของ กทม. ก็มีประชาสัมพันธ์อยู่แล้วทุกอย่าง เพื่อให้เป็นไปตามแผนงาน และกรมประชาสัมพันธ์ต้องประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง

สำหรับการกำหนดพื้นที่เป้าหมายเศรษฐกิจ พื้นที่สุขภาพที่เกี่ยวกับโรงพยาบาลด้านสาธารณสุข ต้องดูแลให้สามารถเข้าบริการได้ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการให้บริการไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ก็ต้องให้ใช้ได้นานที่สุด ถ้าระบบมันล่มไปทั้งหมด การสื่อสารแจ้งข้อมูลจะทำได้ลำบาก อาจต้องไปใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ในการออกอากาศแจ้งเตือนประชาชนได้อีกทาง ซึ่งเคยใช้กันเมื่อปี 2554 เพราะตอนนั้นไฟฟ้าดับหมด ดังนั้นเราต้องเตรียมแผนตรงนี้ไว้ด้วยในกรณีที่อาจจะเกิดปัญหา

นอกจากนี้ การเตรียมความพร้อมเรื่องศูนย์อพยพต้องทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น มีอาหาร น้ำ สำหรับคนและสัตว์ จากที่ดูข่าวโทรทัศน์พบว่าบางพื้นที่น้ำท่วมครึ่งเอว แต่ประชาชนยังไม่ออกมา ก็โทษเขาไม่ได้ เพราะบางทีเขาห่วงสมบัติ การขนย้ายสิ่งของมีความลำบาก และต้องให้กำลังใจผู้ว่าฯ และนายอำเภอ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับล่าง และถือเป็นระดับที่ใกล้ชิดกับประชาชน ทั้งนี้ ตนก็จะเดินทางไปดูแลช่วยเหลือและเยียวยาต่างๆ ให้มากที่สุดในส่วนของรัฐบาล ขณะที่ท้องถิ่น อบต. อบจ. คนในพื้นที่ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ทุกคนคือคนไทย เราต้องช่วยกันดูแล

“ผมเองก็ไม่รู้จะสั่งอะไร เพราะทั้งหมดอยู่ในแผนปฏิบัติของเราอยู่แล้ว นายกฯ แค่มาย้ำหน่อย ให้กำลังใจ ฝากถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ประชาชนทุกจังหวัด ผมทำหน้าที่ของผม หน้าที่ของรัฐบาล หน้าที่ของข้าราชการที่ดีของพวกเราทุกคน ขอบคุณทุกคน และขอให้ทุกคนปลอดภัย ผมพยายามจะทยอยไปเยี่ยม ไม่ทิ้งใคร เพราะพวกเราคือคนไทยด้วยกันทุกคน”

อย่างไรก็ตาม การร่วมประชุมครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีกระฉับกระเฉงและยิ้มแย้มตลอดการประชุม รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมและผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานสถานการณ์อย่างเต็มที่ พร้อมกับให้มีการสอบถามในข้อสงสัยต่างๆ ด้วย.