กสม. เสนอคุ้มครองสิทธิชั้นสอบสวนบุคคลหลากหลายทางเพศ แนะสถานีตำรวจ-ราชทัณฑ์ แยกพื้นที่ควบคุมตัว สนับสนุนให้มีกฎหมายกลางว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติ และกฎหมายรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ

วันที่ 29 ก.ย. 2565 นายภาณุวัฒน์ ทองสุข ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวน 33 เรื่อง กล่าวอ้างว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมด้วยเหตุแห่งเพศ และการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรมต่อบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในชั้นการสืบสวนสอบสวนจากผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศซึ่งมีความประสงค์ขอให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงปฏิบัติหน้าที่ที่มีความละเอียดอ่อนต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ในขั้นตอนต่างๆ เช่น การจับกุม การตรวจค้นตัว การตรวจปัสสาวะ และขอให้จัดพื้นที่ให้บริการโดยเฉพาะสำหรับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ประกอบกับมีกรณีร้องเรียนว่าเรือนจำไม่จัดให้มีห้องขังผู้ต้องขังสำหรับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยปรากฏข้อมูลระหว่างปี 2563-2565 มีสถิติเรื่องร้องเรียน ที่กล่าวอ้างว่ามีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมด้วยเหตุแห่งเพศคิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนเรื่องร้องเรียนทั้งหมด

กสม. จึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมราชทัณฑ์ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิในชั้นสอบสวนของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยการควบคุมตัวที่สถานีตำรวจ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดแนวทางปฏิบัติให้สถานีตำรวจทุกแห่งจัดสรรสถานที่ให้เหมาะสม คำนึงถึงความมิดชิดเป็นส่วนตัวสำหรับบุคคลทุกเพศ รวมถึงบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจแต่ละแห่ง ใช้อำนาจสั่งการให้มีการจำแนกห้องควบคุมเป็นการเฉพาะคราวได้เพื่อควบคุมตัวบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ เช่นเดียวกับกรณีมีการจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน และในการค้นตัว ให้กำหนดแนวทางปฏิบัติให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพศเดียวกันค้นตัวผู้เสียหายหรือผู้ต้องหา สำหรับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามก่อนด้วยความสุภาพ โดยคำนึงถึงลักษณะรูปพรรณสัณฐานของผู้ต้องหา การเปลี่ยนแปลงของเพศสรีระ และจัดเจ้าหน้าที่ซึ่งผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายแจ้งความจำนงเป็นผู้ตรวจค้น

...

การควบคุมตัวในชั้นราชทัณฑ์ ให้กรมราชทัณฑ์จำแนกประเภทและแยกการคุมขังผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศเป็นการเฉพาะต่างหาก ให้เรือนจำทั่วประเทศปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังเสนอแนะในการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง โดยให้กระทรวงยุติธรรม เร่งผลักดันให้มีกฎหมายกลางว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติ เพื่อเป็นกฎหมายกลางในการส่งเสริมความเท่าเทียมและขจัดการเลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ รวมทั้งสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแสดงออกทางเพศสภาพและคุณลักษณะทางเพศ พ.ศ. .... เพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งความแตกต่างทางเพศด้วย นอกจากนี้ ให้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ให้สามารถส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศในเชิงรุกมากขึ้น เช่น ควรแก้ไขให้อำนาจคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (คณะกรรมการ วลพ.) สามารถหยิบยกปัญหาขึ้นวินิจฉัยเองได้ เป็นต้น เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมาย