พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาฯ สมช. กระทุ้ง ผู้นำไร้สปิริต ยกอังกฤษ ดำรงตำแหน่งครบหรือไม่ เขารู้ชอบชั่วดี ไม่ต้องรอให้ใครมาตีความ หรือขับไล่
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 65 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า หลักกฎหมายทั่วไปของประเทศที่เจริญแล้วบัญญัติไว้ว่าบุคคลใดจะปฏิเสธไม่รู้กฎหมายไม่ได้ กฎหมายดังกล่าวจึงต้องเป็นตัวบทที่เข้าใจง่ายและเป็นที่ยอมรับของสังคมนั้นๆ ในกรณีกฎหมายกำหนดเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้นำประเทศไม่ว่าจะเป็นแบบเทอม หรือแบบเป็นไม่ต่อเนื่อง แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกินจำนวนปีที่กำหนดประชาชนก็จะเข้าใจตรงกันทันทีว่า ในเวลานั้นต้องเป็นเช่นไรไม่มีปัญหาที่จะต้องมาตีความกัน อังกฤษประเทศต้นแบบประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญของเขาไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ใช้ยึดหลักประเพณีการปกครองที่ดีงาม ผู้นำประเทศเขารู้ชอบชั่วดีว่าจะต้องลุกออกจากตำแหน่งในเวลาอันควรด้วยตนเอง ไม่ต้องให้ใครตีความ หรือให้ประชาชนมาขับไล่
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า อีกประการหนึ่งในประเทศที่เจริญแล้วการถวายสัตย์ หรือปฏิญาณตนของผู้นำประเทศต่อองค์พระประมุข หรือคำภีร์ศาสนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แต่ละประเทศให้ความเคารพนับถือและต้องดำเนินการอย่างเปิดเผย โดยปลายทางของคำตอบก็ คือ เพื่อให้เป็นสัญญาประชาคมที่มีพิธีการดังกล่าวมารองรับเพื่อสร้างความยอมรับจากสังคมนั่นเอง ถ้าผู้นำคนใดปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามพิธีการผู้นำคนนั้นเขาก็จะแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนด้วยการปลีกวิเวกออกไปจากสังคมการเมืองทันที และไม่ขอกลับเข้ามาข้องแวะอีก เพราะเขาถือสปิริตว่ามันเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่โตมากที่มิอาจจะได้รับการให้อภัย
“เรื่องแบบนี้เมื่ออาสามารับใช้ประชาชนจะต้องเตรียมการซักซ้อมมาอย่างดี เมื่อเกิดความผิดพลาดมันแสดงถึงความไม่จริงใจต่อประชาชนไม่ใส่ใจที่จะรักษาสัตย์ เริ่มต้นก็ไม่ให้เกียรติไม่แคร์ประชาชน ไม่ตระหนักถึงเกียรติยศศักดิ์ศรีแล้ว คนประเภทนี้ถ้ายังทุรังมาเป็นผู้นำประเทศก็กล้าที่จะทำเรื่องบัดซบได้อย่างไม่ละอายใจขอเพียงให้บรรลุผลประโยชน์แห่งตนและพวกพ้องเป็นใช้ได้ แต่ในประเทศที่เป็นอารยะนั้นคนประเภทนี้ก็จะมิอาจผ่านด่านกระบวนการยุติธรรมของเขาขึ้นมาเป็นผู้นำได้ สองประการที่กล่าวมาแล้วข้างต้นไม่ทราบว่าจะใช้มาเทียบเคียงกับเหตุการณ์ในประเทศไทยได้หรือไม่” พล.ท.ภราดร กล่าว.
...