ผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” ผนึกกำลัง ผู้ว่าฯ หมูป่า “ณรงค์ศักดิ์” หารือแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ฝุ่น PM 2.5 การจราจร และผังเมือง เดินหน้าขับเคลื่อนแบบไร้รอยต่อ เปรย จ่อหารือกับผู้ว่าฯ พื้นที่ปริมณฑลเดือนละ 1 ครั้ง

วันที่ 20 กันยายน 2565 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ร่วมหารือการบูรณาการการบริหารจัดการน้ำ ฝุ่น PM 2.5 จราจร และความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

จากนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้การรับมือสถานการณ์เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุย ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น ปัจจุบันกรมชลประทานเป็นผู้ดูแลการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจะต้องมีการหารือกันเรื่องการระบายน้ำ ทางด้านจังหวัดจะเป็นผู้ควบคุมกฎระเบียบต่างๆ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องสื่อสารมากขึ้น เพื่อลดปัญหาและแจ้งเตือนให้กับประชาชนทันเวลา

“ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าฯ ปทุมธานี จังหวัดปริมณฑล นนทบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม และสมุทรปราการ จะต้องมีการพูดคุยกันมากขึ้น อาจจะเดือนละครั้ง ผมกังวลว่าเดือนตุลาคมน้ำจะมาอีก เราจะต้องเตรียมรับมือในการพร่องน้ำตามประตูน้ำต่างๆ มีแผนรับมืออย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเดือนนี้น้ำฝนมีปริมาณมาก”

...

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

นายชัชชาติ ระบุต่อไปว่า ส่วนเรื่องฝุ่น PM 2.5 นายณรงค์ศักดิ์ มีประสบการณ์ในเรื่องการเผาชีวมวล กรุงเทพฯ ก็มีปัญหาในพื้นที่หนองจอก มีนบุรี จึงจะต้องให้ความรู้กับเกษตรกร ไม่อยากให้เผา ถ้าฝ่าฝืนต้องใช้ไม้แข็งดำเนินคดีทางกฎหมาย จะได้เป็นเยี่ยงอย่าง สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมจะมีการปรับคุณภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฝุ่นที่เกิดใน จ.ปทุมธานี อาจจะไหลไปสู่กรุงเทพฯ ได้ เราจึงต้องร่วมมือกันทั้งในเรื่องของการจราจร นิคมอุตสาหกรรม ส่วนตัวคาดหวังว่าเราจะมีความร่วมมือที่เข้มข้นขึ้น

ส่วนเรื่องปัญหาจราจรที่ติดขัดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปทุมธานี มีจุดรถติดขัดตั้งแต่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ เชื่อมต่อนิมิตใหม่ ลำลูกกา ต้องประสานการควบคุมการจราจร ขณะที่เรื่องผังเมือง เราเป็นจังหวัดที่เชื่อมต่อกัน ได้ให้ทีมงานพูดคุยกัน ให้ผังเมืองมีความต่อเนื่องและการพัฒนาเมืองอย่างไร้รอยต่อ วันนี้ได้มาเยี่ยมผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ได้ความรู้หลายอย่าง อนาคตจะได้ประสานงานร่วมมือให้ละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะทีมงานระดับพื้นที่ปฏิบัติการ

ทางด้าน นายณรงค์ศักดิ์ เปิดเผยว่า ความสำคัญที่สุดคือการทำงานอย่างไร้รอยต่อ ถ้าเรามองปัญหาแบบเดิมๆ อย่างเรื่องโควิด-19 หรือการบริหารจัดการน้ำ การหารือครั้งนี้ได้พูดคุยปัญหาหลากหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องน้ำเรามองตรงกัน ช่วงเดือนตุลาคมน้ำทะเลจะหนุนสูงที่สุด ทุกปีโดยเฉลี่ยประเทศไทยจะมีพายุเข้า 2 ลูก ซึ่งเราก็กลัวว่าถ้าน้ำหนุนสูงและมีพายุเข้าจะทำให้เกิดปัญหา

“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะเป็นเจ้าภาพในการพูดคุยกับทีมงานจังหวัดข้างเคียงทั้งหมด ให้การทำงานไร้รอยต่อ รวมถึงการผันน้ำและการปล่อยน้ำที่จะช่วยกันได้ ไม่กระทบกับใครเป็นพิเศษ และเมื่อหัวคุยกันเรียบร้อย ลูกทีมก็จะสามารถคุยกันเองได้ ทำให้การทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น”

จากนั้นผู้ว่าฯ ปทุมธานี กล่าวต่อไปถึงเรื่องผังเมืองว่า ผังเมืองปทุมธานีคนละสีกับกรุงเทพฯ จะทำให้การทำงานไม่สอดคล้องกัน ปทุมธานีกำลังปรับผังเมือง จะได้รองรับนโยบายที่ประสานงานให้เป็นโซนต่อเนื่อง เมื่อเราได้กำหนดผังเมืองอย่างเป็นแบบแผน จะสามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่วนตัวยอมรับว่าปัญหาเรื่องการจราจรอาจจะแก้ไขได้ยาก แต่จะเร่งรัดการก่อสร้างในพื้นที่ปทุมธานีให้ไวขึ้น เพราะในช่วงฤดูฝนอาจจะยาวถึงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ถ้ารถติดก็จะทำให้ติดถึงถนนดินแดง ต้องเร่งรัดไม่ให้เป็นคอขวดในถนนวิภาวดีรังสิต ส่วนประเด็นในเรื่องปัญหาต่างๆ นายชัชชาติจะนำไปคุยกับจังหวัดอื่นได้ นี่คือการทำงานอย่างไร้รอยต่อทุกจังหวัด ไม่ว่าการทำงานส่วนภูมิภาค ระดับจังหวัด เราจะต้องทำงานอย่างไร้รอยต่อ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างเต็มที่

ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

ต่อมาผู้สื่อข่าวถามถึงการสื่อสารที่เคยเกิดดราม่าประเด็นเรื่องการผันน้ำ วันนี้มีการพูดคุยหรือยัง นายชัชชาติ ตอบว่า ไม่เคยได้ยินดราม่านี้ และฝ่ายปฏิบัติงานก็ทำงานได้ตลอด ซึ่งอาจจะมีการเข้าใจผิด ก็พยายามให้ทุกคนมองถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง และปัญหาเรื่องน้ำท่วมที่ผ่านมา มีน้ำมาจาก จ.นครนายก ไหลผ่านคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ถ้าหากออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้เยอะก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ โดยเรื่องนี้จะต้องพูดคุยกับกรมชลประทานมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ศักดิ์ ได้กล่าวเสริมขึ้นว่า จ.ปทุมธานี ได้จัดเตรียมและถอดบทเรียนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ฝนตกในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ค่อนข้างมาก ปริมาณฝนตกมากกว่ากว๊านพะเยา ต้องนำบทเรียนที่เกิดขึ้นประสานกรมชลประทานและ กทม. อย่างใกล้ชิด ตอนนี้เราเคลียร์พื้นที่หมดแล้ว และจะเพิ่มระบบสูบน้ำเข้าไปรองรับมวลน้ำในเดือนตุลาคม แต่ถ้าไม่มาตามนัดก็ดี.