สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ คนแห่ร่วมแน่น “ชลน่าน” ลั่นแก้รธน.เอาสิ่งที่รักกลับคืนมา ประกาศพร้อมรบ แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ด้านครอบครัว “ทักษิณ” เรียงหน้าร่วมกิจกรรมให้กำลังใจ “แพทองธาร” พรึบ

วันที่ 10 กันยายน 2565 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จ.เชียงใหม่ ครอบครัวเพื่อไทยจัดกิจกรรม “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” มีแกนนำพรรคเพื่อไทย และครอบครัวพรรคเพื่อไทยเดินทางเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เสียงใหม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รองประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบาย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวพรรคเพื่อไทย โดยมี ส.ส.เชียงใหม่และพื้นที่ภาคเหนือเดินทางเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนใส่เสื้อสีแดงสกรีนข้อความครอบครัวเพื่อไทย เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมจนเต็มศูนย์ประชุม พร้อมกันนี้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือพรรคเพื่อไทย และเปิดนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นด้วย

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดตัวเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ ใช้ขบวนกลองสะบัดชัยนำบรรดาส.ส.เชียงใหม่ นพ.ชลน่าน น.ส.แพทองธาร แกนนำพรรค แกนนำครอบครัวเพื่อไทย ตามด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือของพรรคเพื่อไทยเข้าสู่หอประชุม ทำให้บรรยากาศในศูนย์ประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก

โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนดีใจที่คนเข้าร่วมจำนวนมาก พรรคเพื่อไทย ครอบครัวเพื่อไทย ยกทัพมาเชียงใหม่ เพราะเชียงใหม่คือเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย เราเลือกเชียงใหม่ลั่นกลองสะบัดชัยเพื่อประกาศว่าพร้อมรบแล้ว แลนด์สไลด์ ทั้งแผ่นดิน ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้ถ้าเชียงใหม่ไม่ได้ทั้ง 11 เขต เราขอทั้ง 11 เขต เราต้องการสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้สมัครของพรรคทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ และที่เราต้องให้ได้แลนด์สไลด์ 250 เสียงขึ้นไปเพื่อเอาหัวใจที่รักที่หวงแหนที่สุดกลับคืนมา แล้วเอาระบบประยุทธ์ ออกไป เอา ส.ว. 250 ที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ออกไปแล้วเอา 250 เสียงมาเลือกนายกฯ ของเราเอง เอาหนี้ออกไป เอาความเป็นอยู่กินดีกลับคืนมา ถ้าไม่แลนด์สไลด์สิ่งที่กล่าวมาจะไม่เกิดขึ้น เราต้องเอาชนะให้ได้ และถ้าได้ 250 เสียง สิ่งที่เราจะทำเรื่องแรกคือเราต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่พวกเราช่วยกันสร้าง ประชาธิปไตยที่สมดุลต้องมาจากรัฐธรรมนูญที่เราร่วมสร้าง เอาสิ่งที่พวกเรารักที่สุดกลับคืนมา ซึ่งหลายท่านอาจบอกอยู่ในใจ ซึ่งตนรู้ว่าคำพูดของพวกเราคืออะไร แต่สิ่งที่ตนพูดบนเวทีนี้ สิ่งที่รักที่สุดคือประชาธิปไตย ใครคิดลึกขอให้คิดกันเอาเอง ดังนั้นเวลาเข้าคูหาขอให้กาทั้งคนทั้งพรรคเลือกชนะให้เด็ดขาด พรรคไหนที่แตกออกไปแล้วบอกเป็นพรรคพี่พรรคน้องเราขอประกาศเป็นศัตรูทางการเมือง หนอยแน่ และเราจะไม่จับมือกับพรรคที่สนับสนุนระบบประยุทธ์ ใครให้เงินมาก็ให้รับเงินหมากาเพื่อไทย

ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องการเดินไปข้างหน้าแต่กลับโดนถ่วง พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนรัฐบาลที่เป็นภาระตอนนี้ให้มีพลัง และสนับสนุนงานวิจัยเพื่อสร้างงานสร้างเงินให้กับประชาชน วันนี้ถ้าท่านเลือกเพื่อไทย ท่านจะได้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน มาร่วมกันสร้างเชียงใหม่ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สร้างสรรค์ มั่นใจ เราทำได้ ขณะที่นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัยว่า หน้าที่ของรัฐบาลสมัยหน้าต้องพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ให้กลับมาดีขึ้นเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการจัดกิจกรรม “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ครั้งนี้ มีบุคคลในครอบครัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร (สกุลเดิม: ดามาพงศ์) ภรรยา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาว นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ บุตรเขย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว นายปิฎก สุขสวัสดิ์ บุตรเขย ซึ่งการร่วมกิจกรรมทางการเมืองอย่างพร้อมเพรียงของครอบครัวชินวัตร ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย สมัยที่นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนถูกยึดอำนาจในปี 2549 และหลังจากนั้น คุณหญิงพจมาน ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองใดๆ อีก พร้อมกันนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน มาร่วมกิจกรรมและให้กำลังใจ น.ส.แพทองธารในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นการร่วมกิจกรรมทางการเมืองครั้งแรกหลังจากยุคพรรคไทยรักไทย