"บิ๊กป้อม" ติดตามสถานการณ์น้ำ-ปาล์มน้ำมัน ชี้ รัฐบาลพร้อมดูแลเกษตรกรให้อยู่ดีกินดี ย้ำใช้ใจบันดาลแรง เพื่อมีกำลังใจ อ้อน อายุมากแล้ว แต่พยายามทำงานเพื่อประชาชน

วันที่ 5 ก.ย. 65 ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ การคาดการณ์ และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดกระบี่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวต้อนรับ จากนั้นเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ ก่อนที่กรมชลประทานนำเสนอแผนการดำเนินการโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ต.กระบี่น้อย อ.เมือง โดยสรุปภาพรวม ปริมาณฝน จ.กระบี่ สูงกว่าปี 64 ร้อยละ 8 ขณะที่เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำเสนอแผนดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก.จังหวัดกระบี่ บ้านสองแพร่ง หมู่ที่ 9 บ้านหว่างคลองไทย หมู่ที่ 10 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นำเสนอสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในพื้นที่

...

ทั้งนี้ภายหลังการประชุมพล.อ.ประวิตร ได้เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าพื้นบ้าน พร้อมอุดหนุนผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นบ้าน และเซ็นชื่อบนเรือหัวโทงจำลอง บ้านเกาะกลาง จ.กระบี่ เพื่อเป็นที่ระลึกอีกด้วย

จากนั้น พล.อ.ประวิตร พบปะกับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดยมีตัวแทนชาวสวนปาล์มชูป้ายให้กำลังใจ อาทิ ข้อความว่า "ลุงป้อมสู้ สู้" และ "อสร.กระบี่รักลุงป้อม" โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและปาล์มน้ำมัน ตั้งใจมาพบพี่น้องชาวสวนปาล์ม เพื่อรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนด้วยตัวเอง เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ชาวสวนปาล์มหลายจังหวัดในภาคใต้มาพบตนที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะตนเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมัน (กนป.)
ที่ทำต่อเนื่องมา 8 ปี มีความห่วงใยชาวสวนปาล์มอย่างมาก ได้พยายามลดต้นทุน ทำราคาให้ดีขึ้น ออกมาตรการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ปีนี้มีผลงานออกมาชัดเจน และได้ไปขอบคุณตน อย่างไรก็ตามต้องไม่ให้มีผู้บริโภคเดือดร้อน

พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ตนมีความห่วงใยชาวสวนปาล์ม ที่ผ่านมาพยายามลดต้นทุนพร้อมออกมาตรการแก้ปัญหามาเป็นระยะ โดยมีผลงานที่ชัดเจน ซึ่งรัฐบาลต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยมีการผลักดันและส่งออกจนราคาปาล์มน้ำมันดีขึ้นสูงกว่าราคาประกันรายได้ที่อยู่ราคาละ 4 บาท โดยในปี 64 ขยับมาเป็น 6 บาทกว่า และคาดว่าปีนี้ขึ้นมาเป็น 7 บาท 50 สตางค์ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 5 หมื่นล้าน เป็น 1.2 แสนล้าน และปีนี้จากราคาที่เพิ่มขึ้นน่าจะทะลุ 1.5 แสนล้าน ดังนั้น เกษตรชาวสวนปาล์มจะมีรายได้ดีขึ้น ร่ำรวยกันทุกคนก็แบ่งตนบ้างแล้วกัน โดยเราจะสร้างให้ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระดับโลก ซึ่งรัฐบาลจะดูแลเกษตรกรให้อยู่ดีกินดี มีเศรษฐกิจที่ดี ปาล์มราคาดีมีแต่รอยยิ้มกันทั่วทุกคน

"ขอบคุณทุกคน ผมอายุมากแล้ว แต่จะพยายามทำงานให้พี่น้องประชาชนโดยใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่แรงบันดาลใจ เพื่อมีกำลังใจในการช่วยให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและมีความสุขตลอดไป" พล.อ.ประวิตร กล่าว.