“วิลาศ” ยื่นอีก 2 เรื่องให้ ป.ป.ช.สอบ ส่อทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่หรือไม่ พบเสาไฟผิดแบบ ซ้ำเสาไม้สักขึ้นรา
วันนี้ (3 ก.ย. 2565) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยื่นหนังสือถึง นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำผิดข้อสัญญา ส่อว่าจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการตรวจการจ้าง ตามแบบโครงการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ทำสัญญาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีเสาไฟพร้อมโคมไฟ L03 บริเวณภายนอกอาคารรัฐสภา 97 ต้น มีการกล่าวหาว่าเสาไฟดังกล่าวผิดแบบ มีความพยายามที่จะยินยอมให้ใช้เสาไฟที่ผิดแบบ โดยนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้างหลายครั้ง แต่ท้ายที่สุดมีการสั่งให้เปลี่ยนเสาทั้งหมด และขณะนี้มีการแก้ไขเปลี่ยนถูกต้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีการร้องเรียนและส่งภาพถ่ายทั้งขณะติดตั้งเสาไฟที่ผิดแบบและเสาไฟที่แก้ไข พบว่าผู้ที่ทำการติดตั้งดังกล่าวทั้ง 2 ครั้งใส่ชุดพนักงานของบริษัทหนึ่งอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบต่อไปในทางลึกพบว่าบริษัทนี้เป็นผู้ยื่นซองประกวดราคาโครงการก่อสร้างอาคารนี้ด้วย แต่กลับมารับงานช่วงโดยอ้างว่าเป็นผู้ชำนาญการเฉพาะ ซึ่งไม่น่าจะชอบ และโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งนี้ยังมีการจัดจ้างสัญญาสาธารณูปโภคและสัญญางานท่อร้อยสาย ซึ่งบริษัทผู้รับจ้างหลักก็รับงานไปทั้ง 2 สัญญา แต่งานทำนองเดียวกันในสัญญาหลักกลับมาจ้างผู้รับเหมาช่วงบริษัทนี้เป็นผู้ชำนาญการเฉพาะ จึงขอให้ตรวจสอบการให้บริษัทดังกล่าวกระทำการก่อสร้าง เป็นการกระทำผิดสัญญาข้อ 11 เรื่องผู้รับเหมาช่วงหรือไม่ และการกระทำดังกล่าวส่อว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐด้วยหรือไม่
...
ขณะเดียวกัน นายวิลาศ ยังได้ยื่นหนังสืออีกฉบับถึงเลขาธิการ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบการกระทำของคณะกรรมการตรวจการจ้าง กรณีเสาไม้สักประดับอาคาร ซึ่งตามแบบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มีเสาไม้สักประดับอาคารมากกว่า 4,200 ต้น ที่เชื่อว่ามีการจ่ายเงินงวดเกี่ยวกับเสาไม้สักดังกล่าวแล้ว แต่พบว่าเสาไม้สักมีเชื้อราขึ้นและเสาแตกชำรุด มากกว่า 2,000 ต้น จึงทำหนังสือแจ้งเรื่องถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565 ต่อมาพบว่ามีการแก้ไขโดยเอาแปรงขัดเชื้อราสีดำออก แต่ยังพบรอยคราบสีดำอยู่ ซึ่งไม่ควรพบเห็นในอาคารสำคัญของประเทศ รวมถึงรอยแตกร้าวยังคงปรากฏอยู่เหมือนเดิม จึงขอให้ตรวจสอบว่าการตรวจรับงานดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ มีการทาน้ำมันถูกต้องตามแบบหรือไม่ เพื่อหาผู้รับผิดชอบคือคณะกรรมการตรวจการจ้างและเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่าต้องรับผิดหรือไม่อย่างไร
สำหรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความบกพร่องต่างๆ ที่ส่อว่ามีการทุจริตของโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่นายวิลาศยื่นให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ 2 เรื่องล่าสุดนี้ นับได้ถึง 24 เรื่องแล้ว โดยยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับผลการสอบสวน ซึ่งย้อนแย้งกับการประเมินผลงานสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดย ป.ป.ช. ที่ให้คะแนนว่าเป็นองค์กรที่มีความโปร่งใสและมีคุณธรรมมากที่สุดของประเทศ.