รมว.แรงงาน ห่วงคนถูกหลอกไปทำงานประเทศฟิลิปปินส์ หลังมีเคสถูกกักขัง-ทำร้าย เรียก 1 แสนบาท แลกอิสรภาพ เตือนคนหางานตรวจสอบให้รอบคอบ หวั่นตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์
วันที่ 3 ก.ย. 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรณีหญิงสาวอายุ 26 ปี ถูกหลอกไปทำงานประเทศฟิลิปปินส์ กระทรวงแรงงานตรวจสอบพบว่ามีผู้ชักชวนไปทำงานเป็นแอดมินบริษัทบิตคอยน์ ทำหน้าที่ตอบแชตลูกค้า เงินเดือนประมาณ 30,000 บาท สัญญาจ้าง 1 ปี และการเดินทางไปทำงานไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใดๆ รวมทั้งนายจ้างเป็นผู้ออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ แต่เมื่อไปถึงไม่ได้ทำงานตามที่ได้ตกลง กลับให้ไปทำงานหลอกคนไทยด้วยกัน โดยการพูดคุยสร้างความสัมพันธ์เป็นคนรัก ตีสนิทจนเหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินให้ แต่เมื่อทำไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดจะถูกกักขังและทำร้ายร่างกาย หากต้องการกลับประเทศไทยต้องจ่ายเงินค่าไถ่ 100,000 บาท หากไม่จ่ายจะขายต่อให้นายจ้างที่อื่น
“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานประเทศฟิลิปปินส์อย่างยิ่ง ขณะนี้มอบหมายกรมการจัดหางานดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้ชักชวนและหลอกลวงคนหางาน รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ทราบเพื่อป้องกันการหลอกคนไปทำงานประเทศฟิลิปปินส์ และขอย้ำเตือนให้คนหางานต่างประเทศศึกษาตรวจสอบบริษัทที่จะไปทำงานให้รอบคอบ และศึกษาวิธีการเดินทางไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งต้องเดินทางผ่านด่านตรวจคนหางาน กรมการจัดหางานเท่านั้น หากมีผู้ชักชวนไปทำงานต่างประเทศโดยไม่แจ้งการทำงาน ให้สันนิษฐานว่าอาจถูกหลอกลวง หรือตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์”
ทางด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเสริมว่า ได้มอบหมายกองทะบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน เฝ้าระวังการหลอกลวงไปทำงานผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและช่องทางต่างๆ หากพบผู้มีพฤติการณ์โฆษณาจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน หรือหลอกลวงว่าสามารถหางาน และได้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้ชักชวนและหลอกลวงคนหางานตาม พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2537 ต่อไป
...
ขอให้ทราบว่า การโฆษณาการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน มีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงิน หรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยปีงบประมาณ 2565 มีการดำเนินคดีสาย/นายหน้าเถื่อนแล้ว 113 ราย พบการหลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 164 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 13,029,610 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.ย. 2565)
สำหรับการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มี 5 วิธี ได้แก่
1. กรมการจัดหางานจัดส่ง
2. บริษัทจัดหางานจัดส่ง
3. นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ
4. นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ
5. คนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง และสามารถดูประกาศการรับสมัครคนหางานไปทำงานต่างประเทศ จากกรมการจัดหางาน ทางเฟซบุ๊ก แรงงานไทยไปต่างประเทศโดยรัฐจัดส่ง
สำหรับคนหางานที่ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศ หรือประสบปัญหาจากการสมัครงานหรือการเดินทางไปทำงานต่างประเทศสามารถติดต่อได้ตามช่องทาง ดังนี้
1. ติดตาม ศึกษาข้อมูลการเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้ที่เว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas
2. ลงทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th
3. ประสบปัญหาจากการสมัครงานหรือการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน หรือ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10
4. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694