ก.มหาดไทย จัดประกวด “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” สนองแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สืบทอดภูมิปัญญา พัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชุมชน สร้างความมั่นคงทางรายได้

วันที่ 3 กันยายน 2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” และงานหัตถกรรมระดับภาค จุดดำเนินการที่ 2 ภาคกลาง จังหวัดชัยนาท โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ผู้ประกอบการที่ส่งผลิตภัณฑ์จากผ้าและงานหัตถกรรมเข้าร่วม

นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ดีใจที่มีโอกาสกลับมาจังหวัดชัยนาท เพื่อร่วมกับพี่น้อง ส่วนราชการ ผู้ประกอบการดำเนินโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่มีพระราชประสงค์สืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านภูมิปัญญาผ้าไทย ให้คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดี ปรากฏชัดเจนจากพระราชกรณียกิจ จนนำมาสู่แนวคิดกิจกรรมที่ดีสู่พี่น้องประชาชนทุกภูมิภาค

ทั้งนี้ พระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อให้พี่น้องคนไทยสืบทอดภูมิปัญญาผ้าไทยและงานพัฒนาศิลป์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ถูกใจและทำให้รู้จักเลือกใช้สีให้เป็นที่นิยม สีที่คนนิยมในอนาคตอันใกล้และไกล และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นการใช้สีธรรมชาติ เน้นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการพึ่งพาตนเองให้ได้

...

“พระองค์ท่านพยายามให้พวกเราปลูกฝ้าย ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ต้นไม้ที่ให้สีธรรมชาติ ให้พวกเราพึ่งพาตนเองให้ได้เป็นนัย ให้คนที่มีความถนัดช่วยกันปลูก ซึ่งการพึ่งพาตนเองมี 2 ระดับ คือ การพึ่งพาตนเองระดับครอบครัว/กลุ่ม และการพึ่งพาตนเองในระดับประเทศ พระราชวินิจฉัย หรือแนวทางมีความสำคัญต่อความมั่นคง เพราะเราไม่สามารถพึ่งพาคนอื่นได้ตลอดไป เพราะสถานการณ์โรคโควิด-19 เราพึ่งพาต่างประเทศนำเข้าส่งออกอะไรไม่ได้ เช่น ทุเรียนส่งไปขายเมืองจีนต้องถูกกักเสียก่อน หรือสงครามรัสเซีย-ยูเครน สินค้าอะไรก็แพงขึ้น สำหรับประเทศที่ไม่สามารถพึ่งตนเองได้ก็ลำบาก ถ้าพวกเราทอผ้าเองได้ ปลูกฝ้าย ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเองได้ ไม่ต้องกลัวว่าไม่มีใครส่งสินค้าให้เราก็สามารถอยู่ได้ สายพระเนตรของพระองค์ทำให้เกิดความมั่นคงของประเทศ ไม่ต้องเสียดุลการค้า ไม่ต้องเกรงว่าจะขาดทุนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน”

ทางด้าน อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินโครงการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” ประกอบด้วย 3 กิจกรรม คือ

กิจกรรมที่ 1 ประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” และงานหัตถกรรมระดับภาค
กิจกรรมที่ 2 บันทึกและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานผ้าและงานหัตถกรรมที่ได้รับการคัดเลือก
กิจกรรมที่ 3 ติดตามสนับสนุนผู้ประกอบการผ้าไทย

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเรื่องการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกาย สิ่งทอ และการอนุรักษ์ผ้าไทย ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ผ่านการคัดเลือกผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา”

ในช่วงท้าย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ย้ำว่า ขอให้ช่วยกันขยายแนวความคิดเป็นภูมิปัญญาสังคม ให้สืบสานและต่อยอดภูมิปัญญาหัตถศิลป์ไทย เพื่อให้มีหลักประกันความมั่นคงในการพึ่งพาตนเอง พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ให้เกิด 2 สิ่ง คือ 1.เกิดศูนย์กลางภูมิปัญญา เป็นวิทยาลัยดอนกอยมหาดไทย คาดว่าจะเปิดปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 จะระดมเอาภูมิปัญญาเรื่องสี วัตถุดิบ เป็นศูนย์รวมในการทำงานเป็นกลุ่ม เป็นศูนย์รวมที่ศึกษาดูงานของสินค้า ที่ประชุม และ 2.สร้างยุวชนเด็กรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้นเพื่อสืบทอด จึงอยากชวนเด็กๆ ให้คลุกคลีกับงานผ้าและฝึกฝนเป็นอาชีพต่อไป ขณะเดียวกันก็ยังมีความต้องการให้มีผู้ออกแบบมาช่วยงานผ้าไทย เช่น ตัดเย็บออกแบบให้ลูกค้าให้เป็นแฟชั่นตะวันตก อย่างไรก็ตามโครงการจะประสบความสำเร็จได้เร็ว ต้องช่วยกันอุดหนุนทำให้เกิดเป็นแฟชั่น ให้เกิดความคุ้นชิน ด้วยการสวมใส่ทุกเวลา ทุกโอกาส เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากไทยมั่นคง เข้มแข็ง ทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น.