ทำลายจังหวะปั่นแต้ม “รักษาราชการแทนเบอร์ 1 ทำเนียบฯ”
คิวแทรกที่ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร จ่อเรียก พล.ร.อ.ศิษฐวัชร และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มาให้ข้อมูลต่อ กมธ.
โยงปมเคยแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิงที่ทำร้ายร่างกายทหารหญิงรับใช้ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์กมธ.กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในยุคที่ 2 น้องในไส้ “บิ๊กป้อม” นั่งเป็นใหญ่ใน กมธ.ชุดดังกล่าว สมัย สนช.
ข้อเท็จจริงจะผิดถูกอย่างไร ต้องรอผลการพิสูจน์ แต่ที่แน่ๆเกิดประเด็นแฉลบทำ “ลุงป้อม” เสียเครดิต ในช่วงกำลังเนื้อหอม สปีดทำคะแนนวันต่อวัน

ล่าสุดลงพื้นที่แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ตรวจการบริหารจัดการน้ำ ก็มีชาวบ้านเข้ามาหอมแก้ม มีคนตะโกนเชียร์ให้เป็นนายกฯตัวจริง
ในจังหวะที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ทั้งเสียงเชียร์จากชาวบ้าน และอำนาจที่ฟูลออปชัน ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่แก้ไขใหม่ ให้อนุมัติงบประมาณและแต่งตั้งข้าราชการได้อิสระ ไม่ต้องไปถาม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัวจริงที่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักงาน
...
อำนาจ “บิ๊กป้อม” พุ่งสู่จุด “ไฮเพาเวอร์” ตรงข้ามกับฝั่ง “บิ๊กตู่” ดิ่งสู่จุด “โลว์เพาเวอร์”
จากเดิมที่คาดการณ์ “บิ๊กตู่” อาจแค่ลุกจากเก้าอี้ชั่วคราว ไปๆมาๆอาจลุกยาว ตามสถานการณ์แวดล้อมที่ไม่เป็นใจ
อำนาจในมือเหลืออยู่แค่งานรูทีน เฉพาะบท รมว.กลาโหม ไม่มีอำนาจครอบจักรวาลสั่งการทุกองคาพยพเหมือนเก่า ขณะที่ระยะเวลาที่ถูกแขวนอาจนานกว่าปกติ การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจไม่รวดเร็วอย่างที่คาดคิด
อย่างที่ฝ่ายค้านยื่นส่งหลักฐานให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพิ่มเติม ในส่วนรายชื่อพยานนักวิชาการด้านนิติศาสตร์ 51 คน ที่ให้ความเห็น วาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี
มีขั้นตอน กระบวนการแทรกกลางมากขึ้นก็เป็นไปได้ คำวินิจฉัยอาจยืดเยื้อออกไปอีก
ยิ่งทอดเวลาไปนานเท่าใด อะไรๆที่ยังไม่ชัดเจน ก็ยิ่งถูกกระพือหนัก มีกองเชียร์ กองชัง ฝ่าย 2 ลุง ยุให้รำ ตำให้รั่ว ฝ่ายหนึ่งอยากรีบกลับมาตัวสั่น แต่อีกฝ่ายอยากอยู่ต่อนานๆ ขยายความไม่ลงรอยกันมากขึ้น
สถานการณ์ช่วงรอยต่อยิ่งแกว่งไปกันใหญ่ จากการประสานงานกลายเป็นประสานงา สัมผัสได้ถึงบรรยากาศเกมช่วงชิงการนำของพี่น้อง 2 ป.
ฟาก “ลุงป้อม” โชว์มาดผู้นำรักษาการ สูดอำนาจนายกฯ ชั่วคราวไม่กี่อึดใจ กลับมากระฉับกระเฉง ลุยงานหลายภารกิจ ไม่มีทีท่าป้อแป้เดินไม่ไหวเหมือนเก่า ซ้ำโทรศัพท์หา “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯกทม. บอกรัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือ กทม.แก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองกรุง
สร้างภาพให้เห็นการทำงานที่แตกต่างจาก “บิ๊กตู่” เน้นเข้าหาประชาชน พร้อมประสานงานทุกฝ่าย
โชว์ออฟความพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงได้ ตอบสนองสิ่งที่ใฝ่ฝันมานาน

กดดันจน “บิ๊กตู่” ต้องมีแอ็กชันโต้ตอบ ไม่ให้ถูกกลบรัศมี นำคณะนายทหารลงพื้นที่ ไปตรวจกำลังพลทำพนังกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วม จ.อยุธยา ขอมีส่วนร่วมเรื่องการแก้อุทกภัย
ชิงซีนกลับคืนมาทันที ต่อเนื่องจากช็อตปล่อยภาพการนั่งหารือกับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อแสดงให้เห็นยังมีบทบาททางการเมืองอยู่
สร้างจินตนาการให้คนตีความไปต่างๆนานา
2 ป.เปิดศึกชิงซีนแข่งลงพื้นที่ จนสัมผัสได้พี่น้องออกลูกขบเหลี่ยม หมั่นไส้กันในที แม้ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก แต่ก็วัดพลังข่มกันไปมา
เกมประลองกำลัง “พี่ใหญ่–น้องเล็ก” กลับมาคุกรุ่น ไม่รู้จะยืดเยื้อนานแค่ไหน ยิ่งหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “ลุงตู่” หมดโควตาดำรงตำแหน่ง 8 ปี ก็ต้องลุ้นจะมีช็อตขวางทาง “บิ๊กบราเธอร์” ไม่ให้ไปสู่เก้าอี้นายกฯตัวจริงหรือไม่
อย่างที่รู้กัน “บิ๊กตู่” มีเครือข่ายควบคุม 250 ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หากไม่ไฟเขียวให้ผ่าน “พี่ใหญ่” ก็ไม่มีทางได้สมหวังเป็นนายกรัฐมนตรี
พี่น้อง 2 ป. ยังต้องประลองกำลังกันอีกหลายยก ต่อรองแชร์อำนาจกันให้ลงตัว
ตามธรรมชาติของการมีอำนาจ เสพติดเข้าไปแล้ว ไม่ว่าชั่วคราวหรือถาวร ก็ไม่มีใครอยากปล่อยมือ!!!
ทีมข่าวการเมือง