“บิ๊กป้อม” คึกคักลุยดูน้ำเมืองแปดริ้ว กำชับข้าราชการมองประชาชนเป็นนาย มีเขินโดนหญิงกลางคนขโมยจุ๊บแก้ม เป็นปลื้ม ปชช.แห่รับหนุน พปชร. เจ้าอาวาสวัดโสธรสวดชยันโตให้ศีลให้พรทำงานเพื่อบ้านเมือง “ลุงตู่” ไปมั่งลงดูน้ำที่อยุธยา ดิ้นสู้ยื่นคำชี้แจง 20 หน้าต่อศาล รธน. “ชลน่าน” เชื่อศาลรับคำร้องฝ่ายค้านขอเพิ่มพยาน “โรม” แซว “พี่ใหญ่” ใจดีมีแต่ให้ “อดุลย์” แนะ “พี่ป้อม” หักน้องเลิฟให้ไปต่อยิ่งเพิ่มวิกฤติขัดแย้ง “กรณ์” จับมือ “สุวัจน์” สู้เลือกตั้ง “วสันต์” เปิดใจว่าความช่วย “นิพนธ์” คุยไม่มั่นใจคงไม่รับทำคดีให้ ก้าวไกลจี้โชว์สปิริต คณะหลอมรวมนัดรวมพลไล่กลางกรุง ยันไม่ลงถนน
ทุกสายตาจับจ้องท่าที พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ ดูคึกคักเป็นพิเศษแถมลงพื้นที่ถี่ยิบ ล่าสุดมีคิวไปดูการบริหารจัดการน้ำที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีนักการเมืองทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ส่วนราชการ และประชาชนมารอต้อนรับจำนวนมาก

...
“บิ๊กป้อม” คึกคักลุยดูน้ำแปดริ้ว
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 ก.ย. ที่ จ.ฉะเชิงเทรา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำคณะ อาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรค พปชร. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร. ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ฉะเชิงเทรา โดย ส.ส.พลังประชารัฐ อาทิ นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ จ.อ.ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ทีมโฆษกพรรค พปชร. โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.ฉะเชิงเทรา นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา นำคณะข้าราชการรอให้การต้อนรับ
ให้ ขรก.มองประชาชนเป็นนาย
พล.อ.ประวิตรกล่าวระหว่างการตรวจพื้นที่ว่า ขอฝากว่าเราต้องทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือข้าราชการทุกคน ข้าราชการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน อย่าคิดว่าเราเป็นนายประชาชน เรากินเงินเดือนภาษีราษฎร ฉะนั้นต้องจำไว้ว่าเราต้องประสานงานกับประชาชนทุกอย่างให้ร่วมมือการทำงาน บูรณาการสร้างการรับรู้ส่งเสริมให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำทุกพื้นที่ ประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนอะไรต้องบอกข้าราชการ และข้าราชการต้องสนองต่อความต้องการของประชาชน และขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการทุกคนที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชน ขอให้ทุกคนตระหนักเสมอว่าเราเป็นข้าราชการต้องทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จงมุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติงาน
มีเขินโดนหญิงขโมยหอมแก้ม
ต่อมา พล.อ.ประวิตรไปเป็นประธานพิธีเปิดป้ายสำนักงานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ต.หน้าเมือง อ.เมือง พร้อมถ่ายภาพร่วมกับ อสม. และพบปะประชาชนที่ร้านอาหารบลูม มีชาวบ้านนำของฝากทั้งขนุน มะพร้าว มะม่วง ลูกจาก กล้วยน้ำว้า น้ำปลา กุหลาบแดง พร้อมป้ายสนับสนุน อาทิ “ที่สุดของเรา” “เรารักลุงป้อม” “สู้ๆค่ะลุงป้อม” “รักสุดหัวใจ จากใจชาวแปดริ้ว” ฯลฯ และมีขบวนกลองยาวต้อนรับอย่างเอิกเกริก เมื่อ พล.อ.ประวิตรลงจากรถก็พร้อมใจกันตะโกนเชียร์ “เรารักลุงป้อม รักลุงป้อมมากๆ” แถมมีหญิงวัยกลางคนเข้าไปหอมแก้มพร้อมเสียงกรี๊ด ทำเอา พล.อ.ประวิตรถึงกับยิ้มเขิน นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านนำพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวแปดริ้วมามอบให้ พล.อ.ประวิตรกล่าวทักทายผู้มาต้อนรับว่า “ขอบคุณที่มาต้อนรับโอ้ว เห็นแล้วชื่นใจ เราทำงานไปด้วยกัน ทั้งประชาชนและข้าราชการเราคือพวกเดียวกัน”
เป็นปลื้มคนแห่รับแน่นขนัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะพบปะประชาชนมีนายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน เข้ามาขอถ่ายรูปกับ พล.อ.ประวิตร พร้อมสวมกอดและกล่าวว่า “ขอให้เป็นนายกฯ ตัวจริงไปเลย” ทำให้ พล.อ.ประวิตรถึงกับอุทานว่า “เฮ้ย” สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ของ พล.อ.ประวิตรถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯแบบเต็มรูปแบบ มีบรรดาข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นักการเมืองทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น แห่มารอต้อนรับจำนวนมาก ทำให้ พล.อ.ประวิตรมีหน้าตาสดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส กระปรี้กระเปร่ากระฉับกระเฉงอย่างเห็นได้ชัด
มุ่งเพาะพันธุ์ ปชต.เลือดใหม่
จากนั้นเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ พล.อ.ประวิตรเปิดการสัมมนาและปาฐกถาในหัวข้อ “แนวทางส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” จัดโดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธานว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นของประเทศไทย ประกอบด้วยชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นรากฐานสำคัญ ในอดีตเราเคยวิกฤติแต่รอดพ้นมาได้เสมอ เพราะเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจคนในชาติ วันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่มีการเสริมสร้างความรู้ ขยายความเข้าใจ โดยเฉพาะการปลูกฝังให้เด็กเยาวชนเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์พร้อมจะเติบโตได้อย่างแข็งแรง
ไหว้หลวงพ่อโสธรเป็นสิริมงคล
ต่อมา พล.อ.ประวิตรเดินทางมาที่วัดโสธร วรารามวรวิหาร เข้าสักการะพระพุทธโสธร ถวายเครื่องไทยธรรม เครื่องสังฆทานแด่พระราชภาวนาพิธาน วิ. เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา โอกาสนี้เจ้าอาวาสสวดชยันโตให้ศีลให้พร พร้อมมอบพระพุทธโสธรองค์จำลองหน้าตัก 9 นิ้ว ลงรักปิดทอง และมอบเหรียญพระพุทธโสธรให้ พล.อ.ประวิตรเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนประพรมน้ำมนต์ขอให้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองให้ประสบความสำเร็จ และขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า ลงพื้นที่วันนี้เรียบร้อยดี ประชาชนให้การสนับสนุนโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ

“ลุงตู่” ไปมั่งลงพื้นที่ดูน้ำอยุธยา
พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันที่ 2 ก.ย. เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มีกำหนดลงพื้นที่รับทราบสถานการณ์น้ำและตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลกองทัพในการสนับสนุนช่วยเหลือป้องกันรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีกำหนดลงพื้นที่ 3 จุด คือวัดกษัตราธิราชวรวิหาร พระเจดีย์พระศรีสุริโยทัย และบริเวณพระตำหนักสิริยาลัย
ดิ้นสู้ยื่นคำชี้แจงศาล รธน.20 หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมว่า ล่าสุดทีมกฎหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่มีผู้ร้องขอให้วินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 24 ส.ค.2565 ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมจะยื่นเอกสารคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ (1 ก.ย.) สำหรับเอกสารคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญมีความยาวกว่า 20 หน้ากระดาษ เป็นการชี้แจงในทุกประเด็นที่ถูกร้องออกมาเป็นข้อๆ พร้อมกับยกข้อมูลและเหตุผลมาสนับสนุน
“ชลน่าน” เชื่อศาลรับเพิ่มพยาน
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการยื่นรายชื่อพยานเพิ่มเติมกรณีการสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญประกอบคำวินิจฉัยว่า จะรับหรือไม่รับเป็นสิทธิ์ของศาลรัฐธรรมนูญ การส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย หากศาลปฏิเสธไม่รับไว้พิจารณาน่าจะเสียหายกับศาลมากกว่า แต่เรามั่นใจว่าจะรับ เพราะข้อมูลที่เราให้ไปในเหตุผลประกอบคำร้องครบถ้วนหมดแล้ว เพียงแต่เราต้องการเพิ่มน้ำหนักในเชิงสาธารณะ มั่นใจว่าศาลจะรับไว้พิจารณา และจะส่งผลดีต่อการพิจารณา
“ฟลุ๊ค” เสี้ยม “ลุงป้อม” เจ๋งกว่า
นายพชร ธรรมมล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม จะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯแต่สิ่งที่เห็นในขณะนี้คือยังยึดติดไม่ยอมปล่อยวาง ยอมลดตัวไปเป็น รมว.กลาโหม เพียงขอให้มีอำนาจ ล่าสุดปรากฏภาพนั่งคล้ายสั่งงานกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทำให้สังคมถามถึงความเหมาะสม และสงสัยในข้อกฎหมายว่าเป็นการสั่งงานหรือไม่ จะผิดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ อีกทั้งนายอนุทินเป็นถึงรองนายกฯ มีศักดิ์ศรีสูงกว่า รมว.กลาโหมจะไปนั่งแบบนั้นทำไม และหลายคนยังคิดไปถึงว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำแบบนี้ เพื่อคานอำนาจกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกฯหรือไม่ เหมือนส่งสัญญาณเตือน พล.อ.ประวิตรไม่ให้ข้ามหน้าข้ามตา เพราะเริ่มปฏิบัติหน้าที่นายกฯได้ดีกว่ามาก พล.อ.ประยุทธ์ต้องเข้าใจแล้วว่าหมดเวลาของท่านแล้ว เกมโอเวอร์ ยิ่งทู่ซี้ยิ่งน่าเกลียด ประชาชนจะยิ่งเกลียดชัง ไม่น่าจะได้กลับมาอีกแล้ว อย่าพยายามปลุกศพขึ้นมาเดินอีกเลย
“โรม” แซว “พี่ใหญ่” ใจดีมีแต่ให้
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ภาพถ่ายร่วมกันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่กระทรวงกลาโหม โดยไม่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกฯ ที่ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองนั้น ที่ผ่านมาเป็นเพียงละคร ไม่คิดว่าภาพดังกล่าวจะถึงขั้นวางแผนอะไร พล.อ.ประวิตรยังเริงอำนาจอยู่ ทั้ง 2 คนนี้อยู่เป็นคงไม่ไปวางแผนอะไรที่จะทะเลาะกับ พล.อ.ประวิตร แต่เป็น พล.อ.ประยุทธ์ที่พยายามใช้ภาพนี้สื่อสารว่ายังมีคนสนับสนุนอยู่ แต่การที่ พล.อ.ประวิตรไม่ล้วงลูกอะไรมาก โดยเฉพาะโผตำรวจที่ยังเหมือนเดิม เพื่อสร้างภาพสร้างบุญคุณ เป็นพี่ใจดีพี่นี้มีแต่ให้ ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ถ้าเมื่อไหร่ พล.อ.ประวิตรคุมอำนาจได้เบ็ดเสร็จ จะมาเช็กบิลกันทีหลังนี่ก็อีกเรื่อง

“อดุลย์” ยุ “พี่ป้อม” หักน้องเลิฟ
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 แถลงว่า นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์สั่นคลอนลงแล้ว หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักงาน เป็นโอกาสของ พล.อ.ประวิตรต้องเร่งโชว์ศักยภาพสร้างความยอมรับให้กับประชาชนโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะพังไปทั้งพล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร ขอเรียกร้องไปยังผู้มีอำนาจและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร ที่มีอำนาจเต็ม ควรใช้โอกาสนี้แก้ปัญหาให้ประชาชนโดยเร็ว โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง เอาคนที่มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจเข้ามาเสริมทัพ ไม่ต้องรอ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเมื่อไหร่ หากปล่อยให้เป็นสภาพรัฐบาลเป็ดง่อย บริหารประเทศแบบไม่บริหาร ประเทศยิ่งย่อยยับ ขณะเดียวกันต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติด้วย โดยนำรายงานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติมาปัดฝุ่น ดำเนินการคลี่คลายความขัดแย้ง
ให้ “ตู่” ไปต่อตอกลิ่มวิกฤติขัดแย้ง
นายอดุลย์กล่าวว่า ส่วนกรณีสังคมจับตาดูคำวินิจฉัยปม 8 ปี ขอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยคำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และข้อเท็จจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ดำรงตำแหน่งมาก่อนรัฐธรรมนูญ 60 จะประกาศใช้ แล้วท่านได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญ 60 ที่เพิ่มอายุเกษียณจาก 70 ปี เป็น 75 ปี ทำให้ดำรงตำแหน่งต่อมาได้จนถึงปัจจุบัน การที่ท่านเป็นหนึ่งในตุลาการเสียงข้างน้อยไม่สั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ สังคมจึงจับตามองมากกว่าตุลาการท่านอื่น ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ควรลงจากอำนาจแบบสง่างาม หากยังดันทุรังฝืนเจตจำนงประชาชน จะถูกกระแสต่อต้านขยายวงจนเกิดวิกฤติการเมืองอีกครั้ง ร้าวลึกกระทบ กระเทือนถึงสถาบัน ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมกันก้าวข้าม พล.อ.ประยุทธ์ หากมีการสรรหานายกฯใหม่ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จะแก้ไขเศรษฐกิจ สร้างความสามัคคี และป้องปกสถาบันได้ดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์แน่นอน
“วสันต์” เปิดใจว่าคดีช่วย “นิพนธ์”
ที่โรงแรมเดอะสุโกศลเวลา 10.00 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย อดีตนายกอบจ.สงขลา พร้อมนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ หัวหน้าทีมทนายความนายนิพนธ์ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการสู้คดีจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.) นายวสันต์กล่าวว่า ได้ขอใบอนุญาตทนายความเมื่อปี 2558 เพื่อช่วยเหลือพรรคพวกเมื่อมีคดีความ เพราะเห็นว่าหลายคนมีคดีเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนที่มีสื่อระบุว่าเป็นถึงอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญลดตัวมาว่าความนั้น ขออย่าดูถูกอาชีพทนายความ ไม่ใช่ประธานศาลฎีกาคงไม่น่าเกลียดอะไรที่รับว่าคดีนี้ มีอดีตประธานศาลฎีกาหลายท่านตั้งสำนักงานทนายความ หรืออดีตนายกฯ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
คุยไม่มั่นใจคงไม่รับทำคดีให้
นายวสันต์กล่าวต่อว่า คนที่รับคดีต้องพิจารณาว่ามีทางต่อสู้หรือไม่ ถูกแกล้งรังแกหรือไม่ หากนายนิพนธ์เป็นฝ่ายผิดคงไม่รับทำคดีให้เสียฟอร์มเปล่าๆ เป็นทนายเงียบๆไม่ได้หิวแสงเหมือนใคร คดีแรกที่ว่าความช่วยคือ นายสมหมาย ภาษี พรรคพวกสมัยเรียน เมื่อตรวจสอบเอกสารเห็นว่านายนิพนธ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงรับเป็นทนายความให้ เราพร้อมสู้กับ ป.ป.ช. ไม่ได้เกรงใจอะไร เมื่อถามว่าเปิดหน้าสู้กับ ป.ป.ช.แบบนี้ จะมีปัญหากับ ป.ป.ช.หรือไม่ นายวสันต์ตอบว่า ไม่มีปัญหากับ ป.ป.ช. แม้จะรู้จักเป็นส่วนตัวกับบางคนก็ตาม เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจว่าจะชนะคดีนี้หรือไม่ นายวสันต์ตอบว่า ถ้าไม่มั่นใจคงไม่รับคดี เอาเรื่องจริงไปสู้กันในศาล ยืนยันว่าตนและนายนิพนธ์จะไปตามที่ ป.ป.ช.นัด ในวันที่ 5 ก.ย.นี้แน่นอน
ก้าวไกลบี้ “นิพนธ์” โชว์สปิริต
ที่รัฐสภา นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงว่า กรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ไปปรากฏตัวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา แสดงถึงความไม่จริงใจ กลัวไม่กล้าไปพิสูจน์ตัวเอง ขอเรียกร้องให้นายนิพนธ์แสดงสปิริตด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี หรือลาออก จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และขอให้ ป.ป.ช.ออกแถลงการณ์ความคืบหน้าของคดี ก่อนศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายนิพนธ์ ในวันที่ 14 ก.ย. และขอให้ประชาธิปัตย์แถลงท่าทีของพรรค ทบทวนเรื่องคุณธรรมจริยธรรม ความเป็นนักการเมืองของนายนิพนธ์ เพราะ ป.ป.ช.ชี้มูลไปแล้ว เพื่อยกระดับการเมือง ส่วนที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มาเป็นทนายว่าความให้นายนิพนธ์ ถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ อาจทำให้มีความมั่นใจสู้คดี

ทสท.ปลุก ปชช.ปฏิวัติเลือกตั้ง
นายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) แถลงถึงการจัดประชุมใหญ่พรรค ทสท.ในวันที่ 9 ก.ย. ที่โรงละครเคแบงค์สยามพิฆเนศ อาคารสยามสแควร์วัน ว่า 90 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 รัฐธรรมนูญทุกฉบับกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย” แต่ที่พี่น้องคนไทยได้สัมผัสคือการวนเวียนระหว่างการรัฐประหาร การเลือกตั้ง การสืบทอดอำนาจ 8 ปีที่ผ่านมา คือการตกผลึกของความเลวร้ายทั้งปวง ไม่มียุคใดสมัยใดที่ประชาชนไทย โดยเฉพาะคนตัวเล็กทั้งหลายถูกละเลยและย่ำยีได้เท่านี้อีกแล้ว ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องคนไทยทั้งมวลต้องไม่ให้การเลือกตั้งในวันข้างหน้าเป็นไปแบบเดิมๆ พี่น้องต้องลุกขึ้นปฏิวัติ ไม่ยอมจำนนต่ออำนาจ เงิน อิทธิพล และสัญญาแบบวาทกรรมต่างๆนานา พรรคไทยสร้างไทยขออาสาเป็นกองหน้าร่วมมือกันเปลี่ยนประเทศ เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทุกคนร่วมรับชมรับฟังการแถลงแนวทางการเปลี่ยนประเทศของพรรคในวันศุกร์ที่ 9 ก.ย. เวลา 09.00-14.00 น.
“กรณ์” จับมือ “สุวัจน์” สู้เลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคชาติพัฒนาว่า ในวันที่ 2 ก.ย. เวลา 10.30 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา จะร่วมแถลงข่าวจับมือทางการเมืองกับนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ที่บ้านเลขที่ 333 ราชวิถี 20 ดุสิต ของนายสุวัจน์ คาดว่าจะเป็นการแถลงข่าวเพื่อร่วมงานการเมืองสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องจับตาท่าทีนายกรณ์ว่าจะตัดสินใจเข้าสังกัดพรรคชาติพัฒนาหรือไม่
ครูจี้ทบทวนร่าง ก.ม.การศึกษา
ที่รัฐสภา สมาคมผู้บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน (แห่งประเทศไทย) ที่เป็นตัวแทนครูทั่วประเทศพร้อมใจกันแต่งชุดดำ เข้ายื่นหนังสือถึงนายตวง อันทะไชย ส.ว. ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ วุฒิสภา และนายสุรวาท ทองบุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ปรึกษา กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ทบทวนการลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ มาตรา 41 และ 42 เรียกร้องให้ฝ่ายบริหารหยุดแทรกแซงกระบวนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ให้มีอิสระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ และให้ กมธ. พิจารณาร่างกฎหมายด้วยความรอบคอบ รับฟังข้อเสนอจากผู้เกี่ยวข้อง ระหว่างยื่นหนังสือตัวแทนครูทำกิจกรรมยืนไว้อาลัย 1 นาที และวางดอกไม้จันทน์ที่ข้างป้ายอาคารรัฐสภา เขียนข้อความว่า “ขอไว้อาลัยแด่...ความกล้าหาญทางจริยธรรมของ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษา”
“หลอมรวม” นัดม็อบไล่กลางกรุง
ช่วงสายที่สถานีโทรทัศน์ออนไลน์พีซ ทีวี ซอยนวลจันทร์ แยก 33/1 คณะหลอมรวมประชาชน แถลงยกระดับจัดกิจกรรมชุมนุมกลางเมือง “หยุดอำนาจ 3 ป. เพื่อนับหนึ่งประเทศไทย” นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า ขอนัดหมายชุมนุมในวันที่ 3-4 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป วันที่ 3 ก.ย. ชุมนุมที่บริเวณลานบัว สกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน นักศึกษาจะออกมาช่วยรณรงค์ชักชวนประชาชนให้มาเข้าร่วมในกิจกรรม วันที่ 4 ก.ย. ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ขอให้ตำรวจประสานศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ขอใช้พื้นที่ลานหน้าศูนย์การค้า เพื่อจัดชุมนุมแบบเดียวกับที่ม็อบ กปปส.เคยทำ เพราะไม่ต้องการที่จะปิดถนนราชดำริ แต่ไม่ว่าจะได้ใช้สถานที่ได้หรือไม่ จะชุมนุมให้กระทบการจราจรบนถนนราชดำริน้อยที่สุด หลังจากชุมนุมใจกลางเมืองจบแล้ว เราเตรียมไปเปิดการปราศรัยในรั้วมหาวิทยาลัยต่างๆ และในต่างจังหวัดต่อไป