พล.อ.ประวิตร ลั่นน้ำไม่ท่วมซ้ำรอยแบบปี 54 แน่นอน โว 3 ปีทุกพื้นที่ไม่มีประกาศภัยแล้ง ย้ำต้องบูรณาการบริหารจัดการให้ได้ ไม่อย่างนั้นปชช.ด่ารัฐบาล แนะ ขรก.รับเงินเดือนจากภาษีปชช. ต้องทุ่มเท

เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 1 ก.ย. ที่สถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการน้ำพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าฯจ.ฉะเชิงเทรา นำเสนอสภาพพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน และนายเอกชัย อัตถกาญน์นา รองผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ปฏิบัติการ 3 นำเสนอการบริหารสถานการณ์น้ำ

จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอเปิดแมสก์จะได้เห็นหน้า คนพูดจะได้พูดได้ไม่เช่นนั้นจะหายใจไม่ออก สวัสดีทุกคนที่มาต้อนรับตนและคณะในวันนี้ ได้มาเยี่ยมชาว จ.ฉะเชิงเทรา ยินดีเป็นอย่างยิ่งและขอบคุณเจ้าหน้าที่ได้นำเสนอเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้มีการเตรียมการในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อการเตรียมการเรื่องน้ำดิบที่จะใช้ถึงปี 2580 โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเค็มจะต้องป้องกันในจุดพื้นที่บางปะกง เราไม่สามารถเอาน้ำดิบมาไล่ระบบนิเวศได้ตลอด ขอฝากพวกเราช่วยกันดู รัฐบาลได้ให้งบประมาณเกี่ยวกับเรื่องน้ำมาทุกปี โดย สทนช.ได้รายงานให้ทราบ โดยกรมชลประทานได้มีการเตรียมการต่างๆ ในการให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อนในการใช้น้ำ ดังนั้น การประปาต้องเตรียมการสำรองน้ำดิบไว้ผลิตให้ได้ถึงปี 80 เพื่อความต้องการของประชาชน

...

“ถ้าประชาชนไม่มีน้ำก็ด่ารัฐบาล ประชาชนมีอย่างเดียวคือต้องด่ารัฐบาล แต่ต้องขอความเห็นใจให้ข้าราชการทุกคนที่พยายามทำงานให้พวกเราได้อยู่ดีกินดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และเข้าใจน้ำเค็มที่ทะลักเข้ามาจะมีผล โดยเฉพาะน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาแนวทางเพื่อให้เป็นระบบในระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากทุกๆ ปี และประชาชนเกรงว่าฝนตกปีนี้จะทำให้น้ำท่วมเหมือนปี 2554 ปีนี้ผมรับรองเลยว่าไม่เกิดขึ้นอย่างปี 54 แน่นอน น้ำจะไม่ท่วมอย่างปี 54 แน่นอน ผมอยากจะบอกว่าทั้งกรมชลประทาน สทนช. และทั้งหมดได้ร่วมกันกระจายน้ำ เมื่อฝนตกทางเหนือก็กระจายไม่ให้น้ำท่วมตลอดเวลา เรามีกรรมการ 22 ลุ่มน้ำในการกำกับดูแล มีคณะกรรมการน้ำทุกจังหวัดเพื่อดูว่าน้ำจะมีมาก น้อยลง หรือจะแล้ง ซึ่งทำมา 3 ปีแล้วไม่มีแล้งเลย จะสังเกตได้ว่าหน่วยงานไม่มีประกาศภัยแล้งเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ รัฐบาลมีความห่วงใยอย่างมากกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว” พล.อ.ประวิตรกล่าว

พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า ขอมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประสานบูรณาการขับเคลื่อนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ป้องกันแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนครอบคลุมถึงระยะยาว โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อาทิตย์หน้านี้เราจะอนุมัติงบประมาณ 100 กว่าล้านบาท เพื่อศึกษาการทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ขณะที่กรมชลประทานต้องหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างเร่งแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จสามารถบริหารจัดการน้ำได้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการประสานงานกับกระทรวงทรัพย์ฯ และการอนุมัติพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังโตนด ถ้าได้มาจะทำให้กระจายน้ำได้ดีสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงฤดูแล้งปลูกพืชไร่ได้ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น การประปาส่วนภูมิภาคต้องวางแผนการใช้น้ำให้ครอบคลุมการใช้น้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ พร้อมสำรองน้ำไว้ใช้ การประปาทุกแห่งต้องมีแหล่งน้ำสำรอง ถ้าไม่มีจะใช้น้ำดิบจากธรรมชาติอย่างเดียวไม่ได้

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอฝากว่าให้ช่วยกันดูแลถ้าเรามีน้ำสมบูรณ์ทุกพื้นที่และทุกฤดูกาล จะทำให้การปลูกพืชไร่ของประชากรดีขึ้น ความเป็นอยู่ต่างๆจะดีขึ้น ขอฝากไว้ด้วยว่าเราจะต้องทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือข้าราชการทุกคน

“ข้าราชการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน อย่าคิดว่าเราเป็นนายของประชาชน เรากินเงินเดือนภาษีราษฎร ฉะนั้น ต้องจำไว้ด้วยว่าเราจะต้องประสานงานกับประชาชนทุกอย่างให้ร่วมมือการทำงาน โดยบูรณาการสร้างการรับรู้ส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในทุกพื้นที่ ประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ต้องบอกให้ข้าราชการ และข้าราชการต้องสนองต่อความต้องการของประชาชนนั่นเป็นเรื่องธรรมดา ที่รัฐบาลต้องการให้ข้าราชการทำงานอย่างเต็มที่สนองตอบนโยบายของรัฐบาลและสนองต่อความต้องการของประชาชน พร้อมกันนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทุกคนที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังเต็มความสามารถ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชน ขอให้ทุกท่านตระหนักเสมอว่าเราเป็นข้าราชการต้องทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จงมุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติงานและทำหน้าที่ให้เต็มความรู้ความสามารถในการสนองตอบความต้องการของประชาชน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน” พล.อ.ประวิตร กล่าว

จากนั้น พล.อ.ประวิตรและคณะได้นั่งรถรางเยี่ยมชมคลองนครเนื่องเขต (คลองท่าไข่)