ยังเกรงใจ ให้เกียรติน้องรักอยู่เสมอ แม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ จะมีอำนาจเต็มเปี่ยมเหมือนนายกฯตัวจริง แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีอาการบุ่มบ่ามย่ามใจ ตะลุยทำการใดๆตามที่มีเสียงเรียกร้องจากทั้งกองเชียร์ตัวจริง และตัวปลอม
ประชุม ครม.เก้าอี้นายกฯก็ไม่นั่ง ห้องส่วนตัวตึกไทยคู่ฟ้าก็ไม่ใช้ ยังคงนั่งเก้าอี้รองนายกฯ ตัวเดิม เฝ้ารอเวลาน้องรักกลับมา รอจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน
โผแต่งตั้งโยกย้ายล่าสุดก็ลงตัวเรียบร้อย ไร้ฝุ่นตลบ พี่น้อง “3 ป.” ไม่มีอาการขุ่นเคือง
กิริยาท่าทีแบบนี้เล่นเอากองเชียร์เซ็งกันเป็นแถบ เกมยั่วยุให้ปรับ ครม.ดูแล้วยังไม่น่าจะจุดติด
พี่ใหญ่ไม่คิดฉวยโอกาสตอนน้องเล็กไม่อยู่ ทำร้ายจิตใจกัน
แต่ถึงแม้ไม่เกรงใจกัน หากมีการปรับ ครม.เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีไป ถ้า “บิ๊กตู่” ได้กลับมาทำหน้าที่นายกฯต่อ ก็ปรับกลับได้เหมือนเดิม แก้เผ็ดกันไปมาคงสนุกพิลึก แต่ประชาชนคนดูไม่สนุกด้วยแน่
...
มองอีกแง่ถ้าไม่เสี่ยงปรับ ครม.ตอนนี้บนสมมติฐานว่า “บิ๊กตู่” ไม่รอดปม 8 ปี ก็ไม่มี โอกาสปรับแล้ว เพราะถ้าถึงตอนนั้นศาลรัฐธรรมนูญฟันฉับหลุดทั้งยวง ไม่ว่าใครก็ไร้อำนาจ เพราะเมื่อนายกฯหลุดจากตำแหน่งไป ก็เท่ากับ ครม.หลุดทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 167 เหลือสถานะเพียง ครม.รักษาการ
กระนั้นยังไม่รู้ว่าท่าทีของพี่ใหญ่ที่ให้เกียรติ “น้องตู่” แบบนี้ เจ้าตัวจะคิดยังไง แต่แว่วว่าก่อนหน้านี้มีอาการขุ่นเคืองพี่ใหญ่อยู่ เพราะมองว่าออกแรงไม่เต็มที่ ไปฟัง “ป.” อื่นใกล้ตัว ที่ไม่ใช่พี่น้อง “3 ป.” มากกว่า
การปรากฏตัวของ “บิ๊กตู่” อยู่เรื่อยๆ เจตนาส่งสัญญาณบอกใครบางคนว่ายังสู้ ไม่ยอมหมอบในเกมคาบลูกคาบดอก ไม่รู้ออกหัวออกก้อย
เพราะโอกาสกลับมาผงาดเป็นนายกฯต่อยังมีไม่น้อย
มองในแง่อำนาจ ใครจะเป็นเบอร์ 1 หลังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแล้วน่าสนใจ แต่ปวดหัว
ดูไม่ออกว่า “บิ๊กตู่” หรือ “บิ๊กป้อม” ถือไพ่เหนือกว่ากัน
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯต่อก็จบง่าย ไม่ต้องขยายความ
แต่ถ้าตัดสินปิดฉาก 8 ปี “บิ๊กตู่” หลุดตำแหน่งนายกฯ ครม.ก็ต้องหลุดหมด เป็นเพียงรักษาการทั้งคณะ ทำอะไรไม่ได้แล้ว ปรับ ครม.ไม่ได้ ยุบสภาก็ไม่ได้
คำถามคือใครจะเป็นนายกฯรักษาการ “บิ๊กตู่” หรือ “บิ๊กป้อม”
ตามศักดิ์ ลำดับขั้นควรจะเป็น “บิ๊กตู่” แต่ถ้าสแกนดูข้อกฎหมาย ความน่าจะเป็น ควรเป็น “บิ๊กป้อม”
ก็ในเมื่อศาลชี้ขาดให้ “บิ๊กตู่” หลุดไปแล้ว หมดอายุ 8 ปีแล้ว แต่กลับมารักษาการอีกมันดูทะแม่งยังไงๆอยู่
ตามที่มีนักวิชาการออกมาทักท้วงความเห็นของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ซือแป๋กฎหมายรัฐบาล ที่ออกมาชี้ช่องเรื่องนี้ตั้งแต่ไก่โห่
“จะทำอะไรก็ทำเถิด” เสียงตัดพ้อของคนจำนวนไม่น้อย ชั่วโมงนี้ ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าความชัดเจน จบสิ้นเรื่องราวไป เพราะหลายสิ่งหลายอย่างคาดการณ์ไม่ได้ เดาผิดหมด ไม่รู้ต้องยึดหลักตรรกะวิชาอะไร
วางแผนอนาคตกันลำบากลำบน มีผลต่อชีวิต จิตใจ ธุรกิจ ห้างร้าน
รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง 2560 ปิดจุดอ่อนคนทุจริตคิดชั่ว แต่ปรากฏช่องโหว่ช่องว่างให้ฝ่ายถืออำนาจเต็มไปหมด หนีไม่พ้นต้องตีความซ้ำซาก ล่าช้าน่าเบื่อหน่าย ฉุดรั้งถ่วงความเจริญประเทศ
ครั้นพอจะถามเจตนารมณ์ความมุ่งหมายจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ก็มีแต่อาการเงียบงัน ความจำสั้น
ต้องประกาศตามหาคนหาย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรธ. อยู่ที่ไหนใครวานบอก
หลายองค์กร เครือข่าย เรื่อยไปถึงภาคธุรกิจ เอกชน วันนี้ยังต้องคอยชำเลืองดูทิศทางการเมือง เพราะมีผลต่อตัวเองไม่มากก็น้อย บางอัน ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ไม่จำเป็นต้องเกี่ยว แต่หนีไม่พ้นอันตราย การเมืองเข้าแทรก
นับเดือนตอนนี้ก็กันยายนแล้ว งานใหญ่ระดับประเทศ “เอเปก” เตรียมการไปถึงไหน
มัวแต่สาละวนอยู่กับปัญหาการเมือง จนไม่ต้องทำมาหารับประทานกัน
แทนที่จะได้ลุ้นจัดงานดีมีราศีแค่ไหน แต่ต้องมาลุ้นจะมีนายกฯตัวจริง หรือรักษาการไปออกงาน
ว้าเหว่ประเทศไทย เกมการเมือง กติการัฐธรรมนูญ สร้างปัญหาเรื่อยมาจนน่าขัน
สรุปรัฐธรรมนูญของประชาชนหรือของใครกันแน่.
ทีมข่าวการเมือง