นายกฯ มอบรางวัล “บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์” ตื้นตันเห็นคนหนุ่มสาวรักชาติ รักสถาบัน เชื่อมั่นตราบใดทุกคนรักกัน ประเทศไทยไปต่อได้แน่ ยืนยันทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ส.ค. 2565 ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการมอบรางวัลการประกวด “บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์” กิจกรรมประกวดบทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์ในรอบชิงชนะเลิศ ที่สโมสรทหารบกไปแล้ว วันที่ 9 ส.ค.โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยทันทีที่มาถึงได้มีการเปิดเพลง “สู้เพื่อแผ่นดิน” ที่ประพันธ์คำร้องโดย พล.อ.ประยุทธ์ ต้อนรับ ขณะที่นายกฯ ได้โบกมือให้ผู้มาร่วมงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าทุกคนที่รวมอยู่ในห้องนี้มีหัวใจดวงเดียวกัน วันนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักความผูกพัน ผ่านเสียงเพลงที่ไพเราะ มีความหมาย ซึ่งคงไม่ต้องกล่าวว่าตนยินดีมากน้อยแค่ไหน เห็นใบหน้าของตนก็รู้ว่ามีความสุขในวันนี้ รู้สึกยินดีเป็นเกียรติที่ได้มามอบรางวัลบทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์ในวันนี้ ดนตรีเป็นสิ่งที่สร้างความบันเทิงรื่นรมย์ สุนทรีย์ ผู้รับฟัง จรรโลงจิตใจ สร้างความปรองดองเป็นปึกแผ่น สร้างความรัก ความสามัคคี ให้คนในชาติ ดังมีคำกล่าวไว้แล้วว่า ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก จากบทพระราชนิพนธ์แปลในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6
...
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ดนตรีเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจระหว่างกัน และเป็นภาษาเดียวที่สื่อสารกันได้ เสียงดนตรีเป็นเสียงที่ทำให้คนทั้งโลกเห็นถึงความผูกพัน ความรัก โดยไม่ต้องพูดใดๆ โดยเฉพาะวันนี้ตนได้เห็นนิสิต นักศึกษาและประชาชนมีความรักสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักที่ทำให้ชาติบ้านเมืองอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความภักดีต่อสถาบัน โดยใช้ดนตรีเป็นสื่อกลาง ตนมาที่นี่หลายครั้งแต่วันนี้ถือว่าคนเยอะที่สุด แสดงให้เห็นว่า ประเทศของเรายังมีอนาคตอีกไกล
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้มีลุงแก่ๆ ที่ยืนอยู่ตรงนี้และหนุ่มสาวเด็กๆ อยู่ข้างหลัง เราอยู่ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯ กล่าวมาถึงตรงนี้ ได้หยุดพูดไปช่วงหนึ่งด้วยความตื้นตัน และกล่าวว่า ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมจัดงานในวันนี้ แสดงถึงความรักชาติ รักราชบัลลังก์ ผ่านการขับร้องที่ไพเราะ สะท้อนให้เห็นความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างตั้งมั่น ทุกอย่างอยู่ที่หัวใจ ปากและสมอง เราจะรักใครชอบใครอยู่ที่ 3 ส่วนด้วยกัน รักก็คือรัก รักด้วยหัวใจ รักด้วยสมอง รักด้วยปัญญา เป็นสิ่งที่ทำให้โลกเราน่าอยู่และสามัคคี วันนี้อันตราย เพราะโลกขัดแย้งเราต้องรักกันให้ได้มากที่สุด เราต้องรักกัน ตราบใดที่รักกันประเทศไทยไปได้แน่ๆ ขอฟังเสียงปรบมือ จะร่วมมือกันไหม จากนั้นผู้ที่มาร่วมงานพร้อมใจกันปรบมือ นายกฯ จึงกล่าวต่อว่า คิดว่าคนอีกหลายล้านคนมีความเห็นเช่นเดียวกัน ฝากไว้ด้วย ฝากประเทศไทยไว้ในมือของพวกเรา ตนพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด วันนี้ได้รับฟังเพลงได้รับการถ่ายทอดที่ดีจากนักร้องนักแสดงเห็นความสุขเห็นเสียงปรบมือวันนี้ถือเป็นวันสำคัญของตน ที่ได้มีโอกาสฟังเพลงเพราะๆ และได้เห็นการแสดงออกของทุกท่าน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯ พูดถึงช่วงนี้ นายกฯ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความตื้นตันอีกครั้ง ก่อนก้มหน้าหยุดนิ่งแล้วกล่าวว่า
“เห็นผมเป็นนายกฯ และเป็น ผอ.กอ. รมน. ดูเหมือนใหญ่โตมากเหลือเกิน ตำแหน่งยิ่งเยอะความรับผิดชอบยิ่งมาก และต้องยิ่งดูแลคนให้ได้ บางอย่างก็มากบ้างบางอย่างก็น้อยบ้าง เพราะเรามีคนจำนวนมากพอสมควร มีความแตกต่างหลากหลาย ผมพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดด้วยความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ทำอย่างไรให้เราผ่านอุปสรรคช่วงนี้ให้ได้ โอกาสเรามีอยู่เยอะมาก ถ้ามายืนตรงผมจะรู้ว่าเรามีโอกาสเยอะมาก เราต้องไม่ทำลายโอกาสของเราเท่านั้น ผมฝากแค่นี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ฝากในช่วงท้ายด้วยว่า “วันนี้ขอขอบคุณ ทุกคน อย่างไรก็ตามตำแหน่งผอ.กอ.รมน.นี้ ไม่ว่าใครเป็นนายกฯ ก็ต้องเป็นทั้งนั้น ไม่ใช่เพราะตนเป็นทหารแล้วมาเป็นผอ.กอ.รมน. แต่อย่างใด เราต้องฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน” จากนั้นนายกฯ ได้ลงจากเวทีมาทักทายประชาชนที่มาร่วมงาน