พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ล่าสุด ไปติดตามการบริหารจัดการน้ำลุ่มแม่น้ำป่าสัก–เจ้าพระยา ในพื้นที่ จ.สระบุรี พร้อมกำชับเตรียมรับมืออุทกภัย ช่วยเหลือประชาชน

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ต่างจังหวัดต่อเนื่อง เพื่อติดตามภารกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ ล่าสุด พร้อมด้วยคณะเดินทางไปยัง จ.สระบุรี ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมศาลากลาง จ.สระบุรี มี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าฯ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. และ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ต้อนรับ นำเสนอข้อมูลและแผนงาน

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดซ่อมแซมคันกั้นน้ำคลองชัยนาท-ป่าสัก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงราง ต่อด้วยบริเวณวัดเชิงราก เพื่อรับฟังรายงานผลการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสัก และการปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยมีประชาชนมารอต้อนรับ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้มอบหมายให้ สทนช. กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และ จ.สระบุรี ดำเนินการตามแผนรับมือฤดูฝนทั้ง 13 มาตรการ เคร่งครัด รวมทั้งดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ปี 2565 ที่ กนช.เห็นชอบไว้ นอกจากนั้น ยังมอบกรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสัก เพื่อลดผลกระทบจากการพังทลายช่วงน้ำหลาก ตลอดจนมอบ สทนช. ปภ. ทหาร ตำรวจและจังหวัด สร้างการรับรู้และเข้าช่วยเหลือประชาชนทันที พร้อมบูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด

...

นายสุรสีห์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลโดยหน่วยงานเกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการพัฒนาโครงการด้านทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำป่าสัก โดยปี 2561–2564 มีโครงการดำเนินแล้วรวม 337 แห่ง ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่กว่า 7 หมื่นไร่

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำป่าสักนั้น ระยะนี้ แม้ภาพรวมปริมาณฝนจะลดลง แต่ยังคงต้องติดตามประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีปริมาณน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน โดยเฉพาะภาคเหนือมีปริมาณฝนตกสะสมช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไหลลงมายังพื้นที่ตอนล่างอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำป่าสักและลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเจ้าพระยา เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง.