โฆษกเพื่อไทย ยัน 17 ส.ค.นี้ ยื่นคำร้องปมวาระนายกฯ 8 ปีของ “พล.อ.ประยุทธ์” ย้ำ “พล.อ.ประวิตร” ไม่ใช่แคนดิเดตของพรรคไหน มีแค่ 5 ชื่อเท่านั้น
เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. วันที่ 14 ส.ค. 2565 น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และโฆษกพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามสื่อมวลชนในช่วงท้ายของการแถลงข่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นศาลรับฐธรรมนูญตีความวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีตัวแทนฝ่ายกฎหมายทำงานร่วมกันเป็นคณะ โดยจะมีการร่างคำร้องเพื่อยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา รวมถึงองค์กรอิสระ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบในคำร้องว่าชัดเจนครบถ้วนทุกประเด็นหรือไม่ แต่เป็นการทำงานร่วมกันของทุกพรรคการเมืองที่จะมีการลงชื่อร่วมกันของ ส.ส. เพื่อยื่นในวันที่ 17 ส.ค. นี้
ส่วนคำถามมั่นใจมากแค่ไหนว่าจะสามารถทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากตำแหน่งได้นั้น โฆษกพรรคเพื่อไทย ตอบว่า ตอนนี้สื่อมวลชนต่างมีการนำเสนอเรื่องวาระ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีความเห็นออกมา 2 ทาง คือ ในทางกฎหมายชัดเจนว่าตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถยืดไปกว่า 8 ปีได้ แต่ด้วยการดิ้นของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีความพยายามที่จะให้ตนเองได้อยู่ในตำแหน่งต่อ โดยเราเองมีความมั่นใจว่าถ้าหากศาลมีความยุติธรรมและตีความตามบทกฎหมายจริง พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อนวันที่ 24 ส.ค. นี้แน่นอน แต่ผลจะเป็นอย่างไรขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันจับตามอง อาจจะได้เห็นความพิลึกพิลั่นของการตีความ หรืออาจจะได้ดีที่ประเทศไทยยังมีความยุติธรรมอยู่
น.ส.ธีรรัตน์ ระบุต่อไปว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้สร้างความขัดแย้งให้สังคมไทย มาด้วยวิธีที่ไม่ชอบธรรมตั้งแต่ต้น พร้อมตั้งคำถามด้วยว่าทำไมวันที่กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ พล.อ.ประยุทธ์ จึงพูดไม่ครบทั้งหมด จะด้วยความตั้งใจหรือไม่นั้น วันนี้เห็นชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะทำตนอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ กำลังไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่พวกเขาและองคาพยพเขียนกันขึ้นมา พร้อมมองว่าในวันที่เขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตั้งใจที่จะเอาไว้ทิ่มแทงพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม แต่วันนี้กฎหมายฉบับนั้นกลับมาใช้กับตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ เองแล้ว ซึ่งก็ยังไม่ยอมที่จะปฏิบัติตาม
...
กรณีที่ถามว่ายื่นคำร้องในวันที่ 17 ส.ค. จะช้าไปหรือไม่ ความจริงประเทศไทยเสียโอกาสมามากแล้ว 8 ปีที่ผ่านมาประเทศถอยหลังมาโดยตลอด ในขณะที่เทคโนโลยี เศรษฐกิจต่างๆ ควรที่จะเดินหน้าไปมากกว่านี้ คุณภาพชีวิตคนไทยกลับตกต่ำลง อีกทั้งไทยยังกลายเป็นประเทศที่ถูกมองข้ามจากนานาอารยประเทศ นอกจากนี้ สิ่งที่พวกเราอดทนมาโดยตลอด เป็นความอดทนของพี่น้องประชาชนที่ต้องยอมรับและนับถือ ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะออกไปตั้งแต่วันนี้เลยหรือไม่ ถ้าประชาชนเลือกได้ก็คงบอกว่าอยาก หรืออยากให้ออกไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในเมื่อทนมาถึงตรงนี้ ด้วยองคาพยพและอำนาจทางการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์ มี จึงต้องอาศัยช่องทางนี้ที่จะทำให้ออกไปโดยเร็วที่สุด สิ่งนี้เป็นความตั้งใจและความพยายามของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะทำให้ประเทศชาติและประชาชน ขอให้ร่วมกันติดตามสถานการณ์จากนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ฝากความหวังไว้หลังการตีความทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการหาก พล.อ.ประยุทธ์ หลุดจากตำแหน่งจริงนั้น โฆษกพรรคเพื่อไทยตอบชัดว่า “ต้องเข้าใจกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถ้าหากว่า พล.อ.ประยุทธ์ หลุดออกจากตำแหน่งจริง ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่า แคนดิเดตหรือผู้ที่มีรายชื่อเป็นนายกฯ จากพรรคการเมืองคือใครบ้าง พล.อ.ประวิตร ไม่เป็นหนึ่งในนั้น ไม่มี พล.อ.ประวิตร พรรคเพื่อไทยมี มีท่านชัยเกษม นิติสิริ, ท่านชัชชาติ สิทธิพันธุ์, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคภูมิใจไทยมี อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคประชาธิปัตย์มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านี้ที่จะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ฉะนั้น พล.อ.ประวิตร ไม่ได้อยู่ในสมการนี้ 5 ท่านนี้ทุกคนก็ยังมีชีวิต ยังไม่ได้หายไปไหน ยังสามารถที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ถ้าหากว่าได้รับเสียงข้างมากจากรัฐสภา ต้องเข้าใจว่าไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่ในรายชื่อของการถูกเสนอชื่อจากพรรคการเมืองให้เป็นนายกรัฐมนตรีเลยสักพรรคการเมืองเดียว”