มาตามนัด ขบวนโห่ไล่รวมพลพรึบพรับก่อนเดดไลน์ 24 สิงหาคม กับปรากฏการณ์ที่ 99 นักวิชาการ อาจารย์ คนดัง ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์เรียกร้อง ให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง

จี้ไขก๊อกเพราะนั่งเก้าอี้ผู้นำครบ 8 ปี ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ

“อุ่นเตา” เร้าชนวนมวลชน จุดเริ่มต้นของสถานการณ์ที่มีแนวโน้มสูงจะนำไปสู่ฉากม็อบรวมตัวไล่ผู้นำ ตามสารพัดปัจจัยกดทับซับซ้อน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และแรงกดทับทางการเมืองที่ทีมอำนาจทหารเฒ่า 3 ป. ผูกขาดกินรวบมา 8 ปี

“ระบอบประยุทธ์” แทรกซึมเข้าแทนที่ “ระบอบทักษิณ”

ผู้คนในสังคมไทยรู้ซึ้งถึงความหมายในสำนวนโบราณ “หนีเสือปะจระเข้”

แถมยังส่อจะต่อโปรโมชันไปอีก 4 ปีเป็นอย่างต่ำ

ตามเค้าลางบ่งชี้ถึงความพยายามในการต่อท่ออำนาจผ่านเกมการเลือกตั้งรอบต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการล็อกกติกาเอื้อความได้เปรียบให้มากสุด

กับสูตรปาร์ตี้ลิสต์ที่พลิกไปพลิกมา เดี๋ยวหาร 100 เดี๋ยวหาร 500 เดี๋ยวจะกลับไปหาร 100 บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่ทำท่าจะหักดิบกลับไปเป็นใบเดียว

ชักเข้าชักออก สับขาหลอกจนตัวเองก็น่าจะงงๆไปด้วย

คู่ต่อสู้จับทางไม่ถูก ลูกหาบฝ่ายเดียวกันยิ่งสับสนไปไม่เป็น

นั่นก็เพราะภายในขุมข่ายทีมอำนาจ 3 ป.เอง ก็ขบเหลี่ยมเหยียบตาปลากันมั่วไปหมด ผลจากอำนาจและผลประโยชน์ขัดกันก็เจ๊งชัย

ปากก็ท่องสคริปต์ผูกพันกันมาเกือบครึ่งศตวรรษ จะรักกันจนวันตาย แต่โดยพฤติการณ์มันฟ้อง แบบที่เห็นการแยกย้าย “พี่ใหญ่-พี่รอง-น้องเล็ก” ต้องเดินหน้าสร้างดาวคนละดวง

เผื่อ “วงแตก” แยกทางใครทางมัน

ชัดเจนสุดก็คือการก่อกำเนิดของค่าย “รวมไทยสร้างชาติ” ที่มี “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค กุนซือนายกฯทายาทผู้ก่อตั้งปั๊มน้ำมัน “สามทหาร” รับบทเป็นหัวเรือใหญ่

...

ในภารกิจยิ่งใหญ่ “รวมไทยสร้างตู่”

รวมดาวกระจายในเครือข่ายอดีตก๊วน กปปส.และคนยี่ห้อประชาธิปัตย์มาช่วยกันหาม พล.อ.ประยุทธ์ ทำแฮตทริกนายกรัฐมนตรีรอบ 3

ตามไฟต์บังคับที่ “บิ๊กตู่” ไม่สามารถยึดค่ายพลังประชารัฐจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร.มาเป็นฐานประกันความชัวร์ได้

เหลี่ยมเก๋า “พี่ใหญ่” เล่นมุก “ไม่รู้ ไม่รู้” ท่าเดียว

แต่เดี๋ยวก็ปล่อย “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พากบฏไปตั้งค่ายเศรษฐกิจใหม่ เดี๋ยวก็มีรายการเดินเกมโหวตคว่ำ “พี่รอง” อย่าง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตามด้วยช็อตกราบเท้าของดาราตุ๊กตาทองอย่างนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ

พร้อมเสียงตะโกนเชียร์ให้ “บิ๊กบราเธอร์” นั่งควบเก้าอี้ มท.1

ตามรูปเกม “พี่ใหญ่” เดินเกม “ขึงพืด” พี่รองกับน้องเล็ก

ตามสถานะของมวยที่เก๋าเกมการเมืองกว่าเยอะ “บิ๊กป้อม”เหลี่ยมจัดกว่า “บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก” ในมุมของความเชี่ยวเชิงและคอนเนกชันในหมู่นักเลือกตั้งอาชีพ

มาถึงจุดนี้ก็ชัดเลยว่า “บิ๊กตู่” คงคุมได้แค่พรรคแตกแบงก์พัน ลุ้นค่ายรวมไทยสร้างชาติที่จะเก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน ในสถานการณ์เศรษฐกิจปากท้องทำแต้มรัฐบาล 3 ป. ต่ำเตี้ยเรี่ยราด

และก็ “แทงเต็ง” ได้ ตามยุทธศาสตร์บังคับ สูตรปาร์ตี้ลิสต์ต้องหาร 500 ชัวร์

ตามสัญญาณแบบที่นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ ค่ายพลังประชารัฐ ส่งสัญญาณชัด วันที่ 3 สิงหาคมนี้

จบข่าว เพราะคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จะแก้ไขให้มาตราอื่นๆ สอดรับกับมาตรา 23 ที่รัฐสภามีมติให้คำนวณปาร์ตี้ลิสต์หาร 500

เปิดทางให้ค่ายเล็กค่ายน้อย ยุทธการแตกแบงก์พันของทีมทหารเฒ่า 3 ป. เก็บแต้มปัดเศษ ไปผนึกกับ “250 ส.ว.ลากตั้ง”

หนทางเดียวที่จะทำลายฝันหวานของ “ทักษิณ ชินวัตร” และเครือข่ายที่ตีปี๊บแลนด์สไลด์ ต้องแก้เกมกันป่วน จากที่รวบรวมเหรียญสิบ แบงก์ยี่สิบ แบงก์ร้อย แลกคืนแบงก์พัน

“เชื่อมั่น” ในแต้มต่อ โหมประโคมกระแสกันเพลินจนลืมตั้งรับ เกมตลบหลัง

ต้องวิ่งแตกแบงก์ย่อยกันใหม่ น้ำบาน.

ทีมข่าวการเมือง