ตามคาด “พล.อ.วิชญ์” นั่งหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน เน้นปักธงภาคกลาง ตั้งเป้าได้ ส.ส.เกิน 25 เก้าอี้ ขอทำให้ประชาชนมีสุข โว ไม่มีดีคงไม่มาตั้งพรรค ยันไม่ใช่นั่งร้าน “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”

วันนี้ (1 ส.ค. 2565) พรรคพลังชาติไทย จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ โดยมีวาระสำคัญเพื่อพิจารณาเปลี่ยนชื่อพรรคจากพรรคพลังชาติไทย เป็น “พรรครวมแผ่นดิน” โดยมี พล.ต.พิชิต บุตรวงศ์ รองหัวหน้าพรรค รักษาการหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม จากนั้นที่ประชุมได้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 14 คน

  • พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน
  • นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นรองหัวหน้าพรรค
  • พล.อ.สุรวัช บุตรวงษ์ อดีต ผอ.ททบ.5 และ ผบ.หน่วยข่าวกรองทางทหาร (ขกท.) เป็นรองหัวหน้าพรรค
  • พล.ต.พิชิต บุตรวงศ์ เป็นรองหัวหน้าพรรค
  • นายจำลอง ครุฑขุนทด เป็นเลขาธิการพรรค
  • นายณัฐพล ทองคำ เป็นเหรัญญิกพรรค
  • นายมนตรี พรมวัน นายทะเบียนพรรค
  • นายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล หรือ ซินแสโจ้ เป็นกรรมการบริหารพรรคและโฆษกพรรค


นายจำลอง เปิดเผยว่า ได้รับการทาบทามจาก พล.อ.วิชญ์ ให้มาร่วมงาน โดยได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐมา 1 เดือนแล้ว

...

ทางด้าน พล.อ.วิชญ์ แถลงภายหลังประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2565 ในฐานะหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน ว่า เป้าหมายของพรรคมีอย่างเดียว คือไม่ได้เป็นพรรคขนาดใหญ่ และไม่ได้เป็นพรรคขนาดเล็ก แต่เป็นพรรคขนาดกลาง ตามที่เรามุ่งหวังไว้ว่าเราจะเป็นพรรคที่สามารถจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเราหวังได้ ส.ส. 25 ที่นั่งขึ้นไป ซึ่งเราได้มาในพื้นที่ภาคกลางแต่ยังไม่สามารถบอกจังหวัดได้ เพราะเดี๋ยวจะถูกหยิบตัวไป รวมถึงภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคเหนือ ก็มีบางส่วน เพื่อจะได้ร่วมรัฐบาล เพราะถ้าไม่มีดีคงไม่มาตั้งพรรคหรอก เอาอย่างนี้ดีกว่า

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ตอบว่า ตนและ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่เคยทำงานร่วมกันมาโดยตลอด แต่เรื่องการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต่อไปในอนาคตอาจจะต้องมีคนที่ดีกว่าท่าน เราสนับสนุนคนที่ดี เพื่อให้ประเทศอยู่รอดและไปได้ ยังไม่ได้มีการทาบทามใครทั้งสิ้น เป็นเพียงเริ่มต้นพรรคเพื่อทำให้ประชาชนมีความศรัทธาในตัวเราให้มากที่สุด จะพยายามทำให้ประชาชนศรัทธาและทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ส่วนตัวคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐทุกวัน ได้บอกไปว่าจะตั้งพรรค ซึ่ง พล.อ.ประวิตร บอกว่า “ก็เอาดิ ลองไปทำดู” ส่วนตัวถ้ามีอะไรจากไปปรึกษา พล.อ.ประวิตร เพราะเคารพเหมือนพ่อ ดูแลกันมาตั้งแต่เป็นทหารอยู่ที่ จ.สระแก้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงเรื่องที่เคยอยู่พรรคพลังประชารัฐและพรรคเศรษฐกิจไทยมาก่อน จะนำอะไรมาใช้ในการทำพรรคครั้งนี้หรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวยอมรับว่าตนเป็นคนใหม่ในการเมือง อาจมีข้อผิดพลาดบางอย่างบ้าง แต่กลับมาใหม่คราวนี้ไม่มีอะไรมาก เพราะคิดถึงสมาชิกที่ดึงจากพรรคพลังประชารัฐไปพรรคเศรษฐกิจไทย จากนั้นเราก็ทิ้งเขาไป คิดว่าตัวเองทำไม่ถูก รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบจึงหันกลับมาใหม่ ยืนยันว่าเราเป็นพรรคของประชาชน เอาประชาชนเป็นหลัก ส่วนตัวไม่คิดที่จะดึง ส.ส.จากพรรคเศรษฐกิจไทย และไม่เคยทำ ถ้าคนจะมาอยู่ร่วมกันไม่จำเป็นต้องไปดึงหรือไปทำอะไรให้เขามาเอง ขอคนที่สมัครใจที่อยากจะมาอยู่ด้วย เพื่อมาทำงานให้กับบ้านเมือง ส่วนการส่งผู้สมัครจะส่งเพียงบางเขตที่คิดว่ามีสิทธิ์ โดยจะเน้นในพื้นที่ภาคกลาง

พล.อ.วิชญ์ ย้ำด้วยว่า ไม่เคยเป็นนั่งร้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ไม่เคยสร้างนั่งร้านที่บ้านตนเอง ไม่เคยมี ทุกคนเข้าใจว่าอยู่ใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร ทำงานมาตั้งแต่สมัยเป็นทหารด้วยกัน ยืนยันว่ายังไม่คิดว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ เอง ต้องให้คณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคพิจารณา ส่วนการลงสมัคร ส.ส. ก็จะไม่ลง เพราะไม่ถนัดงานสภาฯ ปล่อยให้คนอื่นทำดีกว่า อย่าไปรวมเองทุกอย่าง

เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับสูตรเลือกตั้งหาร 100 หรือหาร 500 บัตรใบเดียว หรือบัตร 2 ใบ พล.วิชญ์ ให้คำตอบว่า ทางพรรคไม่ได้มองไปถึงเรื่องร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส.ส. เป็นเรื่องของสภาฯ ไม่ขอไปก้าวล่วง จะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่พรรคเราก็จะลงเลือกตั้งและทำให้ประชาชนมีสุข.