“ชูศักดิ์” ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เสนอ ฝ่ายค้าน จ่อ ตั้งคณะทำงานร่วมยกร่างคำร้องเอาผิดรมต.หลังผ่าน ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ย้ำ สูตรหาร 500 ขัด รธน.มาตรา 91 ลั่น ขอสู้ต่อจนชั้นศาล
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 65 นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) และกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวถึงกรณีรัฐสภาให้กรรมาธิการพิจารณากฎหมายลูกมาเพิ่มเติมร่างกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500 ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือร่างกฎหมายเลือกตั้งที่นำเสนอต่อรัฐสภา ใช้วิธีเอาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คนไปหารคะแนนของพรรคการเมืองทั้งประเทศ เพื่อให้ทราบว่าคะแนนต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คนเป็นกี่คะแนน แล้วหารคะแนนของพรรคการเมืองแต่ละพรรค จะทราบว่าพรรคนั้นจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อกี่คน ทราบดีว่าเป็นระบบคู่ขนาน ไม่สามารถเอา 500 ไปหารได้ ที่สำคัญก็คือรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมปี 2564 ใช้ถ้อยคำเหมือนกับรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมปี 2554 ทุกประการ ในขณะนั้นเอา 125 หาร เนื่องจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อมี 125 คน ส.ส.เขตมี 375 คน กรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ก็ใช้หาร 100 ด้วยกันเกือบจะเป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด ร่างแก้ไขเพิ่มเติมทั้งสี่ร่างรวมของรัฐบาลก็เอา 100 หารทั้งหมด แต่ในชั้นการประชุมของรัฐสภา มีการกลับมติของกรรมาธิการฝ่ายข้างมากโดยเอา 500 ไปหาร ซึ่งเราเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 91 อย่างชัดเจน
นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้คงอยู่ในขั้นตอนว่าหากเอา 500 หารต้องแก้ไขเพิ่มเติมมาตราอะไรบ้างเพื่อให้สอดคล้องกัน เราเห็นว่าถ้ามาตราหลักขัดรัฐธรรมนูญ มาตราเสริมก็ย่อมขัดด้วย และสงวนความเห็นไว้เพื่อ อภิปรายในรัฐสภา คงจะมีการพิจารณากันในรัฐสภาอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 2-3 ส.ค.นี้ ในที่สุดจะเดินไปจนจบกระบวนการของรัฐสภาหรือใหม่ อย่างไร ถ้าจบก็ต้องส่งร่างไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาว่าร่างเป็นแบบนี้ขัดรัฐธรรมนูญไหม และปฏิบัติได้ไหม ถ้าความเห็น กกต.ว่าไม่ได้ ก็คงจะต้องมาพิจารณาในชั้นรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง แต่ในท้ายที่สุดเกิดเห็นว่าไปได้ ไม่ขัด ปฏิบัติได้ พวกเราก็คงจะร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยว่าร่างกฎหมายนี้ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 91 สรุปดูเหมือนจะเป็นการเดินทางไกลอีกครั้งหนึ่ง ไตร่ตรองกันดูดีๆ แล้วกันว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมือง
...
นายชูศักดิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นร้ององค์กรอิสระเอาผิดรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า สำหรับการร้องเอาผิดรัฐมนตรีกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา เสนอว่า สมควรตั้งคณะทำงานพิจารณาร่วมกันระหว่างฝ่ายที่เสนอข้อมูล และฝ่ายอภิปรายฯ กับทีมงานทางด้านกฎหมาย เพื่อดูสาระสำคัญและยกร่างคำร้องตอนนี้ก็เริ่มดูกันแล้ว เข้าใจว่า จะสามารถยื่นคำร้องได้มากพอสมควร ส่วนใหญ่ก็จะดูในแง่ของความผิด ความบกพร่อง การจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและกฎหมาย พฤติกรรมทุจริต เอื้อประโยชน์ ผลประโยชน์ขัดกัน อันนี้สำหรับพรรคเพื่อไทย แต่สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ เข้าใจว่า ก็คงตั้งทีมงานพิจารณายกคำร้องเช่นเดียวกัน โดยภาพรวมขณะนี้คิดว่า สามารถร้องได้หลายเรื่องมีมูลที่เห็นได้ชัดเจนหลายกรณี.