“สุวัจน์” โหมโรงรับเลือกตั้ง นำว่าที่ผู้สมัครไหว้ "ย่าโม" ขอบารมีคัมแบ็ก ชี้ หาร 500 หาร 100 บัตรใบเดียว-บัตรสองใบ สุดท้ายจบที่ศาล รธน. ลั่น จุดยืน "ชาติพัฒนา" บัตร 2 ใบ เมิน “อุ๊งอิ๊ง” เตรียมขนทัพเพื่อไทยแลนด์สไลด์โคราช
วันที่ 30 ก.ค. 65 ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา แกนนำของพรรคฯ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา อดีต รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคชาติพัฒนา พื้นที่ฐานเสียงสำคัญ, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพรรคชาติพัฒนา อดีต รมว.อุตสาหกรรม, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา, นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนา เขต 3 นายไกรฤกษ์ เสียนขุนทด อดีต ส.อบจ.นครราชสีมา เขตอำเภอด่านขุนทด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ ในพื้นที่อำเภอด่านขุนทด ถือเป็นประจำในการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ชาว จ.นครราชสีมา จะต้องพากันไปกราบไหว้สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือ คุณย่าโม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่พี่น้องประชาชน ปู่ย่าตายายและชาวไทยเคารพนับถือกราบไหว้ขอพรเป็นสิริมงคลและขอพรบารมีให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา โดยเฉพาะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2566
...
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงความร้อนแรงทางการเมืองพร้อมกับวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวการนับจำนวนสูตร หาร 100 หาร 500 ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็เป็นแต่เพียงผ่านวาระ 2 ไป ฉะนั้นความชัดเจนคงจะต้องดูในวาระ 3 ว่า รัฐสภาจะลงความเห็นอย่างไร แล้วก็สุดท้ายก็ต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นไปตาม รธน.ที่กำหนดเอาไว้เป็นกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องส่งไปให้ทาง กกต. และศาล รธน. ฉะนั้นตนคิดว่าคำตอบสุดท้ายก็คงอยู่ที่ศาล รธน. ว่าจะเป็นผู้วินิจฉัยว่าผลของรัฐสภา ไม่ว่าจะลงมาชี้ว่าหาร 500 หรือหาร 100 ก็คงไปจบที่นั่น
ส่วนที่มีกระแสเรื่องการแก้ รธน.ในเรื่องนี้เรื่องบัตรใบเดียวนั้น ตนคิดว่า ก็ยังไม่มีแหล่งที่มาที่ไปชัดเจนก็อาจจะเป็นกระแสข่าวหรือไม่อย่างไร ตนก็ไม่ทราบ แต่ว่าโดยเนื้อหาของ รธน.ที่แก้ไขไปแล้วและที่พึ่งแก้ไขไปแล้วด้วยค่อนข้างชัดเจนว่า เราจะเลือกตั้งกันใหม่ตามที่แก้ไข รธน. ซึ่งในการแก้ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าจะมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือใบหนึ่งเลือก ส.ส.ที่ท่านชอบ ใบที่สองเลือกพรรคการเมือง เพื่อที่จะได้ไปคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ จำนวน 100 คน ส.ส.เขต 400 คน เรื่องนี้ใน รธน.กำหนดไว้แล้ว ฉะนั้นตนคิดว่ากฎหมายลูกจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของ รธน.ที่ถือว่าเป็นกฎหมายแม่
“ส่วนจุดยืนของพรรคชาติพัฒนา ไม่ว่าหาร 500 หาร 100 บัตรใบเดียว หรือบัตรสองใบ จุดยืนอยู่ตรงไหนนั้น ผมคิดว่า วันนี้เราก็ต้องยึดหลักรัฐธรรมนูญ ว่าเราแก้ไขรัฐธรรมนูญไปอย่างไร อย่างถ้าเกิดเราบอกว่า เราแก้ไขรัฐธรรมนูญไป เพื่อให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ก็ควรจะต้องเป็นอย่างนั้น ฉะนั้นจุดยืนพรรคชาติพัฒนาก็ต้องเป็นอย่างนั้น ฉะนั้นกฎหมายลูกก็ต้องมีอะไรที่ไม่ไปขัดแย้งกับกฎหมายหลัก กฎหมายแม่ก็คือรัฐธรรมนูญ ผมคิดว่าวันนี้ก็เข้าใจการเมืองบางทีก็กังวลว่า สมมติหาร 500 ใครจะได้เปรียบ หาร 100 ใครจะได้ปรียบเสียเปรียบ ผมคิดว่าวันนี้ถ้าเกิดเรามองเอาให้กฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับ รธน.อยู่ในกรอบและมีความถูกต้องภายใต้ รธน. เราอย่างเพิ่งไปมองว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ เอาให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ประชาชน ให้ประเทศชาติได้เปรียบ ให้ประชาชนได้เปรียบ เราได้เปรียบหรือเสียเปรียบไม่เป็นไรก็เหมือนกับนักกีฬา เมื่อมีกติกาแล้วออกมาอย่างไรแล้วเป็นกติกาที่ถูกต้อง ถ้าเกิดศาล รธน.ประทับตามมาแล้วว่า กติกานี้ถูกต้องก็เป็นเรื่องของพรรคการเมืองในฐานะผู้เล่นก็ต้องไปปรับวิธีการเล่นให้สอดคล้อง แล้วก็แพ้ชนะ พี่น้องประชาชนก็ตัดสิน แต่ทุกอย่างประโยชน์ต้องเกิดจากส่วนรวมต้องเกิดจากพี่น้องประชาชนภายใต้กฎเกณฑที่พวกเราคิดว่าอะไรถูกต้อง ฉะนั้นอยากให้ทุกคนสบายใจว่าเราไม่ต้องกังวลว่าใครได้เปรียบ เสียเปรียบ ถ้าศาล รธน.วินิจฉัยออกมาอย่างไรแล้ว ผมเชื่อว่าเราก็ต้องยอมรับกัน” นายสุวัจน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงอายุรัฐบาลเป็นทางการอีก 7-8 เดือน มีการพูดการปรับ ครม. เพราะเสร็จศึกอภิปรายฯก็ผ่านฉลุย เพื่อให้คนมีความรู้ความสามารถเข้ามาบ้างมองอย่างไร นายสุวัจน์ ตอบว่า เรื่องนี้คงจะอยู่ในดุลยพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า จะปรับหรือไม่ปรับ เพราะว่าเวลาก็เหลือ 7-8 เดือน อันนี้ตนตอบแทนท่านไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ตนคิดว่าอยากจะเห็นวันนี้ก็ถือว่ารัฐบาลก็ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจถือว่า ได้รับความเห็นชอบจากสภาฯว่าท่านทำงานต่อไปได้ ฉะนั้นทำให้แรงกดดันทางการเมืองก็ค่อนข้างที่จะเบาลง ฉะนั้นรัฐบาลก็มีสมาธิ มีความคิด มีอะไรที่ปลอดโปร่งมากขึ้น มีเวลาที่จะทำงานมากขึ้น ฉะนั้นเวลาที่เหลืออยู่ 7-8 เดือน เป็นเวลาที่มีความหมายกับประเทศ ตนก็อยากให้ใช้โอกาสนี้ในความปลอดโปร่งทางการเมือง ที่บรรยากาศดีขึ้นนี้ โหมเลย ทำงานในเชิงรุกเลย ลุยเลย เข้าไปแก้ไขปัญหาที่ขณะนี้กำลังเกิด ถ้าถามพี่น้องประชาชนทั่วๆไป ระดับรากหญ้าหรือไปตามตลาดไปทุกแห่งส่วนใหญ่จะบ่นเรื่องของแพง น้ำมันแพง สินค้าอุปโภค บริโภคแพง แก๊สแพง ค่าไฟฟ้าแพง ทุกอย่างแพงไปหมดรวมทั้งเงินเฟ้อด้วย ฉะนั้นตนคิดว่า อยากให้รัฐบาลใช้เวลาที่เหลือให้เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนก็ปัญหาต่างๆเหล่าก็ฝากไว้ ตนไปเจอพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ก็จะฝากมาบอกว่า อยากให้ช่วยดูแลเรื่องของแพงมากๆ
ตอบข้อถามถึงวิเคราะห์การเมืองอย่างไรการที่ครอบครัวเพื่อไทยนำโดย ”อุ้งอิ้ง” เตรียมลงพื้นที่ขนทัพใหญ่จะแลนด์สไลด์เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครที่ จ.นครราชสีมาในเดือนหน้านี้ นายสุวัจน์ ตอบว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ก็ได้เวลา เพราะทุกคนก็คงจะเห็นปฏิทินการเมือง ปฏิทินการเลือกตั้งที่ชัดเจนแล้วว่า สมมุติถ้ารัฐบาลอยู่ครบก็ประมาณเดือนมีนาคม 2566 ฉะนั้น ทุกคนก็ต้องเตรียมตัว ทุกพรรคก็ต้องเตรียมตัว ฉะนั้นความเคลื่อนไหวทางการเมืองตอนนี้ตนคิดว่า ก็เป็นเรื่องปรกติ ไม่น่าจะมีอะไร เพราะทุกคนก็ต้องคาดหวังกัน ส่วนมาถึงวันนี้แล้วอีกไม่กี่เดือนพรรคชาติพัฒนา ความพร้อมของพี่น้องประชาชนอยากรู้นั้น ตนก็คิดว่า เที่ยวนี้เรามีความพร้อม ตนก็มั่นใจ อยากให้พรรคชาติพัฒนาได้คัมแบ็ค คัมแบ็คจริงๆ เพื่อที่จะมาทำให้กับชาวโคราชและมาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เพราะจริงๆตอนนี้เป็นห่วงมากๆ เรื่องเศรษฐกิจ เพราะผลกระทบตรงนี้ตอนนี้เยอะมาก ไม่ใช่เกิดขึ้นที่เฉพาะประเทศมันเหมือนกับเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นเกือบทั่วโลก ผลกระทบจากโควิด จากภาวะสงคราม จากเงินเฟ้อ ฉะนั้นแต่ละประเทศก็ต้องขวนขวายในการที่จะหามาตรการที่เหมาะสมมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งในส่วนนี้ตนคิดว่า เมื่อมีการเลือกตั้งแล้วใครจะเป็นผู้ได้รับฉันทานุมัติจากพี่น้องประชาชนก็ยังไม่ทราบ
"ภารกิจที่สำคัญก็คือ เรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งในส่วนนี้พรรคชาติพัฒนาเรามีความพร้อม เรามีความมั่นใจ เพราะว่าเราได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ยุคสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นเรามีความเชื่อมั่นว่าเรามีบุคลากร มีนโยบายที่พร้อมที่จะรับใช้พี่น้องประชาชน ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าจะได้ให้โอกาสเรามากน้อยเพียงใด เราก็จะทำให้ดีสุด ส่วน จ.นครราชสีมา 16 เขต จะคัมแบ็กทุกเขตหรือไม่นั้น ตนคิดว่า เราก็อยากให้เป็นอย่างนั้น คือเราก็พยายาม อย่าง จ.นครราชสีมา หรือโคราช เราก็พยายามที่จะหาผู้สมัครที่ดีที่สุด และที่โคราชก็คงจะส่งครบทุกเขตเลย แต่จะได้กี่เขตอย่างไรนั้น ก็ต้องแล้วแต่พี่น้องประชาชนชาวโคราช ส่วนจะขอเกินครึ่งของทุกเขตของโคราชนั้นก็แล้วแต่พี่น้องประชาชน ยิ่งได้เยอะเราก็มีโอกาสทำงานให้พี่น้องประชาชนได้เยอะ" นายสุวัจน์ กล่าวทิ้งท้าย.