“ชัชชาติ” พร้อมรองผู้ว่าฯ กทม. ลงเรือตรวจแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมริมเจ้าพระยา 4 จุดฟันหลอ คาดเริ่มก่อสร้าง ส.ค.นี้ ขณะที่หลายเขตเตรียมพร้อมเฝ้าระวัง อำนวยความสะดวกประชาชน
วันที่ 27 ก.ค. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยลงเรือจากท่าเรือสี่พระยา เขตบางรัก ไปยังสะพานพระราม 3 โดยสำนักการระบายน้ำให้ข้อมูลการดำเนินการ
จากนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีแนวเขื่อนกันน้ำ 88 กิโลเมตร เป็นของเอกชน 8 จุด ตรงท่าเรือสี่พระยาก็เป็นจุดหนึ่งที่น้ำท่วมเวลาน้ำขึ้น เนื่องจากยังเป็นจุดฟันหลอ เพราะเป็นทางเข้าท่าเรือ มีคนเดินเข้า-ออก สำหรับแนวฟันหลอตอนนี้มี 23 จุด อยู่ฝั่งพระนคร 14 จุด ฝั่งธนบุรี 9 จุด บางจุดฟันหลออยู่ตรงบ้านพักอาศัย ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อาจทำความเสียหายได้เยอะ เพราะเป็นจุดที่น้ำทะลักเข้าไปได้ ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำรีบวางแผน อย่าประมาท
“ต้องมีคนเฝ้าระวังแต่ละจุดพร้อม ดึกดื่นก็ต้องมา ปัจจุบันยังมีจุดฟันหลอหลายจุดต้องระวัง ประมาทไม่ได้ ต้องเตรียมพร้อมน้ำอาจทะลักเข้ามาได้ น้ำขึ้นไม่สูงก็จริง แต่น้ำสามารถทะลักเข้ามาได้ ทุกจุดต้องมีคนรับผิดชอบ ช่วงน้ำทะเลหนุน น้ำขึ้นน้ำลง น้ำเหนือ ไม่ได้กังวลมากแต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ประมาทไม่ได้ พื้นที่เอกชนด้วย ทุกคนต้องช่วยกัน เห็นแก่ส่วนรวม นอกจากนี้ จะให้สำนักสิ่งแวดล้อมรีบจัดเก็บผักตบชวาโดยเร็วเนื่องจากมีอยู่ค่อนข้างเยอะมาก อาจมีปัญหากับการสัญจรของเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาได้”
...
ทางด้าน นายวิศณุ กล่าวเสริมว่า กรุงเทพมหานครเตรียมความพร้อมพร่องน้ำเรียบร้อย ที่มีข่าวว่ากรมชลประทานปล่อยน้ำเพิ่มมากขึ้น อยู่ที่ 1,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไม่ต้องกังวล ยังอยู่ในความสามารถที่กรุงเทพมหานครรับได้ ที่ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
สำหรับวันนี้ ผู้ว่าฯ กทม. และคณะ ดูงานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจุดฟันหลอ 5 จุด ดังนี้
1. บริเวณองค์การสะพานปลากรุงเทพ พื้นที่เขตสาทร ยาวประมาณ 150 เมตร
2. บริเวณบริษัท เจแฟค ซอยเจริญกรุง 80 เขตบางคอแหลม ยาวประมาณ 50 เมตร
3. บริเวณซอยเจริญกรุง 32 เขตบางรัก ยาวประมาณ 25 เมตร
4. บริเวณสุสานโปรเตสแตนต์ ซอยเจริญกรุง 72/5 เขตบางคอแหลม ยาวประมาณ 85 เมตร
5. บริเวณเจริญกรุง 30 อยู่ระหว่างการพิจารณาขอจัดสรรงบประมาณปี 2566
โดย 4 จุดแรก ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมปี 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับจ้าง คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือน ส.ค. 2565
ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำ ได้เตรียมการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากน้ำฝน น้ำหลาก และน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งมีศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยมีการประชุมหารือเพื่อประสานข้อมูลร่วมกับกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามจุดเสี่ยงน้ำท่วม จัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ สำนักการโยธา และสำนักงานเขต ได้จัดเตรียมยานพาหนะ เพื่อให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ รวมถึงติดขัดการเดินทางอยู่บนท้องถนนเมื่อเกิดฝนตกหนัก โดยเฉพาะในถนนเส้นหลักและซอยย่อยต่างๆ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการเดินทางและสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน ในส่วนของสำนักงานเขตที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดำเนินการ ดังนี้
เขตพระนคร มีพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง ที่ต้องดำเนินการเสริมกระสอบทราย จำนวน 3 จุด คือ ท่าเรือเทเวศร์ ชุมชนท่าวัง และชุมชนท่าเตียน ซึ่งได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
เขตดุสิต มีพื้นที่จุดเฝ้าระวัง จำนวน 5 จุด คือ ชุมชนวัดเทวราชกุญชร ชุมชนมิตตคาม บ้านญวน (สามเสน 13) ชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ ชุมชนสีคาม และท่าเขียวไข่กา จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงเป็นประจำ
เขตสัมพันธวงศ์ อยู่ระหว่างดำเนินการสร้างแนวเขื่อนแบบถาวรบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในส่วนที่เป็นแนวฟันหลอ จัดเรียงกระสอบทรายเป็นแนวกันน้ำ หรือเป็นแนวให้น้ำไหลเข้าบ่อพักระบายน้ำ ท่าเรือในพื้นที่ ได้แก่ ท่าเรือราชวงศ์ ท่าเรือเผยอิง และท่าเรือสี่พระยา จัดทำทางเดินสำหรับทางขึ้นลงท่าเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
เขตบางคอแหลม เตรียมความพร้อมของหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (BEST) พร้อมช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมหรือน้ำหนุนจากแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำที่ยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร โดยเสริมคันกั้นน้ำชั่วคราว
เขตยานนาวา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณชุมชนโรงสี (พระรามที่ 3 ซอย 64) หากระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง น้ำไหลเข้าท่วมภายในชุมชน จะเดินเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายออกจากพื้นที่
เขตคลองสาน เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำและเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องสูบน้ำ ซึ่งมีจุดเสี่ยงน้ำท่วม 2 จุด ได้แก่ จุดเสี่ยงน้ำท่วมโรงเกลือแหลมทอง และท่าเรือท่าดินแดง รวมถึงเฝ้าระวังชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ จำนวน 2 จุด คือ จุดที่ 1 ท้ายซอยเจริญนคร 29/2 จุดที่ 2 หลังตึกขาว (ท้ายซอยสมเด็จเจ้าพระยา 5)
เขตบางกอกน้อย จัดเตรียมกระสอบทราย หากกรณีมีเหตุฉุกเฉินเขื่อนมีรอยรั่ว พร้อมทั้งประสานกองทัพเรือ เพื่อเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน.