“พานทองแท้” ปล่อยคลิปชีวิต “ทักษิณ” บอกผิดที่ไม่เข้าสังคมอีลีท พอเข้าการเมืองกลายเป็นคนซื่อบื้อ ลั่นไม่ทุกข์ แม้ 16 ปี แล้ว บอกอยากกลับไทยชดเชย “คุณหญิงพจมาน” สั่งครอบครัวตายห้ามเผา

วันที่ 26 ก.ค. 2565 นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์คลิปวิดีโอ “Long distance call” เป็นภาพครอบครัวชินวัตร พร้อมบทสัมภาษณ์นายทักษิณ ที่ให้บอกเล่าเรื่องราวของนายทักษิณที่ใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว ระหว่างอยู่ที่ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยนายทักษิณ ระบุว่า หลายคนทราบเรื่องของตนตั้งแต่เด็ก หลานคอยถามทำไมไม่กลับบ้านไปด้วย เด็กวัยนี้ฉลาดจำได้ทั้งหมด ตนถือว่าความสุขอยู่ที่บ้าน ทำให้กระชุ่มกระชวยมีกำลังในการต่อสู้ เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า มีแผลในใจบ้างหรือไม่ที่ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า นายทักษิณ ตอบว่า ชีวิตที่ผ่านมาความโง่มาก่อนความฉลาด ผู้ดำเนินรายการถามว่าตอนที่รู้สึกว่าตัวเองโง่คือตอนไหน นายทักษิณ กล่าวว่า ตนอาจจะโง่เรื่องคน เพราะเป็นคนบ้านนอกชีวิตง่ายๆ พอมาอยู่กรุงเทพฯ ชีวิตก้าวกระโดด ผ่านสังคมกรุงเทพฯ น้อยไป สังคมของอีลีทน้อยไป เราไม่อยู่ในสังคมอีลีท แม้ฐานะเราจะเป็นอีลีทแต่แทนที่จะเข้าสังคมอีลีทแต่ไปเข้าการเมืองเลยกลายเป็นคนซื่อบื้อคนหนึ่ง เหมือนเราไม่รู้วิธีอยู่ในป่าแล้วถูกปล่อยเข้าไป บางอย่างใน yes มี no อยู่ซึ่งเราไม่เข้าใจ เพราะเราคิดว่าทุกคนจะเหมือนเราแต่ชีวิตของคนอีลีทเขาซับซ้อน เป็นสิ่งที่ตนต้องเรียนรู้แต่ไม่คิดเรียนรู้แล้วแก่แล้ว

...

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้เฮิร์ตแต่เสียดายตัวเองที่น่าจะเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองมากกว่านี้ ตนไม่เคยกลัวตายถูกลอบสังหารมา 4 รอบแต่รู้สึกเฉยๆ เป็นเรื่องที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ยอมรับมันไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ ตนรู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ในครอบครัวรู้ เราไม่อยากให้เขาไปเจอคนที่ไม่คิดดีกับเรา เจอแล้วจะได้ระวังตัว เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า อีก 20-30 ปี แคร์หรือไม่ที่วิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้าแล้วอาจไม่ทันเห็น นายทักษิณ กล่าวว่า แน่นอน ระหว่างที่เราอยู่ไม่รู้พระเจ้าจะเอาตัวเราไปเมื่อไหร่ แต่ระหว่างที่อยู่ทำตัวให้เป็นประโยชน์กับคนที่เรารักและรักเรา สำหรับคนที่ไม่รักเราทำให้รักเรายาก แต่คนที่อยู่ตรงกลางก็อยากให้เขาเข้าใจ ทุกวันนี้ตนไม่ได้มีอะไรเลย เป็นคนที่อยู่เมืองนอกกลับประเทศก็ไม่ได้ แต่มีคนที่รัก เวลารักลูกก็อยากไม่ให้เขาลำบากเหมือนตน ตอนสร้างตัวเองทุกอย่างบีบคั้นโดยเฉพาะเรื่องการเงิน แต่ตนเป็นคนขอกำลังใจกับครอบครัวมาตลอด อย่างอยู่เมืองนอกต้องโทรกลับบ้านทุกวันโทรหาลูก โทรหาคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นานๆ ก็ต้องคุยกับหลานกลัวหลานลืม

“การเมืองมันเป็น Zero Sum Game ถ้าเราสุขเขาจะทุกข์ ถ้าเราทุกข์เขาจะสุข ทำไมไปทุกข์เพื่อให้เขาสุข เราต้องสุขเพื่อให้เขาทุกข์ ถ้าเจอหน้าสัมภาษณ์ผมทีไรดูผมไม่ทุกข์ 16 ปี แล้วนะ ไม่ทุกข์ ชีวิตต้องดำเนินต่อไปคุณที่รักเราจะได้มีความสุขไปด้วย” นายทักษิณ กล่าว

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า เราอธิบายตัวเอง อธิบายครอบครัว อธิบายการเมืองหมดแล้ว เวลายืนมองกระจกกำลังเห็นใคร นายทักษิณ กล่าวว่า เห็นคุณหญิงพจมาน ตนสงสารคุณหญิงพจมาก ตนตัดสินใจกลับเมืองไทยเพราะว่าคุณหญิงพจมานรับภาระแทนตนไว้เยอะสงสาร เมื่อถามว่ามันจะถึงวันเปลี่ยนความรู้สึกสงสารออกจากใจได้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เมื่อตนกลับไปแล้ว ได้อยู่กับครอบครัวแล้วมันก็จบทุกอย่าง วันนั้นเมื่อตนกลับไปอยู่กับครอบครัวก็ต้องทำตัวให้แข็งแรงเพื่อชดเชยเวลาที่หายไป ใช้เทคโนโลยีช่วยเพื่อให้ตัวเองไม่บกพร่อง เมื่อถามว่าไม่ได้คาดหวังว่าหลานต้องต่อสู้ไปเป็นผู้นำประเทศ นายทักษิณ ตอบว่าไม่ เขาคิดเองเป็น เพียงแต่เราต้องการให้เราอยู่กับเขา รักและห่วงใยเขา มีกำลังใจเหมือนมีตาอยู่ด้วยตลอด ตนสั่งครอบครัวว่าตายไม่เผาให้เก็บร่างไว้ นี่คือสิ่งที่ตนต้องการให้การต่อสู้ของตน ให้ชีวิตตนเป็นอมตะของครอบครัวของลูกหลาน.