ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” จบยังไงรู้ล่วงหน้าแล้ว เสียง ส.ส.รัฐบาลยังแพ็กกันแน่นหนา ยิ่งซักฟอกงวดนี้ 3 พรรคหลัก พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ โดนชำแหละถ้วนหน้า ก็ถือว่ายกมือแลกโหวตกันไปไม่ต้องคิดอะไรมาก
วันที่ 23 ก.ค. เสียงโหวตไว้วางใจนายกฯและ 10 รมต.ผ่านชัวร์ ลุ้นแค่ใครคะแนนมากน้อย จมบ๊วย บู้บี้
เสียงเจี๊ยวจ๊าวพรรคเล็ก และการย้ายขั้วของพรรคเศรษฐกิจไทย ที่เคยถูกมองว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญ มาวันนี้รัฐบาลไม่ยี่หระให้ราคาอะไรแล้ว เพราะเสียงในมือเหลือเฟือแถมมี “งูเห่า” สแตนด์บาย
แต่ก็มี รมต.บางคนจิตตก กลัวคะแนนมาที่โหล่ กล้วยเลยหล่นเรี่ยราด
บรรดาพรรคเล็กช่วงนี้จึงคึกคักเกินเบอร์ ขยันออกมาตั้งข้อสงสัย รมต.คนนั้นที คนนี้ที ข่มขู่ชี้แจงไม่ดีไม่ยกมือให้ ทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้นำฝ่ายค้านยังไงยังงั้น

ฟากฝั่งฝ่ายค้านรู้ดีตียังไงรัฐบาลก็ไม่ตายทันที แต่เวทีซักฟอกหนนี้จำเป็นต้องขยี้ให้โคม่า หวังผลให้พรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้ไปตายหมู่วันหน้าคาสนามเลือกตั้ง
...
สงครามครั้งสุดท้ายเดิมพันกันที่คะแนนนิยม ฝ่ายค้านโชว์ห่วย ทำไม่ดี ก็เสียหายเองเหมือนกัน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดหัวได้เร้าใจ “รัฐบาล 608” ข้อหาโดยรวมเหมือนทิ่มหมัดใส่หน้า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่เป็นเป้าหมายหลักศึกซักฟอกหนนี้ ฝ่ายค้านวางขุนพลขยี้ไว้ถึง 30 คน นาน 2 วันครึ่ง
โดนจองกฐินเล่นหนักขนาดนี้ “บิ๊กตู่” มีหรือจะนิ่งเฉย ฟาดกลับถึงคนต่างแดน จน “โทนี่ ดูไบ” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต้องออกโรงโต้กลับทั้ง “บิ๊กตู่” และ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข
แรงมาก็แรงไป ยุทธศาสตร์ฝ่ายค้านเน้นตีหัวตัวใหญ่ ฝ่ายรัฐบาลก็เอาคืนตัวพ่อ

กระนั้นยุทธการ “สอยนั่งร้าน” ที่เป็นรายการไมเนอร์ สลับมาอภิปรายช่วงวันแรกๆ กลับฮือฮาเกินคาด โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ชำแหละ “เสี่ยโอ๋” นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ค่ายภูมิใจไทย รวมทั้ง “เสี่ยไก่” นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ จากค่ายประชาธิปัตย์ จนเสียอาการกลับบ้านแบบมึนงง
ทีมงานก้าวไกลกล่าวหา 2 รมต.ทำนองเดียวกัน ปมประโยชน์ทับซ้อน ใช้บริษัทนอมินี นายหน้าเข้ามารับงานกระทรวง ห้าวหาญฉะฉานบ่งบอกว่าทำการบ้านมาดี สมกับที่ซักซ้อมมาแรมเดือน ติวเข้มถึงเที่ยงคืนทุกวัน
แม้ข้อมูลจะเป็นของเก่าเรื่องเดิม แต่ก็อัปเดตล้วงลึก เล่นเอาตกใจจนคาดไม่ถึง โดยเฉพาะ รมต.ทั้ง 2 ราย ไม่สามารถตอบได้ในทันที ต้องกลับไปตั้งหลักทำการบ้าน แล้วค่อยมาชี้แจงวันรุ่งขึ้น
สุดท้าย “เสี่ยโอ๋” ก็ตอบเลี่ยงๆ สั้นๆ บริษัทนอมินีขายต่อให้เพื่อนไปตั้งแต่ปี 2561 เจ้าของใหม่จะเอาไปทำอะไร ได้งานที่ไหน ไม่รู้ไม่เกี่ยวแล้ว
เรื่อง รฟท.ก็ชี้แจงตามสเต็ป ทุกอย่างเดินตามกระบวนการ เรื่องอยู่ในขั้นตอนของศาล อย่าไปก้าวล่วง
แต่ที่ถูกจับโป๊ะหน่อย ก็ปมงบทางหลวงที่ถูกงัดหลักฐานมาแฉว่ากระจุกตัวใน จ.บุรีรัมย์ “เสี่ยโอ๋” เลยยกตัวอย่างการกระจายไปที่จังหวัดภาคใต้มายัน แต่ทำไปทำมาก็คือจังหวัดเครือข่ายค่ายสีน้ำเงินทั้งนั้น
ต้องบอกว่าเสียฟอร์ม ตั้งแต่ไม่ตอบคำถามทันที พอวันถัดมาก็ตอบแนวเลี่ยงบาลีอีก
ยึดหลักการไม่ต้องชี้แจงเยอะ เพราะถึงยังไงมือ ส.ส.ก็มีเยอะกว่า

“เสี่ยไก่” ก็ออกทรงเดียวกับ “เสี่ยโอ๋” เป๊ะ สะท้อนอาการย่ามใจ คิดว่าฝ่ายค้าน “บ่มิไก๊” สุดท้ายหงายหลังตึง พรรคก้าวไกลซุ่มเงียบมาปล่อยหมัดฮุก ยกแรก รมต.ถึงกับลงไปนอนนับ 8
น่าสนใจว่าข้อมูลพิฆาตนายกฯยกสุดท้าย จะเด็ดขาดขนาดไหน
เหลียวดูพรรคใหญ่ฝ่ายค้าน เพื่อไทย ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่ ขุนพลคนรุ่นใหม่ทำหน้าที่อภิปรายได้ดีไม่แพ้กัน
เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้รับโอกาส ติดขัดปัญหาการบริหารจัดการภายใน ที่ยังไม่พัฒนาก้าวทันโลก ไม่ยึดหลักวางคนให้เหมาะสมกับงาน ค่าของคนยังอยู่ที่เป็นคนของใคร
เฟ้นขุนพลอภิปรายเฉพาะทีมงาน เด็กในสังกัดตัวเอง
สุดท้ายมีประเด็นตกค้างหามืออภิปรายไม่ได้ ค่อยมาควานหาคนจับยัดให้พูด
ทรงเลยออกมาไม่แน่น ไม่เป๊ะปัง เหมือนพรรคเพื่อนบ้านก้าวไกล
แต่ต้องให้ความเป็นธรรม เวทีซักฟอกยังผ่านไปแค่ครึ่งทาง “รื้อนั่งร้าน”
รอจับตาดูปฏิบัติการ “เด็ดหัว” ไฮไลต์ปั่นแต้มแลนด์สไลด์!!!
ทีมข่าวการเมือง