ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก “เทพไท-มาโนช เสนพงศ์” สองพี่น้องนักการเมืองคนดังเมืองคอน คนละ 2 ปี ไม่รอลงอาญา แถมตัดสิทธิทางการเมืองคนละ 10 ปี คดีทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 57 มีการจัดเลี้ยงหัวคะแนน ศาลเห็นว่าแม้ตัวผู้สมัครไม่ได้ทำผิดแต่ให้นอมินีจ่ายเงินแทน หลังฟังคำพิพากษาจำเลยผู้น้องถึงกับปล่อยโฮร่ำไห้ทั้งคู่คอตกถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที ด้าน “พิชัย บุณยเกียรติ” โจทก์ขอบคุณศาลให้ความเที่ยงธรรม ถือเป็นบรรทัดฐานให้คดีโกงการเลือกตั้งอื่นๆ และให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย

ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ 174/2562 หมายเลขแดงที่ 485/2563 มีนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พี่ชายนายมาโนช จำเลยที่ 2 คดีกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทพไทและนายมาโนช เดินทางโดยรถโตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ข-4480 ปทุมธานี มาถึงศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในเวลา 09.15 น. ท่ามกลางกองเชียร์ที่อยู่บริเวณหน้าศาลมาให้กำลังใจจำนวนมาก ทั้งคู่เดินขึ้นศาลเข้าไปรอในห้องพิจารณาคดีที่ 9 ตำรวจศาลใส่กุญแจมือจำเลยทั้งสองคนก่อนที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาใช้เวลาประมาณ 30 นาที ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้จำคุกนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่1 และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิทางการเมืองคนละ 10ปี

...

คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์โกงการเลือกตั้งอีกคดีหนึ่ง จุดเริ่มต้นมาจากการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นระหว่างนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กับนายมาโนช เสนพงศ์ น้องชายนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ผลการเลือกตั้งปรากฏว่านายมาโนชคว้าชัยชนะ ต่อมานายพิชัยเข้าร้องเรียนกับ กกต.ว่า นายมาโนชและนายเทพไท ทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง มีการจัดเลี้ยงหัวคะแนนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราชเมื่อปี 2556 หลังสอบสวนพิจารณาแล้ว กกต.มีคำสั่งให้ใบแดงนายมาโนช พร้อมทั้งเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีนายมาโนชและนายเทพไท แต่ภายหลังคดีล่าช้าในชั้นสอบสวนจนถึงชั้นอัยการ นายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะผู้เสียหายโดยตรงตัดสินใจยื่นฟ้องคดีต่อศาลด้วยตัวเอง

กระทั่งวันที่ 28 ส.ค.63 ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดจริง พิพากษาจำคุกนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และนายเทพไทเสนพงศ์ จำเลยที่ 2 คนละ 3 ปี แต่ลดโทษให้ 1 ใน3เหลือจำคุกคนละ 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี จำเลยทั้งสองยื่นขอประกันตัวและยื่นอุทธรณ์สู้คดี ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยทั้ง 2 คน เป็นเวลา 2 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี หลังคำพิพากษา จำเลยทั้งสองได้รับการประกันตัวระหว่างรอฎีกา โดยวางหลักทรัพย์คนละ 1.5 ล้านบาท และยื่นสู้คดีชั้นฎีกา กระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษายืนดังกล่าว

ภายหลังทราบผลการพิพากษา นายพิชัย บุณยเกียรติ โจทก์เผยว่า ขอบคุณศาลฎีกาที่ให้ความเที่ยงธรรม คำพิพากษานี้จะเป็นบรรทัดฐานคดีการเลือกตั้งอื่นๆด้วย ถ้านักการเมืองมีความสุจริต มีจรรยาบรรณใกล้เคียงกับสถาบันตุลาการ เมืองไทยจะเจริญขึ้นมาก วันนี้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นต้องขอบคุณรัฐบาลด้วยที่ได้ปรับปรุงกฎหมายของ กกต.และกฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการปราบโกงสามารถจับคนที่ทำผิดได้จริง ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าตนยืนอยู่ในระบอบประชาธิปไตย เคารพกฎหมายและยืนอยู่ในความสุจริต ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นระบอบการเลือกตั้งต่อไป ถ้าได้พัฒนากฎหมายประเทศไทยได้ขนาดนี้เชื่อว่าการเมืองจะดีขึ้นนักการเมืองเข้าไปไม่กอบโกยเพราะตอนเข้ามาไม่ต้องซื้อเสียง ศาลฎีกาเขียนบรรยายคำพิพากษาในภาพรวมวันนี้ว่า แม้ว่าตัวผู้สมัครไม่ได้ทำความผิดเอง แต่ใช้นอมินีไปจ่ายเงินแทน ศาลสามารถที่จะสืบและเชื่อมั่นพยานหลักฐานนำไปสู่การทำผิดได้

นายสุวิทย์ ศิริวุฒิ ทนายความโจทก์ที่เข้าร่วม ฟังคำพิพากษา เผยว่า หลังศาลอ่านคำพิพากษา นายเทพไทมีสีหน้าเคร่งเครียดเรียบเฉย แต่นายมาโนช ถึงกับร้องไห้ คดีนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญของนักการเมืองรุ่นหลังที่ต้องยึดถือและปฏิบัติตามกฎหมายที่ตราไว้ บางคนคิดทำผิดกฎหมายแล้วสร้างนอมินีไว้คิดว่าตัวเองจะพ้นผิด สิ่งเหล่านี้เป็นบทเรียนอย่างชัดเจนในคำพิพากษา ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ การจัดเลี้ยง เมื่อสร้างนอมินีขึ้นมาแล้วไปทำแทนยังไงก็ไม่พ้นผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายเทพไทและนายมาโนช หลังศาลอ่านคำพิพากษาแล้วได้ออกหมายขังจำเลยทั้งสองทันที จากนั้นตำรวจศาลควบคุมตัว ทั้งคู่ไปยังห้องขังของศาล เพื่อรอเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำรถมารับรวมกับผู้ต้องขังคนอื่นๆ ส่งเข้าเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชในช่วงเย็นต่อไป

ที่รัฐสภา นายสายัณห์ ยุติธรรม นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ร่วมกันแถลงว่า ควรเอาตัวอย่างคดีที่เกิดขึ้นเป็นกรณี ศึกษาของนักการเมือง ต้องปฏิบัติอย่างไรในการรณรงค์ การเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมายอีก กระบวนการยุติธรรม ในภาครัฐโดยเฉพาะอัยการ ควรรีบเร่งสั่งคดีเพื่อให้ ผลทางคดีออกมาโดยเร็ว จะได้เป็นบรรทัดฐานในการ ทำงานต่อไป การเลือกตั้งทุกระดับต้องใช้งบฯของรัฐ ดังนั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจัดการเลือกตั้งซ่อม องค์กรกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องต้องรีบเรียกคืน ความเสียหายที่เป็นเงินภาษีประชาชนให้กลับคืนมา สู่รัฐ และเป็นบรรทัดฐานการทำงานทางการเมืองต่อไป