ประเทศไปไม่ไหวแล้ว ต้องเลือกตั้ง มันจะค่อยๆดีขึ้น นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อและ ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา ย้อนถึงนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯที่เคยระบุถึงความจำเป็นรับร่างรัฐธรรมนูญ 60 (รธน.) ทั้งที่รู้ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แต่พวกผมไม่รับ เพราะเลือดร้อน

นายนิกร หยิบยกถึงเหตุการณ์ในช่วงที่มีกระแสต่อต้านร่าง รธน.60 ขึ้นมา เพื่อสะท้อนมุมคิดถึงอนาคตการเมืองไทย ในจังหวะที่เริ่มนับถอยหลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ตาม รธน.ฉบับแก้ไขที่กำหนดให้มี ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ผ่านบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

โดยรัฐสภากำลังออกเครื่องมือรองรับรัฐบาลอยู่ครบเทอมหรือยุบสภา เครื่องมือที่ว่าคือร่าง พ.ร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่เข้าสู่สภาในสัปดาห์นี้

พร้อมชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนเลือกผิดหรือถูก ก็เป็นการพัฒนา เป็นการเรียนรู้แล้วก็จะจัดการกับนักการเมือง พรรคการเมืองเอง

การยึดอำนาจอย่าเข้ามาแทรก มันไม่ดีขึ้นแน่

ฉะนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาก็เตรียมนโยบายพร้อม เน้นพูดแล้วสามารถทำได้ ตามท่านบรรหาร หลักการของเราเป็นปฏิบัตินิยม

ดูครอบคลุมทุกเรื่อง อาทิ ด้านสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ทำได้ดี เรายังมีนโยบายดูแลความเป็นอยู่ของเกษตรกร เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของเราอยู่ภาคกลาง การพัฒนาเมืองก็มีความถนัด

ที่สำคัญการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้ชิงธงเป็นนายกฯกับใคร ตั้งเป้าได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 25 คน เพื่อมีสิทธิ์เสนอชื่อแกนนำของพรรคเป็นนายกฯ มันเป็นหลักการและเกียรติภูมิของพรรคที่เคยใหญ่ มีนายกฯถึง 2 คน

ทุกพรรคเตรียมลงสนามแล้ว แต่กฎหมายลูก 2 ฉบับล่าช้า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (กมธ.)ได้หารือกันอย่างไรให้เสร็จทันใช้ก่อนรัฐบาลอยู่ครบเทอมหรือนายกฯยุบสภา นายนิกร ในฐานะเลขานุการกมธ.บอกว่า ได้เตรียมการไว้แล้ว

...

กมธ.ทุกคนแบ่งหน้าที่กันชี้แจงในแต่ละประเด็น มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวหลัก เพราะเคยเป็น กมธ.แก้ไข รธน.

ถ้ากฎหมายไม่เสร็จมันจะยุ่ง ถ้าใครไม่อยากให้ประเทศมันยุ่งอยู่แล้วก็อย่าไปเพิ่มมันเลย ประชาชนลำบาก ขอให้ผ่านไปเหอะ จะได้มาช่วยแก้ปัญหาของประชาชนและประเทศ

แต่ปมร้อนสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อยังไม่จบ ระหว่างหารด้วย 100 กับหาร 500 ในชั้นวาระ 2-3 ผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร นายนิกร บอกว่า ขอยกย่องทีม “หมอระวี” นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ในฐานะ กมธ. เขาสู้สุดชีวิตเหมือนกัน

ตั้งแต่เป็นตัวแทนของพรรคเล็กเข้าเป็น กมธ.ผ่านโควตา ครม. 1 คน ก่อนหน้านั้นก็ต่อสู้ตั้งแต่แก้ไข รธน.

ตอนนั้น พรรคพลังประชารัฐก็เสนอร่างแก้ รธน. แม้ถูกตีตก แต่ขอโฟกัสหลักการเป็นบัตร 2 ใบ ใช้การคำนวณเอาคะแนนแต่ละพรรคมาร่วม หารด้วย 100

ร่างพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรค ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์-ชาติไทยพัฒนา ยื่นทั้งหมด 13 ร่าง ซึ่งในจำนวนนั้นประชาธิปัตย์เป็นคนร่างแก้ไขการเลือกตั้ง แก้มาตรา 83 และ 91 แล้ววุฒิสภาก็ให้ความเห็นชอบร่างนี้เกินกว่า 84 เสียง

ปัญหาคือขอแก้ไข 2 มาตรา แล้วมีอีก 3 มาตราที่เกี่ยวเนื่องกัน ก็มีการเสนอแก้ แต่มีกระแสไม่ให้แก้ รธน.เกินลงกาหรือแก้เกินหลักการที่กำหนด

สุดท้ายต้องตัดมือเพื่อรักษาชีวิต ถอนชนวนไม่แก้มาตราที่เกี่ยวเนื่อง เพราะไม่เป็นสารัตถะหลัก เป็นแค่ไส้ติ่ง เดี๋ยวตอนผ่าไปติดเชื้อมันบานปลาย แล้วมันมีปัญหาทำให้ล่วงทั้งฉบับ ก็เอาไว้ เพราะคิดว่าไม่มีผลแล้ว

หลักการมาตราที่เป็นแค่ไส้ติ่ง คือ “คะแนนพึงมี” หรือ “ส.ส.พึงมี”

ที่พรรคเล็กยกขึ้นมาเป็นสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องหาร 500

“พึงมีมันไปพิงกับมาตรา 91 ท่อนล่างที่ตัดทิ้งไปแล้ว ซึ่งเป็นหัวใจ มีแต่ตัวและแขนเหลืออยู่ แล้วจะใช้ได้อย่างไร เราถึงกล้าเอาไว้

ยังพูดกันถึงขั้นเวลาแก้ไข รธน. ครั้งใหญ่ต้องตัดมาตราที่เกี่ยวเนื่องทิ้ง เพราะไม่มีประโยชน์ ไม่มีผล แต่ข้อนี้เป็นข้อเดียวที่ถูกยกมาอ้างในการต่อสู้

อีกข้อ หลักการคะแนน ตกน้ำตาม รธน.40 ก็ไม่ได้เอามาใช้ เราใช้ตามแบบปี 54 ชัดเจน ทั้ง 2 ประ เด็นที่ยกมาต่อสู้ในความเห็นส่วนตัวที่เป็นเลขานุการแก้ รธน. ครั้งที่แล้ว เห็นว่าไม่มีผล

ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมาถาม ผมก็ต้องยืนว่าหาร 100 เพราะตอนพิจารณาได้เอากฎหมายลูกปี 54 จาก กกต.มาดู เพื่อยกร่างตามนั้นทั้งหมด ทุกอย่างมีที่มาที่ไป

ขอยืนยันมันเป็นเจตนารมณ์หลักของ รธน. ในความเห็นของผมถ้าไปหาร 500 เมื่อไหร่ จะมีปัญหาขัด รธน.แน่”

แม้วันนี้พรรคเล็กเคลื่อนไหวต่อสู้อย่างเข้มแข็ง

แต่เราต้องยืนอยู่ที่ถูกต้อง ผมอยู่ชาติไทยพัฒนา เป็นพรรคขนาดกลางค่อนข้างเล็ก แต่เป็นพรรคเก่าแก่ ก็ต้องพยายามทำนโยบายให้ดี เพื่อให้ประชาชนเลือก

ความจริงจุดนี้เป็นข้อได้เปรียบของพรรคเล็ก ประชาชนสามารถลงคะแนนให้จากทุกแห่งทั่วประเทศ รธน.ฉบับเดิมต้องส่งลงเขต ไม่เช่นนั้น ประชาชนลงคะแนนให้ไม่ได้

ตรงนี้ที่ต้องยืน แม้ไม่ได้เปรียบก็ต้องยืนเอาหลักการที่ถูกต้อง ซึ่งดีกว่าสัดส่วนผสมแบบคราวที่แล้วแน่ๆ

พรรคเล็กๆ นำโดย “หมอระวี” นำไส้ติ่งของหลักการมาเคลื่อนไหวอย่างมีความหวัง ตอนนี้ในรัฐสภามีการพูดถึงประเด็นนี้อย่างไรบ้าง นายนิกร บอกว่า ในรัฐสภาต้องดูองค์ประกอบในการลงคะแนน

การลงคะแนนครั้งนี้ไม่ใช้เสียง 1 ใน 3 ของวุฒิสภา แต่ใช้เสียงข้างมากในรัฐสภา ฉะนั้นขอชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้จากร่างแก้ รธน.เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งมี 4 ร่าง

ร่างที่ 1 ครม.ของรัฐบาลหาร 100 จริงๆ เป็นร่างของ กกต.ที่ยื่นผ่าน ครม. ซึ่งเป็นร่างหลักในการพิจารณา

ร่างที่ 2 ของพรรคเพื่อไทย หาร 100 ร่างที่ 3 พรรค ร่วมรัฐบาล หาร 100 และร่างที่ 4 พรรคก้าวไกล หาร 100

“ไม่ว่าใครพูดกันอย่างไร คำถามคือ ร่างกฎหมายทั้งหมดมีหลักการเดียวกัน หลักการอื่นที่หาร 500 ไม่มี ถ้าโหวตหาร 500 ไปเอาหลักการมาจากไหนมา ร่างหลักของรัฐบาลจะไปอยู่ตรงไหน

ตรงนี้จะเป็นประเด็นต่อเนื่องไปอีก พอผ่านสภาวาระ 2/1 จำเป็นต้องส่งกฎหมายกลับไปที่ กกต. ร่างของ กกต.ที่เสนอผ่าน ครม. ก็หาร 100 ถ้าเราโหวต 500 แล้ว กกต.จะอยู่อย่างไร

สมมติมีมติลงคะแนน 500 ไป กกต.ย่อมใช้อำนาจส่งกลับสภา ใช้เวลา 30 วัน ให้แก้กลับ ไปเหมือนที่ กกต.เสนอไปอีก มันก็กลับไปที่ 100 อยู่ดี

หาก กกต.กลับไปที่ 500 เอาหลักการไหนมา อาจมีคนไปยื่นเอาผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157 ต่อไปได้

รวมถึงสมาชิกรัฐสภา ถ้ารู้อยู่แล้วว่าหาร 500 ขัด รธน. แต่ยังโหวตเพื่อผลประโยชน์ต่อพรรคตนเอง มันพันกับผลการเลือกตั้ง ย่อมเข้าข่ายมีส่วนได้เสีย ก็อาจมีคนยื่นเอาผิดตาม ม.157 ได้”

ขณะเดียวกัน สาระที่สำคัญกว่าทุกเรื่อง ตามเจตนารมณ์ รธน. และตามหลักกฎหมาย เป็นทางนิตินัย

แต่พฤตินัยสูตรหาร 500 คำนวณไม่ได้ ใช่ไม่ได้กับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ต้องใช้สูตรหาร 100 เท่านั้น

แต่อย่างที่บอกตราบใดที่สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ตามที่ “หมอระวี” พูด ท่านสู้มาหลายสมรภูมิแล้วก็ต้องเคารพท่าน ตอนนี้เรายังไม่นับหรอก เพียงแต่รอให้จบก่อน

ตอนนี้ในรัฐสภามีการอ้างว่าตึกไทยคู่ฟ้าส่งสัญญาณดันสูตร 500 แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้า พปชร. ส่งสัญญาณดันสูตร 100 นายนิกร บอกว่า สิ่งที่พูดกันเป็นเพียงเสียงลือเสียงเล่าอ้าง อย่าไปฟังมาก

เชื่อว่ามันเป็นแค่กระแสการเมืองเคลื่อนไหวไปมาเท่านั้น

เชื่อว่า ส.ส. 500 คน ส.ว. 250 คน คงโหวตไปตามสิ่งที่ควรเป็น

พรรคร่วมรัฐบาล-เพื่อไทย-ก้าวไกลรวมกันจะแพ้หรือในสภา

แต่หากมีการโหวตสวนก็ต้องให้เหตุผลกันเยอะเหมือนกัน.

ทีมการเมือง