วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เรียกประชุมสภาความมั่นคงฯ เพื่อพิจารณา แผนรับมือความมั่นคงด้านพลังงานและอาหาร ที่นายกฯมอบให้ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปช่วยวางแผนแก้ปัญหา วิกฤติราคาพลังงานแพง ที่ กระทรวงพลังงาน แก้ปัญหาไม่ได้ และ วิกฤติอาหารแพง ที่ กระทรวงพาณิชย์ แก้ปัญหาไม่ได้ เลยต้องให้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ แก้ปัญหาแทน เมื่อ นายกฯเชื่อมั่นในฝีมือทหารมากกว่านักการเมือง ผมก็ขอเสนอให้นายกฯตั้ง “สภาความมั่นคงทางเศรษฐกิจแห่งชาติ” ไปเลย ให้ทหารวางแผนแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจแทน ครม.เศรษฐกิจไปเลย
การประชุมวันนี้ เลขาฯ สมช. บอกว่าได้เชิญ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด เข้าร่วมประชุมด้วย โดย เลขาฯ สมช.จะเป็นผู้เสนอแผนความมั่นคงด้านพลังงานและอาหารให้ สมช.พิจารณา ก็ไม่รู้ท่านรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงจะทำหน้ากันอย่างไร
พล.อ.สุพจน์ เปิดเผยถึง แผนความมั่นคงด้านพลังงานและอาหาร ที่จะเสนอต่อ สมช.ในวันนี้ว่า สมช.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมแล้ว 2 ครั้ง รวมทั้ง สภาอุตสาหกรรมฯ สภาหอการค้าฯ สมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเรื่อง พลังงานที่ไปกระทบกับเรื่องโลจิสติกส์หรือการขนส่งเป็นหลัก ไปกระทบเงินเฟ้อทำให้ราคาสินค้าทุกอย่างสูงขึ้น เรื่องนี้แม้ สมช. จะไม่เชี่ยวชาญ แต่เราไม่ได้ทำงานคนเดียว ได้พบกับ รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจทุกกระทรวง เพื่อขอความเห็นและรับทราบปัญหา และเชิญหน่วยงานเหล่านั้นมาพูดคุย
ฟัง เลขาฯ สมช. ให้สัมภาษณ์แล้วรู้สึกว่า นายกฯกำลังไม่เชื่อมั่นทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประชาชนเดือดร้อนมาหลายเดือนแล้ว แต่รัฐมนตรีแก้ปัญหาไม่ได้ จึงต้องพึ่งบริการของ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำงานแทน แล้วให้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจทุกกระทรวง มานั่งฟังแผนแก้ปัญหาจาก สมช.เพื่อรับแผนไปปฏิบัติอีกทอด ไม่รู้จะเป็นรัฐมนตรีไปทำไม
...
พล.อ.สุพจน์ เลขาฯ สมช.บอกว่า แผนที่จะเสนอในที่ประชุมสภาความมั่นคงฯวันนี้ ครอบคลุมทั้ง ปัญหาพลังงาน อาหาร สินค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเปราะบางที่ต้องพิจารณาเป็นการเร่งด่วน เพราะดูแล้ว ภาคเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากเรื่องพลังงานเป็นอันดับแรก ส่งผลกระทบถึงราคาสินค้าทั้งหมด กระทบชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน สมช.ประเมินสถานการณ์แล้วว่า จะกระทบตามห้วงเวลา 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปีข้างหน้าอย่างไร และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมการรองรับอย่างไร โดยคาดว่ามาตรการที่ออกมาสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที
เมื่อแผนทั้งหมดผ่านที่ประชุม สมช.แล้ว ก็จะเสนอ ครม.ต่อไป เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรมและกระทรวงต่างๆ อาจจะมีการ ตั้งกลไกพิเศษเฉพาะกิจขึ้นมาทำหน้าที่ โดย มีผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ ก็เป็นไปได้ พล.อ.สุพจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สรุป
ก็อย่างที่ผมเรียนไปตั้งแต่ต้น เมื่อ นายกฯไม่เชื่อมั่น ครม. เศรษฐกิจ ก็ตัดสินใจตั้ง “สภาความมั่นคงทางเศรษฐกิจแห่งชาติ” ไปเลย ปฏิวัติเงียบไปเลย และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็นั่งเป็น ประธาน สมศช. มีเลขาคู่ใจ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เป็น เลขาธิการสภาความมั่นคงทางเศรษฐกิจแห่งชาติ อีกตำแหน่ง เหมือนโครงสร้าง ศบค. ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชนแทน ครม.เศรษฐกิจ ที่บางกระทรวงเอาแต่ต่อยอดเศรษฐกิจเจ้าสัวและพรรคพวก โดยไม่สนใจปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนและความสงบสุขของบ้านเมือง
ในขณะที่ สินค้าอาหารมีราคาแพง ประชาชนเดือดร้อน กลับมีเรื่องไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น ข้าวไทยขายไม่ออก ทั้งที่ เกิดวิกฤติราคาอาหารแพงทั่วโลก กระทบไปถึง ชาวนา ทำให้ราคาข้าวในประเทศตกไปด้วย
ดังนั้น ปัญหาใหญ่ที่สุดของไทยที่ต้องแก้ไขเร่งด่วนอีกเรื่อง ก็คือ ปัญหาผู้นำ เป็นเรื่องที่ สมช. ควรจะนำไปพิจารณาในการแก้ปัญหาด้วยนะครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”