"ประวิตร" เปิดประชุมน้ำบาดาล เผยเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิตภาคอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐเก็บรายได้ค่าน้ำบาดาลปีละกว่า 1,600 ล้าน
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า เป็นประธานเปิดการประชุมสร้างภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการน้ำบาดาลภายใต้แนวคิดน้ำบาดาลเพิ่มมูลค่าพัฒนาเศรษฐกิจไทย มีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และคณะจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมใช้น้ำบาดาลในกระบวนการผลิต เข้าร่วม ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีธุรกิจภาคอุตสาหกรรมจำนวนมาก มีการใช้น้ำบาดาลในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นหน่วยงานหลักที่กำกับ ดูแลการประกอบกิจการน้ำบาดาลจึงต้องเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการประกอบกิจการน้ำบาดาล ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) น้ำบาดาล พ.ศ.2520 รวมถึงเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาลอย่างสมดุลและยั่งยืนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งการประชุมในวันนี้ ขอให้หน่วยงานทุกภาคส่วนได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดสามารถประกอบกิจการน้ำบาดาลได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ถูกต้องตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาลฯ ให้ผู้ประกอบกิจการน้ำบาดาลภาคเอกชนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยก้าวผ่านยุคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยภาคอุตสาหกรรมไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีความคิดสร้างสรรค์และภาคบริการภายใต้วิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
...
นายจตุพร กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลการประกอบกิจการน้ำบาดาลตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาลฯ จึงจัดการประชุมสร้างภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการน้ำบาดาลครั้งนี้ โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำบาดาลในกระบวนการผลิตรวมทั้งสิ้นกว่า 1,200 ราย เข้าร่วม
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า ประเทศไทยมีบ่อน้ำบาดาลมากกว่า 200,000 บ่อ แบ่งเป็นบ่อราชการ 82,000 บ่อ และบ่อเอกชน 120,000 บ่อ มีปริมาณการใช้น้ำบาดาลปีละกว่า 14,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนบ่อน้ำบาดาลได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อใช้ประกอบกิจการในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมีมากกว่า 31,000 บ่อ มีสัดส่วนการใช้น้ำบาดาลปีละกว่า 380 ล้านลูกบาศก์เมตร ภาครัฐสามารถจัดเก็บรายได้ค่าใช้น้ำบาดาลปีละกว่า 1,680 ล้านบาท ซึ่งน้ำบาดาลถูกนำไปใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมีการใช้น้ำบาดาลเป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็นจำนวนมาก.