รองโฆษกรัฐบาล เน้นย้ำกำหนดวันโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของแต่ละกลุ่ม ย้ำ บางอย่างถอนเป็นเงินสดและสะสมเดือนต่อไปได้ด้วย

วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการกำหนดวันโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ของกรมบัญชีกลาง ซึ่งจากเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป จะเป็นดังนี้

  • ทุกวันที่ 1 ของเดือน

กรมบัญชีกลางโอนเงิน วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาท ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (กรกฎาคม-กันยายน 2565) ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล) วงเงินดังกล่าวไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป 

  • ทุกวันที่ 15 ของเดือน

กรมบัญชีกลางโอนเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50/100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564-กรกฎาคม 2565) จะได้รับการโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน 2565) ซึ่งสามารถถอนเป็นเงินสด และสะสมในเดือนถัดไปได้

  • ทุกวันที่ 18 ของเดือน

กรมบัญชีกลางโอนเงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนเกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรเป็นผู้ชำระเอง) ซึ่งสามารถถอนเป็นเงินสด และสะสมในเดือนถัดไปได้

...

  • ทุกวันที่ 22 ของเดือน

กรมบัญชีกลางโอนเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 ต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ) สามารถถอนเป็นเงินสด และสะสมในเดือนถัดไปได้

“รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญต่อการช่วยเหลือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมกรณีเป็นผู้มีรายได้น้อยที่เป็นผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้ที่เป็นคนพิการ และรัฐบาลอยู่ในขั้นตอนการเตรียมโอนเงินช่วยเหลือพิเศษแก่ผู้สูงอายุ 10.9 ล้านคน เป็นรายเดือน ระยะเวลา 6 เดือน เพิ่มจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เฉลี่ยรายละ 100-250 บาท ตามช่วงอายุ กรมบัญชีกลางคาดจะเริ่มการโอนในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้แน่นอน”