ศบค. ห่วงปอดอักเสบสูงขึ้น สมุทรปราการ อัตราครองเตียงระดับ 2-3 เกิน 20%
30 มิ.ย. 2565 15:16 น.
ช่วงสำคัญเปลี่ยนผ่าน ห่วงผู้ป่วยปอดอักเสบทิศทางสูงขึ้น ขณะสมุทรปราการ อัตราครองเตียงระดับ 2-3 เกิน 20% ย้ำประชาชนยังยึดมาตรการส่วนบุคคล ส่วนจะปรับเพิ่มหรือลดรอผลประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 8 ก.ค.
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 มิ.ย. 2565 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ปัจจุบันมีการติดตามการรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งผู้ป่วยที่เข้าระบบการรักษา ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของการเปลี่ยนผ่านจากการเป็นโรคระบาดระดับทั่วโลก และที่ ศบค.ชุดเล็ก เป็นห่วงคือผู้ป่วยปอดอักเสบที่มีทิศทางสูงขึ้น แต่ก็ยังเป็นไปตามการคาดการณ์ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปลดล็อกมาตรการสวมหน้ากากที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น และการเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ 31 จังหวัด ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางกระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์สถานการณ์ว่าอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อหรือผู้เข้ารับการรักษาในระบบเพิ่มขึ้นได้
แต่ตัวเลขที่ ศบค.ชุดเล็ก ให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือจะต้องให้อยู่ในเกณฑ์ที่ระบบสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นอัตราครองเตียง หรือศักยภาพของบุคลากรในแต่ละพื้นที่ที่จะยังสามารถรองรับได้ ซึ่งปัจจุบันอัตราครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ 9.9% แต่จะมีเฉพาะบางจังหวัดใหญ่ๆ เช่น สมุทรปราการ มีอัตราครองเตียงระดับ 2-3 สูงเกิน 20% แต่ยังไม่เกิน 25% ที่กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ยังต้องขอความร่วมมือกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ส่วนการผ่อนคลายมาตรการถอดหน้ากากอนามัย เรียกว่าเป็นการผ่อนคลายโดยความสมัครใจบนพื้นฐานที่มียังความเสี่ยงอยู่แต่ยอมรับได้ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนยังตามมาตรการส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด ทั้งการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ และแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมากขึ้น แต่ประชาชนต้องติดตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแต่ละพื้นที่ด้วย เพราะอาจจะมีความแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ จะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 8 ก.ค. 2565 จะมีการนำเสนอมาตรการต่างๆ รวมทั้งทบทวนมาตรการที่ประกาศไปแล้ว ส่วนจะมีการปรับลดหรือเพิ่มอย่างไรขอให้ติดตาม
“แต่คงต้องเน้นย้ำว่าจำเป็นจะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป การเปลี่ยนผ่านคงไม่ได้เป็นการปรับเปลี่ยนแบบก้าวกระโดด แต่การปรับลดมาตรการขอให้พี่น้องประชาชนพิจารณาแต่ละพื้นที่เป็นหลัก และคงต้องดูในรายละเอียดที่กรมอนามัยประกาศไว้ด้วย เช่น สถานประกอบการยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting มีการประเมินตนเอง กำหนดให้พนักงานตรวจ ATK ฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน การที่พวกเราร่วมมือกันทำตามมาตรการเหล่านี้ได้อย่างเข้มข้น จะนำไปสู่การที่กระทรวงสาธารณสุขสามารถจะผ่อนคลายมาตรการเสนอใน ศบค.ชุดใหญ่”



สำหรับรายงานสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ในประเทศไทย มีรายละเอียดดังนี้
- ติดเชื้อในประเทศ 2,690 ราย
- ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 0 ราย
- ติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย
- รักษาหายเพิ่มขึ้น 1,779 ราย
- หายป่วยสะสม 4,468,336 ราย (ตั้งแต่ปี 2563)
- อยู่ระหว่างรักษาตัว 23,931 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 10,587 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 13,344 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก (ปอดอักเสบ) 684 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 292 ราย
- มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 15 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 30,607 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563)
- อัตราครองเตียงระดับ 2-3 คิดเป็น 9.9%
- ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,522,915 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อ 2,695 รายใหม่ แบ่งเป็นดังนี้
- ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,690 ราย
- ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 0 ราย
- เรือนจำ/ที่ต้องขัง 0 ราย
- ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย
ขณะที่ยอดการตรวจ ATK รายงาน ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2565 เวลา 07.30 น. ตามข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข พบติดเชื้อเข้าข่าย หรือ ATK เป็นบวกอีก 4,034 ราย ส่วนยอดผลบวกสะสมอยู่ที่ 1,860,377 ราย.


