“ชัชชาติ” ลุยเดี่ยวพบพนักงานกวาดถนน เห็นเหตุการณ์คนร้ายจี้ชิงทรัพย์นักเรียนหอวัง ขอบคุณช่วยเป็นหูเป็นตา ย้ำ พื้นที่มีความเสี่ยงต้องดูแลเป็นพิเศษ ขอความร่วมมือตำรวจช่วยสนับสนุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (29 มิ.ย. 2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ลงพื้นที่โรงเรียนหอวัง โดยได้พบกับ นางกัลชนา เนตรวิจิตร พนักงานกวาดถนน สำนักเขตจตุจักร ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์เด็กนักเรียนโรงเรียนหอวังถูกจี้ชิงทรัพย์ และตรวจดูสภาพความปลอดภัยถนนหอวัง

จากการสอบถามเหตุการณ์ นางกัลชนา เล่าว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะขี่รถจักรยานยนต์มาทำงาน เห็นคนร้ายมองตั้งแต่ตนเองขี่รถมาเวลาประมาณ 05.30 น. ซึ่งพื้นที่จุดดังกล่าวมีต้นไม้ห้อยลงมา และไม่มีไฟ ขณะนั้นรู้สึกแปลกใจว่าไม่เคยเห็นคนนี้ โดยช่วงที่กำลังจะไปหยิบไม้กวาดมากวาดถนนที่ซอย 17 เห็นคนร้ายเดินมาจากฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต และเข้าไปประกบเด็กนักเรียนที่เดินมาจากหัวถนนหอวัง ฝั่งพลโยธิน เห็นเบียดๆ เหมือนบังคับ นึกว่ามีการลวนลาม ซึ่งตนเองไม่กล้าเข้าไปช่วยเพราะเป็นผู้หญิง จึงขี่รถไปตามหาคนช่วยและมาบอกอาจารย์ในป้อมว่า ให้ไปช่วย มีเด็กจะถูกลวนลาม

แต่เมื่อออกมาคนร้ายก็วิ่งหนีไปแล้ว ส่วนเด็กก็วิ่งตาม จึงขี่มอเตอร์ไซค์ตามเพื่อดูว่าคนร้ายไปทางไหน แล้ววนกลับมาถามเด็กว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทางเด็กบอกว่าเหมือนเขาเอาปืนมาจี้ โดยเอาเงินไป 100 บาท และแจ้งพ่อไปแล้ว ส่วนอาจารย์ก็แจ้งตำรวจแล้วตำรวจก็มา ทั้งนี้ ตนเองทำงานมา 3 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ รู้สึกแปลกใจ

ทางด้าน นายชัชชาติ ได้ขอบคุณที่ช่วยเป็นหูเป็นตา คอยสังเกต และชื่นชมว่ามีไหวพริบดีมาก จากนั้นตรวจดูโรงเรียนเบื้องต้น พร้อมกล่าวว่า บริเวณรอบโรงเรียนหอวังมีจุดที่เปลี่ยวที่เดินจากถนนใหญ่เข้ามา คือถนนพหลโยธิน และเด็กบางคนก็มาโรงเรียนตั้งแต่ 05.30 น. ซึ่งโรงเรียนหอวังก็คงมีการสั่งการ แต่ต้องเน้นดูโรงเรียนของ กทม. 437 แห่งเป็นหลัก โดยให้เทศกิจมาช่วยดูบริเวณทางข้ามถนน และต้องหารือให้ดูจุดที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติมว่าตรงไหนเป็นจุดที่อับและอาจจะก่อให้เกิดอาชญากรรม ซึ่งได้แจ้งเทศกิจไปแล้วให้มาดูทั้งการจราจรและความปลอดภัยมิติอื่นๆ รวมถึงคงต้องขอความร่วมมือกับตำรวจเพราะ กทม. อาจจะไม่ได้กำลังคนเพียงพอที่จะดูแลทุกโรงเรียน

...

ผู้ว่าฯ กทม. ระบุต่อไปว่า โดยปกติโรงเรียนจะอยู่ใกล้ตลาด ใกล้ชุมชน เทศกิจก็ต้องทำหน้าที่แถวนั้นอยู่แล้ว ซึ่งช่วงเช้าและเย็นก็จะแวะมาดูหน้าโรงเรียนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยด้วย อีกทั้งมองว่า แต่ละโรงเรียนต้องช่วยดูเรื่องจุดเสี่ยงเพิ่มเติมด้วย เพราะจะเข้าใจว่าเด็กนักเรียนมาถึงกี่โมง เส้นทางไหนที่เด็กเดินเป็นประจำ หากมีปัญหาส่วนไหน ทั้งเรื่องต้นไม้ ไฟส่องสว่าง กล้อง CCTV กทม. จะเข้าไปช่วยดำเนินการให้


พร้อมกันนี้ นายชัชชาติ ยังได้ขอบคุณ คุณแก้ว พนักงานกวาดถนน ที่ช่วยกันเฝ้าระวังป้องกันเหตุและช่วยเป็นหูเป็นตา ซึ่งมองว่าควรจะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาและรีบเข้าไปดำเนินการ หรือแจ้งครู ขณะที่วันนี้จะมีการประชุมทั้ง 50 เขต ต้องเน้นว่าให้ช่วยเป็นหูเป็นตาดูเรื่องความปลอดภัย ซึ่ง กทม. มีพนักงานกวาดถนนและพนักงานรักษาความสะอาดกว่า 10,000 คน ก็คงให้ดูหลายเรื่อง ทั้งเรื่องความปลอดภัย ไฟส่องสว่างที่ชำรุด ทางม้าลายที่ซีดจาง เหมือนเรามีหูมีตาอยู่ เน้นให้ดูในหลายๆ มิติ

“คงไม่ใช่เฉพาะโรงเรียนหอวัง แต่จะเอาตรงนี้เป็นบทเรียนและไปขยายผลต่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งกรุงเทพฯ ให้ได้ ส่วนโรงเรียนไหนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษหรือไม่นั้น มองว่าต้องดูพื้นที่ ลักษณะรูปแบบ โดยโรงเรียนหอวังเป็นจุดที่มีความมืด มีการคมนาคมทางเข้า-ออกหลายทาง คนร้ายอาจจะดูลาดเลาทางหนีได้ แต่ถ้าโรงเรียนที่มีทางเข้า-ออกทางเดียวก็คงไม่มีความเสี่ยงมากเท่านี้ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ไปอีกทีว่า โรงเรียนลักษณะแบบไหนที่มีความเสี่ยงก็จะดูแลเป็นพิเศษ”

อย่างไรก็ตาม นายชัชชาติ ยังบอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ตั้งใจมาหานางกัลชนา พนักงานกวาดถนน ที่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ และเดินทางมาคนเดียว ขับรถมาเอง ก่อนที่จะกลับออกไปทำภารกิจต่อ.