"มิสเตอร์เกษตร" สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ ขอบคุณ "รบ.-ก.อุตสาหกรรม" ทำชาวไร่อ้อยยิ้มได้ หลังผุดมาตรการหนุนตัดอ้อยสด ช่วยลดมลพิษฝุ่น PM 2.5-เพิ่มพื้นที่เพาะปลูก-ช่วยส่งออกเพิ่ม แนะหาทางแก้ค่าแรงตัดอ้อยสดยังสูง-รองรับปัญหาผลผลิตล้นตลาด หลังคนหันมาปลูกเยอะขึ้น
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 65 นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงสถานการณ์ของชาวไร่อ้อย ว่า อ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 10 ล้านไร่ทั่วประเทศ ปีที่ผ่านมามีผลผลิตมากกว่า 90 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มจากปีก่อนทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยมีความสุข เพราะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอาจมีหลายปัจจัย ทั้งสภาพอากาศและมาตรการที่รัฐบาลได้ปกป้องสิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือเกษตรกรที่ตัดอ้อยสดเข้าสู่โรงงาน มีการวางแผนการเพาะปลูก โดยราคาอ้อยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรสามารขายได้เกือบตันละ 1,200 บาท ทำให้ปีนี้มีเกษตรกรรายใหม่เพิ่มพื้นที่การเพาะปลูก ซึ่งในปีนี้คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลคาดการณ์ว่า ผลผลิตจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านตัน ตนกังวลใจว่าหากผลผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจะมากเกินความต้องการ เกินความสามารถในการรับสินค้าของโรงงาน อาจจะซ้ำรอยปี 2560-2561 หรือไม่ เพราะตัดส่งโรงงานไม่ทัน ต้องตัดทิ้งรวมทั้งเกษตกรอาจถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้า ตนจึงอยากให้รัฐบาลหามาตรการป้องกันในจุดนี้ด้วย
นายสัมฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนต้องขอบคุณ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรัฐบาลที่ได้ช่วยลดต้นทุนการผลิตและอุดหนุนการตัดอ้อยสด และยังคงอุดหนุนการตัดอ้อยสด โดยทาง นายสุริยะ ระบุว่าจะได้รับราคามากกว่าปีที่แล้ว เพื่อลดการเผาอ้อยและลดมลพิษทางอากาศ ตามข้อตกลงกับการค้าโลก ไม่ขัดข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ มีการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ส่งเสริมการรับซื้อใบอ้อยเพื่อลดการเผาใบอ้อย และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชีวะภาพจากอ้อยอย่างจริงจัง เช่น เอทานอล พลาสติกจากใบอ้อย ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกกันมากขึ้น รวมทั้งราคาน้ำตาลในตลาดโลกสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาตรการลดการเผาอ้อย เป็นการร่วมกันแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม และประชาชนมีสุขภาพที่ดีกว่าเก่า
...
"รัฐบาลกำหนดให้ปัญหาฝุ่นละอองเป็นเรื่องสำคัญ จึงกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องแก้ไขเป็นการเร่งด่วน 3-4 ปีที่ผ่านมามีอ้อยไฟไหม้ 60-70% รัฐบาลจึงลดการเผาอ้อย จูงใจให้เกษตกรหันมาตัดอ้อยสด ซึ่งปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ ลดการเผาอ้อยไปได้มาก และอีกเรื่องที่ผมอยากฝากไว้ คือ เรื่องค่าแรงตัดอ้อยสดเข้าสู่โรงงานสูงกว่าค่าแรงตัดอ้อยไฟไหม้ จึงอยากฝากให้ท่านรัฐมนตรีและรัฐบาลนำไปพิจารณาด้วย เพื่อให้มาตรการต่างๆ สัมฤทธิ์ผลอย่างรอบด้าน" นายสัมฤทธิ์ กล่าว.